Topic List
๑).
ไม่เชื่อเธอลองเพ่งมองดู
ดินที่ตรู่ปาดป้ายระบายสี
ดาวสุดท้ายร่วงลงเป็นผงคลี
นกที่ขานขับมารับเช้า
และกลีบขาวของแก้วที่เกลื่อนลาน
ผ่านการร่ำรมของลมเศร้า
หอมนั้นจะหวานอยู่นานเนา
นานเท่าการก่ำของน้ำตา
ของเรา-
แสงเงาตกลงมาตรงหน้า
ขณะการถ่ายเทห้วงเวลา
แดดเปลี่ยนมุมองศากับฟ้าไกล
มิรู้หรอกใครหนอหมอสุรินทร์ ?แผ่นดินนี้ช่างแสนกว้างใหญ่ทั้งแปลกหน้าแปลกแยกทั้งแปลกใจเป็นไปในความธรรมดาความตายนั้นแสนเศร้าโดยแท้เหลือแต่ความทรงจำอันล้ำค่าให้เห็นเพียงแสงแพรวของแววตาบนฟ้าคืนเศร้าเพียงเท่านั้นดาวดวงใดบนฟ้าดวงตาหมอ ?มีคนรอดูดาวอยู่หนาวสั่นหอมกลิ่นธูปเทียนเถ้าเขม่าควัน
ในสนามเด็กเล่น๑).ไม่มีเมฆล่องบนท้องฟ้าผ่านมาแผ่วเบาคือเปล่าว่างลมพัดใบไม้มาบางบางก็คว้างคว้างเคว้งเคว้งในเพลงลมแดดแสงสุดท้ายที่ฉายฉาดทาบปาดพาดป้ายระบายห่มแล้วโลกสีทองสุกลูกกลมกลมก็ร่มเงาหม่นสนธยากระดานกระดกว่างเปล่าดูเหงางึมทึมทึมงำงำสนามหญ้าโยงกิ่งไม้นิ่งคือชิงช
พายุฤดูใหม่๑).ว่ากันว่า-คืนที่ฟ้ามืดมิดสนิทห้วงเมื่อลมม้วนหวนต่ำเป็นลำงวงมันจะเหยียดยาวยวงถึงดวงดาวเป็นพายุมาจากอีกฟากฝั่งเพียงครึ่งค่อนพลังก็พังหาวพัดเอาใบไม้พรูกันกรูกราวหอบฝุ่นมุ่นขาวคลุมด้าวแดนกลบดาวกลบเดือนให้เลือนลบตรลบฟ้าฝั่งไปทั้งแผ่นเกิดการพังพินาศจนลาดแบนล้านแสนแ
ชายขี้เมาแห่งละม้ายสงเคราะห์๑).ตื่นมาอย่างงงงุนอย่างรุนแรงลำคอแห้งผงผาก - สากผุยสมองบดจนร่วนจนซ่วนซุยเกินคุ้ยเกินคืนความทรงจำแอลกอฮอร์ยังเต้นในเส้นเลือดปุดเดือดดีกรีมิเป็นส่ำความเมายังค้างเติ่งยังเจิ่งงำผลการกรำราตรี - ดีกรีแรงข้าพเจ้าลุกมาเพื่ออาเจียนคลื่นเหียนสำรอกขยอกแขยงค
หลังการแตกสะเก็ดของดวงดาวหลับตาสิ- แล้วดิ่งลงลึกไปในเงามืดของความฝัน ดวงดาวล้านดวงกำลังสุกปลั่งสว่างไสวและกาแลกซี่กำลังเปลี่ยนระนาบได้ยินไหม?เสียงแตกสะเก็ดของดาวบางดวงก่อนร่วงลิ่วกราวลงมาพื้นโลกบนดิน- บนพื้นดินที่เธอเหยียบยืนด้วยกระ
ลายกนก...ม้วนหัวลากเส้นเป็นกนกลายตกแต่งโลงทั้งซ้ายขวามีคนประสานมือนอนหลับตาดวงหน้าไร้ความรู้สึกใดการหลับอันนานยาวตราบเท่านานเพื่อสังขารผุยผง ย อสงไขยยิ่งกัปยิ่งกัลป์ยิ่งผ่านไปเหลือแต่ความเปล่าไร้ความไม่มีเราคือความต่างแตกความแปลกหน้าเกิดมาเพียงครั้งในบางที่ร่วมโลกใบเก่าเก่า ย
พลายงามว่าพ่อรักแม่เจ้าสักเท่าไหนจึงเลือกให้เป็นผู้กำเนิดเจ้ามือพ่อกร้านกรำงานมานานเนากอดเยาว์ก็เกรงระคายตัวต้องมือแม่นิ่มนุ่มไร้ปุ่มปมป้อนนมชมจูบได้ลูบหัวแผ่วแผ่วเบาเบา - กลัวกลัวเนียนเนื้อเจ้ามัวเจ้าหมองรอยว่าพ่อรักแม่เจ้าถึงเท่านี้งานที่มีจึงสู้มิรู้ถอยหยาดเหงื่อเรื่อด่างจน
ขมร้าวก็นั่นแหละ-มันคือบอระเพ็ดขมดำน้ำตาเล็ดได้เสร็จสรรพมันเป็นความรู้สึกอันลึกลับที่ซับเรียวลิ้นทั้งชิ้นเนื้อก็นั่นแหละ-อัญมณีน้ำหนึ่งตกจึงงามไหนก็ไม่เหลือมันเป็นความครึ้มคลุ้มอันคลุมเครืออันยืดเยื้อเรื้อรังไปทั้งใจโอ-งามเคยงามอยู่หลามล้นมาบัดนี้หนึ่งคนกลับร่ำไห้บอระเพ็ดเข็ด
เจ้าชายแสงจันทร์๑).เธอเอย-ฟ้ามืดนั้นจักเผยแสงจันทร์จ้าสูงสุดสูงสุดเงื้อมสุดเอื้อมคว้านวลดวงนวลตานวลใยนานมาแล้ว-กาลครั้งหนึ่งม้ามีปีกเผ่นผึงไปถึงไหนตะกุยฟ้าเมฆแตกวิ่งแหวกไปจากใจกลางจันทร์-จากแสงจันทร์เป็นเส้นแสงแทงตรงมาลงโลกเบื้องหน้าดวงตาโศกคนช่างฝันพอฝุ่นเงียบระลอกจากหมอกควัน