[ ... หมุน ... ]

by จสอ.โจ @30 ต.ค.49 1.12 ( IP : 210...34 ) | Tags : กระดานข่าว

... ล้อรถเข็นคันนั้น ยังคงหมุนไป หมุนไป ตามแรงดันของเจ้าของรถ

มันหมุนมาทับรอยเดิมไม่รู้กี่ร้อยพันรอบ มันหมุนไปตามเส้นทางที่มันเคยผ่านไม่รู้กี่หน รถเข็นคันนั้นยังเดินทางต่อไปในจังหวะเดิม แม้ว่าวันนี้มันจะมีของแปลกใหม่มาบรรทุกเพิ่มเติมเป็นชีวิตน้อย ๆ ที่นอนกลิ้งอยู่บนฟูกเก่าๆบนที่วางของใต้รถเข็น มือข้างหนึ่งยกขวดนมดูดอย่างเป็นสุขในปาก มืออีกข้างหนึ่งจับปลายผ้าขนหนูเขี่ยหูตัวเองเล่นอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่แสงแรกของวันใหม่ยังไม่ทาทับขอบฟ้า

" ยาย .. ยายจ๋า นมหมดแล้ว "

จันทร์ .. ก้มลงไปมองเจ้าของเสียงน้อย ๆ ลอดออกมาจากใต้รถเข็น เมื่อสบสายตาบนวงหน้ากลมป้อม และพวงแก้มขาวนวลที่กำลังชูขวดนมอันว่างเปล่าหลงเหลือฟองเม็ดละเอียดติดก้นขวดเพียงเล็กน้อย ความเหน็ดเหนื่อยทั้งปวงดูจะบรรเทาลงอย่างน่าประหลาด ความไร้เดียงสาเป็นพลังบริสุทธิ์ทางจิตใจที่มิใช่แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของมันเท่านั้นที่เอิบอิ่มกับความรู้สึก แต่มันแผ่เผื่อไปยังผู้คนรอบข้างให้ปิติตามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

" นอนเล่นไปก่อนนะลูกนะ เดี๋ยวจะพากลับบ้าน "

เด็กน้อยเอนตัวลงนอน วางขวดนมลงข้าง ๆ แล้วเปลี่ยนเป็นดูดนิ้วตัวเองแทน ใต้รถเข็นดูจะคล้ายคลึงกับเปลสีสวยที่แกว่งไกวเธอให้เพลิดเพลินกับจินตนาการตามรายทางที่เธอผ่านพบ เธอคุ้นเคยกับการนอนดูจันทร์เข็นรถขายกับข้าวยามเช้าเข้าซอยโน้นออกซอยนี้ มีผู้คนมากมายมาซื้อกับข้าว บางคนแต่ชุดภูมิฐานเตรียมจะออกไปทำงาน ผู้หญิงบางคนยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมคล้ายเพิ่งตื่น บางบ้านมีเด็กตัวน้อย ๆ เช่นเธอในชุดนักเรียนอนุบาล แทบทุกคนที่มาซื้อกับข้าวมักจะอดไม่ได้ที่จะก้มตัวลงมามองใต้รถเข็น เมื่อเธอส่งเสียงแจ้ว ๆ ร้องเรียกลูกค้า

" กับข้าวค๊า .. กับข้าว ... “

เสียงใส ๆ ของเธอช่างทรงอานุภาพ มันดึงดูดผู้คนที่ไม่แม้แต่จะสนใจรถเข็นของจันทร์ให้หันมามอง มันดึงดูดผู้คนที่เริ่มจะสนใจรถเข็นขายกับข้าวของจันทร์ให้เดินเข้าหา และมันดึงดูดให้คนที่เดินเข้ามาดูแล้วซื้ออะไรติดมือติดไม้กลับไปสักถุงสองถุง จุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการปิดการขายของเธอ คือจุดเริ่มต้นของการผูกขาดทางการตลาด ใครก็ตามที่เคยได้ลิ้มลองกับข้าวถุงฝีมือของจันทร์ในถุงแรกแล้ว จะต้องมีถุงที่ 2 ถุงที่ 3 .. ต่อไปเรื่อย ๆ อันที่จริงกับข้าวถุงของจันทร์ก็แทบไม่ได้มีอะไรผิดแผกไปจากของที่คนอื่นทำขาย ไม่ว่าจะเป็นไข่พะโล้ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ผัดสายบัว แกงเผ็ดเป็ดย่าง ไข่ยัดใส้ ผัดมะระใส่ไข่ หรือยำไข่ดาว ...

