ละอองฝนชุ่มฉ่ำบนบนเขาพับผ้า

by ชิดชบา @17 ต.ค.49 15.28 ( IP : 58...4 ) | Tags : กระดานข่าว

12 ต.ค 49  บ่ายโมงกว่าๆ

บนรถมินิบัสจากหาดใหญ่มุ่งสู่ตรัง ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวของเขาพับผ้า
แม้ว่าจะระโหยจากการเดินทางข้ามคืนจากกรุงเทพฯ สู่หาดใหญ่ ทำให้ผมง่วงนอน แต่เมื่อรถเข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยว เขตเขาพับผ้า  ฝนเริ่มเทกระหน่ำ ผมอดที่จะตื่นมามองข้างทางไม่ได้

ครั้งแรกของการท่องแดนใต้ของผม ผ่านมาราวสิบกว่าปีมาแล้ว
ครั้งนั้นผมไปช่วงหน้าฝน บนรถตู้แบบเหมาเดินทาง  บนเส้นทางแถวกระบี่ พังงา เรื่อยลงไปถึงตรัง สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าฝน  ฝนตกมากบ้าง น้อยบ้าง ตลอดทาง

ครั้นเดินทางครั้งนี้ ความชุ่มฉ่ำของละอองฝนและไอน้ำที่หยอดทิ้งตัวตามหุบเขาทำให้อดนึกถึงวันเวลาเก่าๆไม่ได้

รู้สึกตัวเองโชคดีอย่างพิเศษที่จู่ๆบรรยากาศเดิมก็มาให้สัมผัส ความรู้สึกที่เคยรู้สึกเมื่อสิบกว่าปีก่อนแวบเข้ามาในความรู้สึก

ในห้วงเวลาเช่นนั้น ใครบ้างจะไม่ดื่มด่ำกับความชุ่มชื่นในอดีต??

แต่นักเดินทางก็เป็นเช่นนี้ บางห้วงเวลาเราก็เหมือนอยู่ไกลแสนไกลจากสิ่งที่คุ้นเคย ทั้งในสำนึกและในความเป็นจริง แต่บางเวลาก็ได้สัมผัสอย่างง่ายดาย


ขอโทษที่ไม่ได้แวะกินหมี่เป็ด  แผนการผมมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างน่าโมโหตัวเอง ครั้งหน้าคงมีเวลาได้พบพาน .. แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้อยู่ห่างหรอก ดูเหมือนบนเตียงนอนของโรงแรมในจังหวัดตรังที่ผมได้อ่าน กราบแม่ ในมติชน สุดสัปดาห์ ฉบับ 13-19 ตุลาคม 49  ผมตีความเหมือนมีกลิ่นอายของการเมืองเจือปนในนั้น?? หรือว่าผมคิดไปเอง แม่คนนั้นคือ?? วานบอก

ปล. อยากไปเดินป่าแถวๆ เขาพับผ้า ใครเคยบ้างครับ..  มีสถานที่พักค้าง อ้างแรมตรงไหน (แค่วางแผนนะ อาจจะแค่คิด แต่อยากไปจริงๆ ถ้ามีโอกาส)

Comment #1
Posted @17 ต.ค.49 16.56 ip : 203...196

เขาพับผ้ามีชื่อมานานในเรื่องความสวยและประวัติศาสตร์การเมือง  สงครามลัทธิ  และเส้นทางสายเก่าที่คร่านักเดินทางไปนับไม่ถ้วน    มนต์เสน่ห์ของมันอยู่ที่เป็นเช่นนั้นเสมอมา


กราบเท้าแม่ของผมนั้น    มีนัยทางสังคมเท่านั้น  ไม่ได้เกี่ยวเนื่องอันใดเลยกับการเมืองที่เปลี่ยนแปลงเข้มข้นดุเดือดในห้วงเวลานี้  มันเขียนขึ้นมานานแล้ว  แต่เพิ่งจะได้นำเสมอไปยังมติชน  และมันไม่ได้หมายถึงใครอื่นทั้งสิ้น  นอกจากแม่แท้ๆของผมครับ  มีน้องนักเขียนคนนึงเอ่ยปากถามเหมือนกันว่าผมคิดอะไรอยู่  ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการคิดว่า  แม่ของผมก็ประดุจแม่เจ้าแม่ขวัญผู้หญิงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้นครับ


มาหาดใหญ่ก็แวะมานะครับ  ทุกท่านเลยครับ ยินดีและหวังอย่างยิ่งครับผม

Comment #2
เสือฯ (Not Member)
Posted @17 ต.ค.49 18.21 ip : 203...10

อ่า..

