Contents
จากเฟซบุ๊คของนิตยสารไรท์เตอร์เรียน สมาชิกนิตยสารไรท์เตอร์และเพื่อนนักอ่านทุกท่านขอบคุณครับผมและชาวไรท์เตอร์ขอกล่าวคำนี้ดังๆ เรารู้สึกได้ถึงความตื่นตัว ติดตาม และมีน้ำใจให้กันงานวันที่ ๒ และ ๓ เมษายนที่ผ่านมาที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นความทรงจำที่ดีครับขณะนี้ไรท์เตอร์เดินหน้าแล้ว ต
ห่างหายจากเวบบอร์ดนี้ไปนาน แต่ยังไม่หายไปจากโลก ก็เรยต้องแวะเวียนกลับมาทักทาย ท่านเจ้าของบอร์ดและสมาชิกทุกๆท่าน ก่อนที่จะหายเข้าป่าไปอีกรอบ แห่ะๆสวัสดีเด๊อครับ คุณลุง สบายดีบ่ครับช่วงนี้ถ้ารู้สึกเครียดๆกับ เหตุการณ์บ้านเมือง การทำมาหากิน ก็สละเวลาพักผ่อนนะครับพักผ่อนกายแล้วอย่าลืม พักใจด้วยนิบ
๏ รักขื่นรักช้ำ จะทำไฉน.................. ในหัวใจ ยังพร่ำเพ้อดื่มเหล้าใยเรา กลับเมารักเธอ ..เพราะรักเก้อ จึงเพ้อครวญ๏ กลางวงสุรา ดั่งนิรทุกข์ ........ แม้นไร้สุข แต่แสร้งสรวลความจริง อกช้ำ ระกำคร่ำครวญ........... แต่มิควร แสดงใจ๏ เพราะเพื่อนทั้งหลาย คงหมดสนุก. แลจักทุกข์ กังวลไปจึ่งจำท
สนพ. ออนอาร์ต ได้จัดส่งมาให้แต่เนิ่นๆ เป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังยุ่งๆอยู่พอสมควร เลยลืมไปสนิท จนวันหนึ่ง บ.ก. ออนอาร์ต ก็ถามว่าได้รับแล้วยัง จึงนึกขึ้นได้ และรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่มันนึกไม่ออกจริงๆว่าวางเอาไว้ตรงไหน ไปภูเก็ตกะว่าจะถือติดมือไปอ่านด้วย ก็เลยต้องหยิบ เชลย นิยายของ พิริยะ พนาสุวรรณ ไปอ่
หายไปภูเก็ตซะ 3-4 วัน รู้สึกชีวิตสดใสและกระชุ่มกระชวยขึ้นมาก หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอด มานั่งนึกๆชีวิตตัวเองก็ใจหาย ทำงานมาแต่อายุ 16-17 พอ 18 ก็เริ่มจับเครื่องทำเส้นบะหมี่ ห่างจากงาน 3 ปี กว่าตอนเรียนราม ก็โดนเรียกกลับให้มาช่วยงานที่ร้านเมื่อปี 2532 และนับแต่นั้นก็ทำงานเรื่อยมา เงินเก็บก็พอสมควร หา
น้ำท่วมใต้ปีสองห้าห้าสี่...เป็นพายุ เป็นห่าฝน ช่วงต้นปีโดยไม่มีผู้ใดได้ตั้งตัวปริมาณเม็ดฝนที่หล่นมามากกว่าปีก่อนก่อน ราวฟ้ารั่วฟ้ามีนา-เมษายนจึงหม่นมัวทะมึนทั่ว นครศรีฯ กระบี่ ตรังดินไถลโคลนถล่มลงถมทับชาวบ้านนับไม่ถ้วนชวนสิ้นหวังเห็นสวนยางบ้านเรือนที่เกลื่อนพังได้แต่หลั่งน้ำตาคลอ
ความเปราะบางค้างคามีนาคมรอสายลมสรวลเสเสียงเมษานกหมื่นฝนหล่นรายจากปลายฟ้าเรากลายเป็นพรมผืนหญ้าอ้าแขนรับ........................................................."โอ!,กัปตัน" แว่วยินโอ!,วิญญาณฉวยวันวารเอาไว้เถิดวัยเยาว์โต๊ะแห่งเรารอยเค้าร่างบางผู้ขบถเปลื้องปลดกรงครอบ-กรอบคร่ำเก่า...สดับเถิด
**...ความเหงาหรือคือเสี้ยวความรู้สึกจากส่วนลึกภายในย่อมใจเหงาเอื้ออาทรซึ่งกันอาจบรรเทาความทุกข์เศร้าเลือนหายจากใจนั้น ...... ดอกรักแรกแตกหน่อรวงช่อรักสะพรั่งพรักไมตรีแทนสีสันเพียงแรกผลิบริสุทธิ์ดุจสัมพันธ์ผ่านคืนวันงามตาควรค่าปอง ...... ทุกทุกครั้งหวังทนุถนอมเจ้าทุกทุกเหงาเราสมัค
**ย บนถนนหนทาง...ทุกย่างก้าวหลากเรื่องราว...เริ่มต้นให้ค้นหาได้เรียนรู้ ... ผู้คน ... บทสนทนาด้วยภาษา ... ท่าทาง ... ที่ต่างไป ....... ทาง..ใบไม้ร่วงหล่นจนกลาดเกลื่อนฤดูกาลย้ำเตือน ... โดยเคลื่อนไหวการผลิดอกออกผลจนทิ้งใบฝากร่องรอยคล้อยใจ ... ให้ตราตรึง ...... หลากเรื่องราว ... ค
ร้านผมมีลูกค้ามากมายและหลากหลาย คนค้าขายจึงต้องมีความอดทนอย่างสูง ก็ถือว่าเป็นการฝึกขันติไปในตัว ซึ่งหลายครั้งก็ถังแตกเอาเรื่องอยู่ กำลังคิดเป็นพล็อตเอามาเขียน กระนั้น ลุกค้าที่ผมไม่ยินดีต้อนรับ ลุกค้าที่ผมไม่คุยด้วย ไม่บริการให้ ก็มีเพียงแค่ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ นอกนั้นต้องกบ่าวว่าเป็นลูกค้าเกร