สงครามสมัยใหม่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

by ภู @13 ส.ค.49 20.49 ( IP : 61...8 ) | Tags : กระดานข่าว

นับแต่เหตุการณ์สหรัฐอเมริกาเข้ายึดครองอิรัก ความรู้สึกถูกรังแกของคนที่เป็นมุสลิมก็มีพลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะกองกำลังสหรัฐฯถูกสร้างให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการกดขี่พี่น้องมุสลิมมาเนิ่นนาน แม้ภายหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ที่สหรัฐฯประกาศทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย แต่มุสลิมจำนวนมากก็ยังเรียกสงครามชนิดนี้ว่าเป็น “สงครามรุกรานอิสลาม”

พลังของความอยุติธรรมที่ชัดเจนโดยจักรวรรดินิยมอเมริกา ทำให้พลังของการอธิบายเรื่องความอยุติธรรมของจักรวรรดินิยมในอดีตยิ่งมีอำนาจตามไปด้วย ศาสนาและชาติพันธุ์ดั้งเดิมกลายเป็นเงื่อนไขแห่งสงครามปลดปล่อย รอเพียงการจุดชนวน แล้วสงครามก็จะปะทุ

เหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหารจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2004 คือวันที่คนส่วนใหญ่นับกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แท้จริงในห้วงเวลาดังกล่าวแนวร่วมมีอยู่เพียงจำนวนหนึ่ง และไม่อาจปฏิบัติการได้เต็มประสิทธิภาพ ถ้าไม่มีเงื่อนไขของความอยุติธรรมโดยรัฐไปส่งเสริม ไม่ว่าจะเป็นกรณีการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งเป็นปากเสียงของพี่น้องมุสลิม, กรณียิงจรวดอาพีจีถล่มมัสยิดกรือเซะ, และยิ่งกับกรณีความตายที่ตากใบในเดือนรอมฏอน เหล่านี้ต่างหากที่จุดชนวนสงครามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้น

เรื่องที่น่ากังวลของสงครามครั้งนี้ก็คือ มันไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้ด้วยกำลังอาวุธของทุกฝ่าย รัฐเองก็ย่อมไม่ยอมสูญเสียอธิปไตยจากสงครามที่เรียกกันว่า “ปัญหาภายใน” อย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อไรที่ยินยอมให้เป็นเช่นนั้นได้ ก็เท่ากับเป็นการยอมรับไปในตัวด้วยว่าในอดีตเราไปได้ผืนดินและผู้คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มาด้วยความเป็นจักรวรรดินิยมในภูมิภาคของอาณาจักรสยาม

กล่าวเช่นนี้ ที่จริงประวัติศาสตร์ที่พี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดรับรู้เกี่ยวกับพื้นที่ของตนก็มีความบิดเบือนอยู่มาก ไม่แพ้ประวัติศาสตร์โดยรัฐ เพียงแต่เมื่อที่ผ่านมาพวกเขารู้สึกว่าถูกกระทำจากประวัติศาสตร์ของรัฐ ดังนั้นประวัติศาสตร์อีกแบบจึงกลายเป็นความชอบธรรม(เพราะเป็นความภาคภูมิ และไม่ปรากฏผลเสีย เพราะไม่ได้ถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้)

เรื่องสำนึกความเป็นชาติ สำนึกทางประวัติศาสตร์ ก่อให้เกิดเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำสงคราม ซึ่งผู้รักชาติ(ปัตตานี)เหล่านี้ มีความรู้สึกว่าตัวเองสู้อย่างมีศักดิ์ศรี และตายอย่างมีเกียรติ์ คือมีอนาคตของปัตตานีเป็นเดิมพัน ฉะนั้น จึงทำให้มีผู้อาสาเข้าเป็นกองกำลังสู้รบรายใหม่ๆ อยู่ต่อเนื่อง คล้ายกับในสมัยสงครามเวียดนาม

