ติดเบ็ด ...

by จสอ.โจ @15 ต.ค.49 23.51 ( IP : 210...93 ) | Tags : กระดานข่าว

...

ยี่สกตัวยาวประมาณฟุตกว่า ๆ นอนสิ้นฤิทธ์อยู่ริมตลิ่ง โดยมีเด็กผู้ชายวัย 12 ปี ยืนถือคันเบ็ดไดว่าอยู่ข้าง ๆ อย่างผู้มีชัยชนะในการประลองกำลังและชั้นเชิง

มันอาจจะดูเป็นการต่อสู้ที่ดูไม่ยุติธรรมนัก เมื่อฝ่ายหนึ่งยืนอยู่บนผืนดิน กำอุปกรณ์ ที่ทันสมัยอยู่ในมือ และสัญชาติญาณนักล่าอยู่ในอก กับอีกฝ่ายหนึ่งที่แหวกว่ายอยู่ ใต้น้ำ และทำตามสัญชาติญาณการมีชีวิตรอด การต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ดำรงอยู่กับ มนุษย์ชาติมาแสนนาน เมื่อตกปลาขึ้นมาได้ ปลาก็กลายมาเป็นอาหาร เพื่อความ อยู่รอดของมนุษย์ เมื่อการคงอยู่ของอีกฝ่ายหนึ่งคือการสูญเสียของอีกฝ่ายหนึ่ง มัน ก็ดูเป็นเหตุเป็นผลทางตรรกที่ดูสมน้ำสมเนื้อ แต่มันบังเอิญที่ฝ่ายผู้ล่าอันชาญฉลาด อย่างมนุษย์ดันพบว่า วินาทีแห่งการต่อสู้นั้น มันกระตุ้นแรงเร่งเร้าอย่างประหลาด และชัยชนะต่อสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน .. ช่างดูยิ่งใหญ่

... โกวเล้ง เคยบอกไว้ว่า เมื่อเห็นอีกฝ่ายตายใต้คมดาบ ในใจอาจเกิดความเศร้า เสียใจเล็กน้อย แต่แล้วจะถูกความเร้าใจและเกียรติยศแห่งชัยชนะครอบคลุมแทนที่ บางครั้งถึงกับบังเกิดความรู้สึก .. สาแก่ใจ

นี่เป็นจุดอ่อนร่วมกันของมนุษย์ชาติ ...

มันก็คงไม่ต่างกันนัก กับความรู้สึกของคนที่ตกปลา

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

" น้าโจ .. ปลดเบ็ดให้ไอซ์หน่อยสิ "

ผู้ชนะของเราในวันนี้ หันมาบอกให้ผมช่วยเอาเบ็ดออกจากปากปลายี่สกตัวนั้น ผมไม่ แน่ใจว่าเด็กชายเกิดความเศร้าเสียใจอย่างที่โกวเล้งบอกหรือเปล่า แต่มันดูเหมือนแฝง แววแหยง ๆ ยังไงชอบกล ผมเดินเข้าไปหานักสู้แห่งบ่อตัวนั้นก่อนจะเอาฝ่ามือกดแนบ ลงไปบริเวณข้างตัวถัดจากเหงือก ก่อนจะจับก้านเบ็ดเบอร์ 12 พลิกไปมา ไอซ์ใช้ชุด ปลายสายเป็นตะกร้อผูกเบ็ด 2 ตัวบนล่าง เบ็ดตัวล่างแทงทะลุปากด้านบนออกมา
ผมลองงัดเบ็ดถอยออกแต่มันติด

" ไม่ออกว่ะไอซ์ .. เอาคีมมาปลดดีกว่า " ผมหันไปบอก ไอซ์เดินดุ่ย ๆ เข้าบ้านไปหาคีม บ้านไอซ์อยู่ใกล้ ๆ บ้านพี่สะไภ้ของผม หน้าบ้านมีบ่อประมาณ 1 ไร่ อุดมไปด้วยสวาย ยี่สก ตะเพียน ปลาหมอ ปลาช่อน จึงไม่แปลกที่ทุกเสาร์-อาทิตย์ บ้านไอซ์จึงกลายเป็น ที่ชุมนุมนักตกปลา ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติ ๆ คนรู้จักกันทั้งนั้น นั่งกินเหล้ากันไป ตกปลากันไป ตัวไหนหน้าตาน่ากินหน่อยก็ทอดซะ ไอ้ที่ตัวยังเล็ก หน้าตาน่าสงสารก็ปล่อยกลับลงบ่อ วันนี้นอกจากผม กับไอซ์ ก็มีพี่จุ๊บ กับพี่ทิดสุวรรณ นั่งเหวี่ยงคันกันอยู่ด้วย

ไอซ์ยังไม่เดินออกมาจากบ้าน สงสัยจะยังหาคีมไม่เจอ พี่ทิดสุวรรณ ซึ่งเป็นเซียนตกปลา ทั้งน้ำจืดและทะเล แกเลยเดินมาหาผม

" ไหน .. ให้พี่ดูดิ๊ "

พี่ทิดสุวรรณนั่งยอง ๆ ลง พลางจับก้านเบ็ด อีกมือกางเตรียมกดลำตัวปลา ผมค่อย ๆ เลื่อนมือที่กดตัวปลาออกปล่อยให้พี่ทิดแกเตรียมปลดเบ็ด และทันทีที่มือพี่ทิดสุวรรณ กดตัวปลา ..

