ก๊วนซอฟท์แวร์ </softganz> SoftGang (Gang Software)

Web &amp; Software Developer Gang.

Topic List

โดย Little Bear on 31 มี.ค. 55 09:14

เคยมีปัญหาเครื่อง Lenovo Z470 หา Wifi access point (ของข้าพเจ้าเอง) ไม่เจออยู่หลายครั้งเหมือนกัน ในขณะ(เดียวกัน)ที่เครื่องอื่น ๆ กลับหา access point นั้นเจอ และใช้งานได้ตามปกติ แต่เจ้าของ access point กลับหาไม่เจอ

เง็ง ๆๆๆ มาก ๆๆๆ

ก็เลยเอาสาย LAN ไปเสียบ แล้วเข้าไป config ใหม่ ที่ลองแก้อยู่มี 2 จุด คือ Encryption เปลี่ยนเป็น TKIP/AES กับอีกจุดคือ เปลี่ยน Channel จาก Auto ไปเป็น 1-13 (อะไรก็ได้)

ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาไปได้ ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า ช่วงคลื่นของ Wifi ที่ access point ของเรา อาจจะชนกับ access point ของเครื่องอื่น ๆ ในบริเวณนั้น ๆ

วันนี้ ได้ไปอ่านบทความชิ้นหนึ่ง IETF ไปประชุมที่ฝรั่งเศส พร้อมปรับปรุง Wi-Fi ให้โรงแรม จึงได้ถึงบางอ้อ และทึ่งกับวิธีการจัดการแก้ปัญหาของทีมวิศวกรเครือข่าย (คือตัวเองไม่ได้เป็นวิศวกรเครือข่าย สมัยเรียน Wifi ยังไม่เกิด แม้แต่ Cellular ก็เพิ่งเริ่มมีได้ไม่นาน แต่ก็พอรู้มาบ้าง) ที่แก้ปัญหาจากความเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานและดัดแปลง ปรับแต่งศักยภาพของอุปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดให้สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม นี่แหละสุดยอด!!!!!

บทความนั้นมีรายละเอียดตามนี้

เรื่องราวแปลกประหลาดบางทีก็เกิดขึ้นได้ในโลกไอทีเมื่อทีม IETF หรือ Internet Engineering Task Force (ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งส่งมาตรฐาน HTTP 2.0 ให้พิจารณา) ได้ไปประชุมกันที่โรงแรม Concorde Lafayette ในปารีส และพบว่าอินเทอร์เน็ตใช้งานแทบไม่ได้ แพ็กเก็ตสูญหายไปถึง 30% และเวลา latency ของเครือข่ายนั้นสูงถึง 5-6 วินาที

เหตุผลของเรื่องนี้คือผู้เข้าประชุมกับ IETF นั้นล้วนใช้อินเทอร์เน็ตกันทุกคน พอคนใช้มากๆ เข้าช่องความถี่วิทยุของ Wi-Fi ก็เต็มจนใช้งานไม่ได้

แต่ในเมื่อวิศวกรที่ออกแบบอินเทอร์เน็ตมารวมกันจนเต็มโรงแรม จะมีอะไรต้องกลัวอีก?

หนึ่งในนั้น คือ Chris Elliott อดีตวิศวกรของซิสโก้ ได้เข้าตรวจสอบเครือข่าย และพบว่าการคอนฟิก Access Point (AP), การวางแผนคลื่นความถี่, ตลอดจนการเลือกจุดวาง AP ของโรงแรมนั้นทำได้ไม่ดี

Elliott ตรวจสอบการเชื่อมต่อของ MAC, IP ว่ามาจากพอร์ดใดบ้างด้วย netdisco แล้วจึงมอนิเตอร์คอนฟิกที่เขาแก้ไปด้วย rancid ที่จะล็อกอินเข้าไปยังอุปกรณ์เพื่อเก็บความเปลี่ยนแปลงของคอนฟิกมาลง CVS เป็นระยะ

หลังจากนั้นทีมวิศวกรของ IETF เริ่มเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆ เริ่มด้วยการปรับค่าความไวต่อสัญญาณฝั่ง "รับ" ของ AP ให้ต่ำลง, เพิ่มความเร็วต่ำสุดจาก 1Mbps เป็น 2Mbps ทำให้อุปกรณ์ต้องต่อเข้ากับ AP ที่ใกล้ตัวเองมากกว่า, ลดความแรงสัญญาณส่งลงเหลือ 10dBm จาก 20dBm, สุดท้ายคือการเพิ่มช่องสัญญาณจาก 3 ช่องปรกติ ที่มักใช้ 1, 6, 11 เป็น 1, 5, 9 ,13 แม้จะมีปัญหาการกวนกันระหว่างช่องสัญญาณบ้างและอุปกรณ์บางตัวไม่สามารถเชื่อมต่อที่ช่อง 13 ได้ แต่ก็ทำให้การจัดการทำได้ดีขึ้น จากนั้นทีมงานจึงเลือกเปลี่ยนโหมดการทำงานของ AP บางตัวให้เป็น 5GHz แทน

ทีมเน็ตเวิร์คทีมนี้คงหาจ้างไม่ได้ที่ไหนในโลก

ที่มา - NetworkWorld

ที่มา www.blognone.com