รายการอาหารของจันทร์แต่ละวันอาจจะซ้ำ หรือไม่ซ้ำกัน แต่สิ่งที่ซ้ำกันทุกวันจนเป็นที่ยอมรับคือ กับข้าวของจันทร์อร่อย มันเป็นความแปลกอย่างยิ่งที่ถ้าใครไม่เคยได้ลองกินจะไม่มีวันรู้ได้  หลายคนสงสัยว่าจันทร์ทำได้ยังไงแม้กระทั่งกับอีแค่ไข่ดาวที่ดูธรรมดา ๆ มีทั้งแบบสุขครึ่งเดียวเป็นยางมะตูม หรือแบบไข่ขาวกรอบ ๆ อย่างที่เด็ก ๆ ชอบ ทำไมกลับไปทำกินที่บ้านมันก็ไม่เหมือนกับที่ซื้อของเธอ ถึงแม้ว่าจะดูเป็นการศึกษาลิขสิทธิ์ทางปัญญาอย่างที่ใครหลายคนเอ่ยปากถามเทคนิคการทำกับข้าวจากเธอ สิ่งที่ทุกคนจะได้ก็คือ ..

“ ชั้นใส่ไอ้นี่แหละ “ จันทร์จะตอบแค่นั้น แล้วก็ยิ้ม ...

คนถามก็จะทำหน้าเหมือนสรยุทธ สุทัศนจินดา เวลาถามท่านรัฐมนตรีว่าการเรื่องการโกงลำไย คนตอบก็จะทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนเดียวที่ดูจะรู้ทุกอย่างแต่ไม่อยากพูดก็นอนดูดนิ้วเอาผ้าขนหนูเขี่ยหูตัวเองเล่นใต้รถเข็นต่อไป ..

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ... ล้อรถเข็นคันนั้น ยังคงหมุนไป หมุนไป ตามแรงดันของเจ้าของรถ .......................................................................................................................

คนแถวนี้เห็นจันทร์เข็นรถขายกับข้าวมานานมากแล้ว เมื่อก่อนนี้จะมีเอกสามีของเธอมาช่วยขายด้วย เอกทำงานเป็นคนขับรถส่งของของร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง กว่าร้านจะเปิดก็สิบโมงกว่า ดังนั้นภาพสองคนผัวเมียเข็นรถเข็นขายกับข้าวยามเช้ากลายเป็นที่พบเห็นของคนทั่วไป ความน่ารักของภาพชีวิตเดินทางหมุนไปตามล้อรถเข็นพร้อมกับเหล่าลูกค้าหลายคนที่อดอิจฉาเอกไม่ได้ว่ามีเมียทำกับข้าวอร่อย ขณะที่กิจการกำลังดำเนินไปด้วยดี อยู่ ๆ วันหนึ่งรถเข็นของสองคนผัวเมียก็หายไป

และตามมาด้วยความถวิลหาในรสมือของจันทร์ และคำถามที่ตามมาทุกเช้าว่า .. รถขายกับข้าวหายไปไหน

คำตอบเดินทางตามมาในอีกไม่นานนัก เมื่อสองคนผัวเมียกลับมาเข็นรถขายกับข้าวยามเช้า พร้อมกับเด็กตัวน้อย ๆ ที่นอนดูดนมอยู่ใต้รถเข็น การกลับมาพร้อมกับสมาชิกใหม่ที่ทำให้ขาประจำเก่า ๆ อดยิ้มไม่ได้เมื่อได้รู้ว่า จันทร์ได้พาลูกสาวตัวน้อย ๆ มาขายของด้วย สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือกับข้าวของจันทร์ยังอร่อยเหมือนเดิม และคำตอบเดิม ๆ เวลาใครถามว่าผัดเห็ดฟางหมูสับใส่อะไร ทำไมอร่อยจัง ..

“ ชั้นใส่ไอ้นี่แหละ “ จันทร์จะตอบแค่นั้น แล้วก็ยิ้ม ...