พรุ่งนี้เราก้อไปตรัง

แม่ไปหาหมอ เราไปนวด พ่อไปกินหมูย่าง 55+

Comment #3
Posted @17 ต.ค.49 23.51 ip : 210...123

คงได้ไปสักครั้ง ..

ทั้งเขาพับผ้า และร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์ .......................

....

คงมีสักวัน

Comment #4
Posted @18 ต.ค.49 7.47 ip : 58...4

เมื่อคืนได้อ่าน กราบแม่ อีกครั้ง น่าจะเป็นท่อนกลางๆ ตั้งแต่ ปรกเกล้า ที่ทำให้ผมแปลความหมายผิดไปในการอ่านครั้งแรก / นี่ทำให้ได้รับอีกอรรถรสหนึ่ง

นอกจากตรังที่หมูย่าง และอาหารอื่นๆอร่อย แล้ว หาดใหญ่ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้าน แต่หาดใหญ่เมืองมันคล้าย กทม.  โดยส่วนใหญ่ของการลงใต้ ผมมักไปตรัง เพราะเมืองมันสงบกว่า

พูดถึงเรื่องไปใต้ แล้วก็โยงไปเรื่องตกปลา เดือนธันวาคม เพื่อนชวนผมไปปากบารา-สตูล (ไอ้คนเดิมที่เคยพาผมไปเมาเรือที่ประจวบเมื่อเดือนที่ผ่านมา) ผมกลัวเมาเรือ แต่ใจหนึ่งมันก็โหยหา อยากจะไปอีกครั้ง ถ้าได้ฟ้าใสๆ ทะเลแถวสตูลนี่งามตา  ถ้าหากอดใจไม่ไหว คงได้ลงใต้อีกครั้ง

Comment #5
Posted @18 ต.ค.49 20.04 ip : 203...87

หาดใหญ่เป็นเมืองแห่งร้านอาหารและศิลปวัฒนธรรมครับ

น่าเศร้าที่เจ้าเมืองไม่เคยคิดเอาจุดเด่นตรงนี้เป็นจุดขาย  เราจึงมีนักเขียนนักเขียนนักศิลปินมากมายที่เดินทางออกจากเมือง  รวมถึงการอยู่อยบ่างเงียบๆเป็นชนส่วนน้อยครับ  หาดใหญ่มุ่งเน้นขาย 2 อย่าง  คือเซ็กส์กับสินค้าหนีภาษีเท่านั้น

เมาเรือแก้ยังไงครับ?  ผมก็เมาเรือ  แต่จะให้วิธีเงยหน้ามองฟ้าครับ

Comment #6
เสือฯ (Not Member)
Posted @19 ต.ค.49 7.05 ip : 203...10

แจมด้วย

อ่าสตูล..

ฟ้าสวยและน้ำใส อย่างอื่นไม่รู้!!

เมื่อวานไปตรังมาแหละ

ประทับใจอย่างมาก.. คนที่นั่นเค้าขับรถถูกเส้นทาง
แล้วก้อขับช้าๆ ไม่รีบร้อน ... มีตึกเก่าๆ ตุ๊กๆสวย อยากเอาภาพลง แต่ลงไม่เป็น

ปล::ไปครั้งหน้าต้องนั่งตุ๊กๆให้ได้ (ขอบคุณคุณลุงตุ๊กๆที่ยอมให้หนูแอบถ่ายนะคะ )

Comment #7
Posted @20 ต.ค.49 15.36 ip : 58...170

หมี่เป็ดพูดเหมือนเพื่อนผม หาดใหญ่เหมือนขาย 2 อย่าง ไม่เนื้อสด ก็ของหนีภาษี  และดูเหมือนคนที่ไปเที่ยว ก็หวังเสพแค่ตรงนั้น ...  เราควรจะโทษคนไปเที่ยว หรือโทษนโยบายของผู้บริหารเมือง??