“การสู้รบดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ กำลังฝ่ายกองทัพประชาชนกับแนวร่วมสูญเสียกำลังคนไปไม่น้อย แต่ก็ได้ชิงความเป็นฝ่ายกระทำ ทำให้เขตปลดปล่อยในชนบทขยายออกไปอีก ร้อนถึงอเมริกาได้ส่งกำลังทหารมาเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา วิธีปราบปรามด้วยการสังหารชีวิตชาวเวียดนามผู้รักชาติ แม้กระทั่งผู้ต้องสงสัย ซึ่งอเมริกาถือว่าเป็นชัยชนะ แต่ผลกลับทำให้ผู้คนเข้าร่วมขบวนการปลดปล่อยมากขึ้น”(ศุขปรีดา พนมยงค์ .โฮจิมินห์ เทพเจ้าผู้ยังมีลมหายใจ.กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์มิ่งมิตร.2549)

ดังนั้น เมื่อมีบุคลากรของรัฐเสนอใช้วิธีการปราบปรามอย่างรุนแรง เราก็ควรจะคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาได้

ในการสู้กับกองกำลังที่ไร้รูปแบบ ไร้เครื่องแบบ ไร้เพศ-วัย แต่มีเป้าหมายในการทำสงครามอย่างชัดเจน ทำให้กองกำลังของรัฐมีแต่จะรอความเพลี่ยงพล้ำในการตั้งรับ เพราะไม่รู้จะรบกับใคร และไม่มีเป้าหมายการรบชัดเจนเหมือนฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่อาจอธิบายได้ว่า “เป็นอื่น” หรือพวกมือที่ 3(ต่างชาติ) อย่างที่รัฐเผด็จการชอบใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามผู้ขัดขวางผลประโยชน์

อำนาจรัฐถูกท้าทายด้วยอาณาจักรที่ยังไร้ผู้ปกครอง โดยการปฏิเสธการปกครองของรัฐ โดยกำจัดคนในพื้นที่ซึ่งยอมรับสถานภาพว่าเป็นคนของรัฐไทย

การจะคงอยู่ในพื้นที่ต่อไปได้ นอกจากต้องเป็นมุสลิมโดยกำเนิดแล้ว จึงยังต้องเลือกอยู่ข้างเดียวกับผู้ก่อความไม่สงบอีกด้วย

ทุกย่างก้าวของทหาร-ตำรวจที่ถูกส่งลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อยู่ในวงล้อมของพวกเขา สิ่งเดียวที่จะหยุดยั้งความไม่สงบ ก็คือการเจรจา และถึงที่สุด เราอาจต้องยอมให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นเขตปลดปล่อย โดยรัฐบาลต้องรองรับด้วยนโยบายอพยพผู้คน(ซึ่งสวามิภักดิ์กับรัฐไทย)ออกนอกพื้นที่ การมีรัฐเกิดขึ้นใหม่อีกรัฐหนึ่ง เป็นกันชนระหว่างไทยกับมาเลเซีย อาจดีกว่าการต่อสู้กับสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ด้วยความกระหายที่ดิน แรงงาน และทรัพยากร

หรือไม่ ถ้าเราไม่อยากสูญเสียผืนดิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไป(โดยส่วนตัวผมมีความเห็นว่ายิ่งการรบยืดเยื้อ เราก็จะยิ่งสูญเสียอาณาเขตของรัฐมากขึ้น เช่น อำเภอเทพา อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งรัฐไทยต้องยิ่งเพิ่มกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดแน่ๆ เพราะเป็นพื้นที่โครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย) เราก็ต้องต่อสู้ด้วยการสร้างพลังศรัทธาที่ยิ่งกว่าประวัติศาสตร์การรุกรานรัฐปัตตานีขึ้นมา ซึ่งพลังศรัทธาที่ว่าจะต้องมีความเด่นชัดอย่างยิ่งในเรื่องของความยุติธรรม และความเสมอภาค