คนถามก็จะทำหน้าเหมือนวิทวัส สุนทรวิเนตร เวลาถามดาราเรื่องท้องก่อนแต่งจริงหรือเปล่า คนตอบก็จะทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนเดียวที่ดูจะรู้ทุกอย่างแต่ไม่อยากพูดก็นอนดูดนิ้วเอาผ้าขนหนูเขี่ยหูตัวเองเล่นใต้รถเข็นต่อไป ..

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ... ล้อรถเข็นคันนั้น ยังคงหมุนไป หมุนไป ตามแรงดันของเจ้าของรถ ....................................................................................................................... การหยุดขายครั้งที่สองของจันทร์ ทำให้คนที่เคยลิ้มชิมรสกับข้าวยามเช้าของจันทร์กินอะไรไม่ลงไปเหมือนกัน เพราะข่าวการจากไปของเอก ที่ขับรถขนเฟอร์นิเจอร์ไปอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้า เพราะหักหลบรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่พุ่งพรวดออกมาจากซอย อุบัติเหตุของชีวิตหนึ่งบังเกิดผลกระทบกับชีวิตรอบข้างไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ทั้งชีวิตของจันทร์ผู้เป็นภรรยา ลูกสาวตัวน้อยที่กำลังเติบโต .. และลูกค้าที่ติดตามผลงานความอร่อยของจันทร์ด้วย เพราะจันทร์หยุดขายกับข้าวไปหลายเดือน ..

การกลับมาของจันทร์ ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้เหล่าลูกค้าผู้รอคอย ผัดกระเพรากบรสแซบใส่พริกไทยอ่อน แกงเขียวหวานไก่รสเข้ม หรือแม้แต่เนื้อเค็มแดดเดียว รายการอาหารไม่เคยซ้ำ ความจำเจไม่เคยมี รสชาติอร่อยจนลืมไม่ลง และเสียงร้องเรียกน้อย ๆ จากใต้รถเข็น

" กับข้าวค๊า .. กับข้าว ... “

ไม่มีใครปฏิเสธว่า บางครั้ง ชีวิตมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่ามันแหว่งวิ่นไปสักเพียงไหน มันก็ยังเดินทางของมันต่อไป ชีวิตของใครบางคนหมุนไปเหมือนล้อรถ ตามแรงขับดันของลมหายใจเข้าออกยังบงการให้ขาของจันทร์ดันรถเข็นคันนั้น เข้าซอยโน้นออกซอยนี้ พร้อมกับชีวิตน้อย ๆ ที่เคยนอนกลิ้งไปกลิ้งมาใต้รถเข็น เจริญวัยมาเป็นช่วยแม่เดินขายกับข้าวยามเช้า สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ ความอร่อยของกับข้าวบนรถเข็น และคำตอบเดิม ๆ เวลามีใครถามว่า แกงบอนใส่อะไรเนี่ย ทำไมอร่อยจัง

“ ชั้นใส่ไอ้นี่แหละ “ จันทร์จะตอบแค่นั้น แล้วก็ยิ้ม ...

คนถามก็จะทำหน้าเหมือนฟิลม์ รัฐภูมิ เวลาโดนถามเรื่องเสี่ยอู๊ด คนตอบก็จะทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนเดียวที่ดูจะรู้ทุกอย่างแต่ไม่อยากพูดก็มัวแต่เอากับข้าวถุงโน้นถุงนี้ใส่ถุงหูหิ้วแล้วก็ยื่นส่งให้ลูกค้า ..

“ อย่ามาถามแม่เขาเลย .. เขาไม่บอกหรอก ขืนบอกอีกหน่อยก็ขายไม่ออกอ่ะดิ .. “

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ... ล้อรถเข็นคันนั้น ยังคงหมุนไป หมุนไป ตามแรงดันของเจ้าของรถ .......................................................................................................................