เมาเรือ?? ผมออกเรือตกปลาทะเลน่าจะเกิน 10 ทริป แล้วก็เมาทุกทริป ใช้กลยุทธ์ในการแก้เมาเรือไปหลายอย่างแล้ว ก็ไม่หาย..  ครั้งสุดท้าย ผมเมาไป 2 วัน 2 คืน โทษเพื่อนที่ชวนไป?? โมโหทะเลคลั่ง?? สุดท้ายก็ได้แต่ยอมรับ แล้วก็ผ่านไป นี่จะเป็นพวกใจง่ายไปกันเขาอีก คุยกับพวกคนเรือ บางคนเขามากัน 10 วัน สำหรับการลงเรือครั้งแรก บางคนขึ้นบกแล้วเมาบก..  ฟังแบบนั้นแล้วก็พอนึกได้ว่า เราก็ปกติ

ทะเลสตูล!!! หลังฤดูมรสุมผ่านพ้น สมัยที่ค่าเรือเฟอรี่ยังไม่แพงบ้าเลือดแบบนี้ ผมชอบนั่งรถไปลงปากบารา แล้วต่อเรือไปตะรุเตา ไปอาดัง บรรยากาศมันดีจริงๆ เสร็จแล้วก็ไปอดๆอยากๆ บนเกาะ ขึ้นเกาะ ผมก็นั่งรถมุ่งเมืองตรัง พักที่ตรัง 1-2 วัน กินหมูย่าง แตเตี้ยม อะไรต่ออะไร  เมืองตรังกลายเป็นเมืองที่ผมรู้สึกว่าสงบ และปลอดภัย ผู้คนน่ารัก เป็นมิตร เมืองน่าอยู่จริงๆนะ

หาดใหญ่ โดยมากถ้าไม่ซื้อเนื้อสดและของหนีภาษี เขาไปเที่ยวที่ไหนกันครับ?? คราวหน้าเผื่อผมจะได้เที่ยวบ้าง

Comment #8
Posted @20 ต.ค.49 16.22 ip : 203...116

เคยมีความพยายามจะเปลี่ยนภาพหาดใหญ่ของคนกลุ่มเล็ๆ  ทั้งจัดนิทรรศการร้านอาหารเมื่อสมัยสร้างเมือง  และโหมประโคมอยากได้เมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม  แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากภาครัฐเลยครับ

ต้องโทษที่นโยบายของรัฐเท่านั้นครับ  นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถหาเสพกามราคาถูกได้เลยหากรัฐไม่เป็นใจ  และถ้าเราสร้างเมืองศิลปวัฒนธรรม  นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะมาเลเชียนั้นจะต้องเข้ามาชมงานแน่นอน  เพราะ80% ของมาเลย์เป็นชาวจีน  คนจีนนิยมการกินครับ  และศิลปวัฒนธรรมนั้นเราก็มุ่งขายฝรั่งได้  จริงอยู่ที่คนจีนเที่ยวกันชนิดที่เรียกว่าไม่มีรสนิยมไร้วัฒนธรรม  นั่นคือเที่ยวกันแบบเอาฮาอย่างเดียว  แต่ก็มีไม่น้อยที่พวกเขาโหยหาอะไรบางอย่าง  ชาวจีนในมาเลย์เป็นชนชั้นสอง  เขาถูกกดทับด้วยรัฐอิสลามจนขยับตัวไม่ได้  นอกจากจะรับราชการไม่ได้แล้ว  เขายังไม่เคยมีการเผยแพร่งานศิลวีฒนธรรมชาวจีนเลย  หาดใหญ่มีคนจีนเยอะมาก  และมีงานเทศกาลเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีจีนอยู่หลากหลายบ่อยๆ  มันจะสามารถทดแทนความขาดของเขาได้ครับ

และศิลปวัฒนธรรมของเราเองก็ขายได้  หาดใหญ่เคยมีนักเขียนสายเพื่อชีวิต,สร้างสรรค์จำนวนมากพอควร  จิตกร นายหนังตะลุง มโนราห์  ล้วนมีชื่อเสียง  แต่ถูกทำให้หายไปอย่างช้าๆจนกระทั่งเราลืมไปแล้วว่าหาดใหญ่เคยมีของดีเช่นนั้นอยู่

ภูมิใจทำไมกับการที่คนมาเที่ยวเพื่อหวังปี้สาวไทย  ชนชั้นสองของเขามาแล้วกลายเป็นเทวดาในบ้านเรา  จอดรถซ้อนคันได้  ขากถุยดังๆลงถนนได้  โหวกเหวกโวยวายเอากับคนไทยได้โดยไม่แคร์อะไร  มองคนไทยเหมือนผ้าเช็ดตีน  มันน่าปลื้มและภาคภูมิใจมากหรือกับเม็ดเงินที่ได้มา?

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 61 user(s)

User count is 2441367 person(s) and 10247227 hit(s) since 27 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).