และในความจำเป็นที่จะต้องมีอยู่ของตัวแทนรัฐไทยขณะนี้ เราจะเห็นได้ว่ายังไม่มีการทำลายโรงพยาบาลเกิดขึ้นเลย เหนือศรัทธาต่อองค์ความรู้ทั้งมวลเรื่องการสร้างรัฐปัตตานีขึ้นมาใหม่(ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีวัฒนธรรมการตรวจสอบข้อเท็จ-จริง เหมือนคนไทยทุกภาคส่วน ดังได้อธิบายวัฒนธรรมนี้แล้วในสัปดาห์ก่อน)จึงยังมีศรัทธาเรื่องการแพทย์สมัยใหม่ดำรงอยู่ด้วย ความเป็นรัฐไทยที่เข้มแข็งที่สุดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จึงอยู่ที่ “โรงพยาบาล” อันเป็นศูนย์คุณธรรมความดีแห่งเดียวที่พี่น้องมุสลิมปัตตานีแทบไม่มีความเคลือบแคลงใจ และเห็นความจำเป็นที่จะต้องรักษาหน่วยการแพทย์สมัยใหม่นี้เอาไว้

นอกจากนี้แล้ว อะไรคือความเมตตาอย่างแท้จริง และเป็นรูปธรรมจากรัฐไทย ถ้าสิ่งนั้นมีอยู่และสามารถดำเนินไปต่อเนื่อง เราก็จะไม่ต้องสูญเสียอันใดไปอีก ในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า

ช่วยกันคิดนะครับ

Comment #1
ฝ้าย(ปีศาจผมยาว) (Not Member)
Posted @16 ส.ค.49 12.07 ip : 61...98

วันนี้เจอแต่เรื่องสงคราม  เศร้าจัง....

Comment #2
Posted @17 ส.ค.49 21.01 ip : 203...179

การปล้นปืนไม่ใช่เบื้องต้นของมหากาพย์เรื่องนี้  ก่อนหน้าก็เคยมีการวางระเบิดประปรายมาก่อนแล้ว  และส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่หาดใหญ่  ไม่ว่าสถานีรถไฟ (ครั้งนี้ทำให้เหรียญคงหน้าคงหลังของหลวงพ่อคงวัดมะม่วงหมู่โด่งดัง) ที่ร้านหนังสือใจกลางสายสาม  และที่ลานจอดรถโรงแรมไดอิชิที่อยู่หลังบ้านผม   


หรือเหตุการณ์การเผาโรงเรียนที่เคยเกิดขึ้นมาในสมัยรัฐบาลก่อนๆ ไม่ว่ารัฐบาลนายชวน  หรือรัฐบาลพลเอกชวลิต

ที่แน่ๆไม่ใช่เรื่องของศาสนา - ชาติพันธุ์แต่อย่างใด


การจะทำให้เรื่องชายแดนใต้สงบนั้นมีวิธีเดียว  นั่นคือรัฐต้องพูดความจริง

เพราะที่ผ่านมารัฐไม่เคยพูดความจริงเลยว่าเหตุใดจึงเกิดความวุ่นวายได้ถึงเพียงนี้  และถ้าเป็น "สงคราม" จริง  กองทัพของรัฐที่มีศักยภาพสูงกว่า กำลังพลเยอะกว่า  น่าจะจัดการลงไปได้นานแล้ว  สมัย พคท. ที่อยู่ในป่าลึกลับและกระจัดกระจายอย่างเป็นระบบ  รัฐยังสามารถแทรกซึมและทำลายได้อย่างราบคาบ

โรงพยาบาลในทางสากลนั้น  ไม่ได้เป็นตัวแทนอำนาจรัฐแต่อย่างใด  สงครามโลกทุกครั้งหน่วยกาชาดจะได้รับการคุ้มครองและปกป้องอย่างดียิ่ง  โรงพยาบาลเป็นตัวแทนของความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์  เมื่อใดก็ตามหากเราให้ค่าโรงพยาบาลเป็นตัวแทนอำนาจรัฐ  เราจักเห็นความวอดวายของมนุษยชาติอันน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 56 user(s)

User count is 2441474 person(s) and 10247805 hit(s) since 27 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).