สัญชาติญาณการมีชีวิตรอดเฮือกสุดท้ายของมันก็สำแดง ยี่สกตัวนั้นดิ้นสะบัดตัวดัง .. ปั๊บ

เบ็ดเบอร์ 12 คมกริบอีกตัวก็ปักฉึกเข้าที่นิ้วก้อยข้างขวามือของผม มันฝังเข้าที่ข้อนิ้วข้อแรก ฝั่งสันมือ และสัญชาติญาณของผมบอกว่า .. เฮ้ย .. เข้าลึกว่ะ ... ฉิบหายแล้ว

" พี่ทิดฮะ .. " ผมเรียกพี่ทิดสุวรรณ แกยังก้มหน้าก้มตาปลดเบ็ดที่ติดจากปากยี่สกตัวนั้นจนออก

" อะไร .. " แกเงยหน้าขึ้นมามองผม ผมได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ

" เบ็ดเกี่ยวนิ้วผมฮะ .. " ผมบอกพลางพลิกนิ้วก้อยให้แกดู แกร้องเฮ้ย ก่อนจะโยนยี่สกตัวนั้นลงน้ำ แล้วหันมาดึงมือผมไปดู พี่จุ๊บก็เดินเข้ามาดูอาการ ก่อนจะส่ายหน้า

" จมเงี่ยงว่ะ ถอยไม่ได้หรอก .. ดันให้มันโผล่ออกมาก่อนค่อยเอาคีมตัด " พี่จุ๊บสรุปอาการ ไอซ์ ยืนทำหน้าสยองอยู่ข้าง ๆ ถึงว่าทำไมมันไม่ยองปลดเบ็ดเอง

โถ .. ถ้าเอาคีมออกมาเร็ว ๆ ซะแต่ทีแรกนะ

ผมบอกความรู้สึกไม่ถูกเวลาที่กลั้นใจดันคมเบ็ดจนปลายแหลมเปี๊ยบของมันแทรกตัวผ่านผิวหนัง จนทะลุออกมา มันจะเรียกว่าเจ็บก็ใช่ที่ จะว่าเสียวสยองก็ไม่ใช่ มันปนเปกันไปหมด จวบจนปลาย เงี่ยงของเบ็ดผ่านพ้นออกมา ผมส่งมือให้พี่ทิดสุวรรณตัดปลายเงี่ยงของเบ็ดออก ก่อนจะกลั้นใจ ดึงเบ็ดถอยผ่านกลับออกมาอีกรอบ ..

เลือดไหลซึมตามออกมาทันที ผมถามหาน้ำแข็งเอามาห้ามเลือดก่อน บาดแผลถึงจะไม่ได้ใหญ่โต แต่การใช้พลาสเตอร์แปะทับไปบนนิ้วเลยก็ไม่ถูกวิธีนัก ควรทำให้เลือดหยุดไหลก่อน และน้ำแข็ง เนี่ยแหละใช้ได้ผลเร็วที่สุดในการห้ามเลือด ( ใครจะเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ไม่ว่านะครับ )

ผมมองพลาสเตอร์ที่พันอยู่รอบนิ้วก้อย พลางคิดถึงความรู้สึกตอนที่ดันปลายเบ็ดให้ทะลุออกมา ถ้ามองในแง่ของกฏแห่งกรรม มันก็ใช่แหละ ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ผมเจ็บยังไง ปลามันก็คง เจ็บไม่ต่างกัน ถ้ามองในแง่ของนักตกปลา คราวหน้าคราวหลังจะปลดเบ็ดออกจากปากปลาก็ระวัง ให้มากกว่านี้นะเว่ย ถึงมันมาอยู่บนบกแล้วก็อย่าคิดว่ามันไม่สู้นะ

ถ้ามองในแง่สัญชาติญาณนักล่า ... พี่ทิดสุวรรณไม่น่ารีบโยนมันลงน้ำเล๊ยย ยี่สกตัวขนาดนั้น บั้งถี่ ๆ หน่อยนะ ทอดให้กรอบ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

รอกของผมร้องปี๊ด .. คันกระตุกยวบ ผมโดดเข้าไปคว้าคัน ก่อนจะวัดสวนเต็มแรง คัน 6 ฟุตของวีว่าโค้งลงจนน่ากลัว ปลายังลากสาย ออกไปเรื่อย ๆ ผมผ่อนคันลงก่อนจะเก็บสายกลับอย่างรวดเร็ว

ความคิดถึงตรรกและสัญชาติญาณทั้งหลาย หายวับไปจนหมดสิ้น

รวมทั้งความปวดตุบ ๆ ใต้พลาสเตอร์แผ่นนั้นด้วย

...