ฝันร้ายของลูกค้าเจ้าประจำของจันทร์มาถึงอีกเป็นครั้งที่ 3 เมื่อลูกสาววัยรุ่น หายตัวไปพร้อมกับเงินเก็บของเธออีก 5 พัน และแฟนหนุ่มหน้าตาดี ที่เคยเข้ามาอยู่ใต้ชายคาบ้านหลังเดียวกัน มันดูจะเป็นเรื่องปรกติของสังคมชั้นรากหญ้าที่การศึกษาและสาธารณสุขของรัฐเข้าถึงประชาชนเพียงผิวเผิน และสิ่งดึงดูดทางวัฒนธรรมดูจะโน้มเอียงไปทางสังคมตะวันตก เซ็กส์ดูจะมีแรงขับดันเหล่าวัยรุ่นที่ฮอร์โมนพุ่งพล่าน ให้พุ่งทะยานไปตามความประสงค์จะมีชีวิตในแบบของตน แต่ผลของการตัดสินใจชั่วแล่นบังเกิดผลกระทบกับชีวิตรอบข้างไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ทั้งชีวิตของจันทร์ผู้เป็นแม่ ลูกสาววัยรุ่น .. และลูกค้าที่ติดตามผลงานความอร่อยของจันทร์ด้วย เพราะจันทร์หยุดขายกับข้าวไปหลายเดือน

ใครต่อใครก็คิดว่า รถเข็นขายกับข้าวคันนั้น คงหยุดการเดินทางเสียแล้ว ...

.......................................................................................................................

ยิ่งกว่าซูปเปอร์แมนรีเทิรน์ เมื่อจันทร์ดันรถเข็นคันนั้นกลับมาเข้าซอยโน้น ออกซอยนี้ บนถาดอลูมิเนียมมีผัดคะน้าหมูกรอบ แกงไก่สับปะรด เต้าหู้ไข่ทรงเครื่อง ไข่ดาวที่มีทั้งแบบสุขครึ่งเดียวเป็นยางมะตูม หรือแบบไข่ขาวกรอบ ๆ อย่างที่เด็ก ๆ ชอบ และเด็กผู้หญิงตาโตที่จันทร์บอกใครต่อใครว่าเป็น .. หลาน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาใต้รถเข็นคันเดิม ร้องส่งเสียงเจื้อยแจ้วออกมาจากใต้ท้องรถเข็นคันนั้น

" กับข้าวค๊า .. กับข้าว ... “

ลูกค้าบางคนที่เคยเป็นเด็กยืนแคะขี้มูก จูงมือแม่ออกมาซื้อกับข้าว ตอนนี้จบ ปวส.แล้ว แม่บ้านบางคนที่เคยใส่เสื้อคลุมเดินงัวเงียออกมาซื้อกับข้าว ตอนนี้จูงหลานตัวเล็ก ๆ ออกมาแคะขี้มูกยืนซื้อกับข้าวแล้ว ผู้คนที่รายรอบรถเข็นของจันทร์ดูจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ถ้าจะเปรียบกับรถเข็นขายกับข้าวของจันทร์ มันคงถูกเข็นไปไกลถึงสุไหงโกลก

    ไม่มีใครปฏิเสธว่า บางครั้ง ชีวิตมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่ามันแหว่งวิ่นไปสักเพียงไหน มันก็ยังเดินทางของมันต่อไป ชีวิตของใครบางคนหมุนไปเหมือนล้อรถ ตามแรงขับดันของลมหายใจเข้าออกยังบงการให้ขาของจันทร์ดันรถเข็นคันนั้น เข้าซอยโน้นออกซอยนี้ ไม่ว่าสรรพนามที่คนเรียกขานจันทร์ จะเปลี่ยนไปจาก จันทร์ มาเป็นน้าจันทร์ มาเป็นป้าจันทร์ มาเป็นยายจันทร์ จันทร์ก็ยังคงดันรถเข็นคันนั้น เหมือนที่เคยผ่านมา แม้ว่าเส้นทางที่ดูเหมือนจะไกลกลับวนเวียนอยู่กับที่เสมือนหนึ่งลาที่ถูกปิดตาให้หมุนโม่แป้ง แม้คิดว่าตัวเองเดินมาไกลโข แต่กลับวนเวียนอยู่ที่เดิม

" ยาย .. ยายจ๋า นมหมดแล้ว "

จันทร์ .. ก้มลงไปมองเจ้าของเสียงน้อย ๆ ลอดออกมาจากใต้รถเข็น เมื่อสบสายตาบนวงหน้ากลมป้อม และพวงแก้มขาวนวลที่กำลังชูขวดนมอันว่างเปล่าหลงเหลือฟองเม็ดละเอียดติดก้นขวดเพียงเล็กน้อย ความเหน็ดเหนื่อยทั้งปวงดูจะบรรเทาลงอย่างน่าประหลาด ความไร้เดียงสาเป็นพลังบริสุทธิ์ทางจิตใจที่มิใช่แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของมันเท่านั้นที่เอิบอิ่มกับความรู้สึก แต่มันแผ่เผื่อไปยังผู้คนรอบข้างให้ปิติตามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