คันวีว่ายังโค้งลง ผมผ่อนเบรคลงอีกนิด ปลายังลากสายออกไป ผมค่อย ๆ อัดคันขึ้นสูงอย่างช้า ๆ ...........................................

Comment #1
Posted @17 ต.ค.49 15.19 ip : 58...4

ผมก็เป็นคนตกปลาคนหนึ่ง และเข้าใจถึงความเร้าใจในลีลาของ "ตอปิโดน้ำจืด" เป็นอย่างดี  ตัว 4 กิโล มันลากรอกอาบูร๊อคเก็ตให้เสียงเร้าใจและเรียกร้องความสนใจ  ยี่สกก้างเยอะ สับขวางละเอียด บั้งยิบ หรือสับทำลูกชิ้น มาแกงเขียวหวาน หรือทอดมัน รสชาติยังไม่เด่น

ตกปลา ผมพยายามแยกแยะ เรื่องบาปกรรมออกไป วิถีเป็นเช่นนี้ ห่วงโซ่อาหารของนักล่าเป็นเช่นนี้ ได้ตัวมา ผมขอดเกล็ด ทำสำเร็จ แบบตกปลากิน ..  นี่ไม่ได้ตกยี่สกมานานแล้วครับ พักหลังมีแต่ กะพงขาวและช่อนเท่านั้นที่ผมมักจะตก เพราะว่าสองปลานี้ เนื้อรสชาติดี ทำอาหารได้หลายอย่าง

เคยโดนเบ็ดปักนิ้วกลาง กลั้นใจแทงให้ทะลุแล้วตัดเงี่ยง ดึงย้อนกลับ.. โทษว่าเป็นความประมาทของตัวเอง ผู้ถูกล่า ในกรณีของยี่สก ทำอะไรเราไม่ได้ แต่เราก็มีอันตรายด้านอื่นรออยู่... ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละครับ ทุกครั้งที่เราสวด สัพเพ สัพตา อเวรา โหตุ , อนีฆา โหนตุ แต่เราก็ไม่พ้นเวรกรรม และไม่พ้นการเจ็บปวด ..

เป็นปลายี่สกที่กลายเป็นลูกชิ้นทอดมันที่ไปสบายแล้วกระมัง เหลือเพียงเราที่ต้องดิ้นรนกับชีวิต ลำบากกับการหาปลาตัวต่อไปมากิน ลำบากกับชีวิตวันต่อไป

สุขี อัตตานัง ปริหะ  รันตุ...  แล้วเราก็หวังว่า ทุกๆชีวิตในห่วงโซ่ มีความสุขตามอัตภาพ แต่ก็ยังไม่หยุดตกปลา... เฮ้อ

Comment #2
Posted @17 ต.ค.49 16.43 ip : 203...196

ตอน ม.6  เคยไปตกปลาที่เก้าเส้งสงขลา  ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตละครับ  นั่งอยู่บนโขดแล้วเหวี่ยงสายเบ้ดลงไป  ไม่มีคันครับ  แค่ตกฆ่าเวลาในการกินเหล้ายามเย็นที่โรงเรียนเลิกเท่านั้น  ว่าไปนี่มันเป็นเรื่องโหดร้ายกว่าการตกมาเพื่อกินมากนัก

ผมไม่มีความชำนาญเลย  แม้กระทั่งการจำแนกการรู้จักชื่อปลาก็ยังไม่รู้  เพื่อนมันว่าปลาที่ติดเบ็ดโยนของผมเป็นปลาขี้จีน  เขาไม่กินกัน  ผมสาวมันขึ้นมาถึงมือก็ใจหายวาบ  เพราะเบ็ดเกี่ยวเอาตรงเบ้าตามันเต็มๆ  ...

สงสารครับ  ผมเป็นคนขี้สงสาร  กว่าจะปลดเบ็ดออกได้จากเบ้าตามันผมก็น้ำตาซึม  มันก็ดิ้นสุดแรงเรี่ยว  ในใจคงสาปแช่งผม  ปล่อยมันลงทะเลตามเดิม  ไม่เชื่อว่ามันจะมีชีวิตอยู่รอดได้ครับ

การตกปลาเป็นห้วงภาวะโดดเดี่ยวเหลือเกิน  และต้องต่อสู้กับมโนธรรมล้นเหลือ

นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเลยครับ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 62 user(s)

User count is 2441368 person(s) and 10247243 hit(s) since 27 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).