" นอนเล่นไปก่อนนะลูกนะ เดี๋ยวจะพากลับบ้าน "

เด็กน้อยเอนตัวลงนอน วางขวดนมลงข้าง ๆ แล้วเปลี่ยนเป็นดูดนิ้วตัวเองแทน ใต้รถเข็นดูจะคล้ายคลึงกับเปลสีสวยที่แกว่งไกวเธอให้เพลิดเพลินกับจินตนาการตามรายทางที่เธอผ่านพบ เธอคุ้นเคยกับการนอนดูจันทร์เข็นรถขายกับข้าวยามเช้าเข้าซอยโน้นออกซอยนี้ มีผู้คนมากมายมาซื้อกับข้าว บางคนแต่ชุดภูมิฐานเตรียมจะออกไปทำงาน ผู้หญิงบางคนยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมคล้ายเพิ่งตื่น บางบ้านมีเด็กตัวน้อย ๆ เช่นเธอในชุดนักเรียนอนุบาล แทบทุกคนที่มาซื้อกับข้าวมักจะอดไม่ได้ที่จะก้มตัวลงมามองใต้รถเข็น เมื่อเธอส่งเสียงแจ้ว ๆ ร้องเรียกลูกค้า

" กับข้าวค๊า .. กับข้าว ... “

ใช่ .. ... ล้อรถเข็นคันนั้น ยังคงหมุนไป หมุนไป ตามแรงดันของเจ้าของรถ

Comment #1
Posted @30 ต.ค.49 8.51 ip : 202...10

ยายจันทร์อดทนหน่อยน๊า
เดี๋ยวหลานก็โตมาช่วยยายขายกับข้าวแล้ว เด็กสมัยนี้โตเร็ว 

Comment #2
Posted @30 ต.ค.49 12.22 ip : 210...220

ในมุมมองของผมนะ ..
การเขียนเรื่อง เหมือนการทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ .. เพราะคนที่เขียนเรื่องเองก็ไม่อยากเขียนอะไรซ้ำซาก จำเจ จนกระทั่งคนอ่านบางคน อ่านท่อนหัวแล้วก็เดาตอนจบของเรื่องได้

" หมุน " เป็นงานทดลองอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งความจริงตั้งใจส่งไปเป็นต้นฉบับหนังสือดักเหี้ยเล่ม 2 แต่คนเขียนกลับถูกดักเสียเอง เพราะหนังสือไม่ได้ออกด้วยเหตุผลบางประการ ( ช่างแม่งเหอะ )

ด้วยโครงเรื่อง ที่ดูเหมือนชีวิตใครบางคนที่ย่ำเท้าอยู่ที่เก่า ด้วยรูปประโยคที่ซ้ำ ๆ .. ความท้าทายอยู่ที่

ทำไง.. ให้คนอ่าน คาดเดาความซ้ำไม่ได้ ...

LOOP STORY แบบนี้ ไม่ใช่เพิ่งมีหรอกครับ
แต่ที่มันหาอ่านยากก็เพราะ แม่งเขียนยาก ...

Comment #3
Posted @30 ต.ค.49 13.37 ip : 202...10

หญิงว่านะ  ชีวิตปกติประจำวันของคนส่วนใหญ่
มันก็โคตรจะซ้ำซาก จำเจ  จนเราเองชินกับมัน บางคนก็ชอบเรื่องแปลกใหม่  หาอะไรมาลบความน่าเบื่อ แต่บางคนกลับกลัวอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเดิม ๆ

ในฐานะของคนอ่านคนหนึ่ง  พล็อตเรื่องที่เหมือนกัน
แต่คนเล่าไม่เหมือนกัน    ที่เราชอบนักเขียนคนโน้น คนนั้น คนนี้
ก็ตรงที่วิธีการเล่าของเขา

คนอ่านก็หาเรื่องแปลกใหม่อ่าน คนเขียนก็หาเรื่องแปลกใหม่เขียน เพราะฉะนั้น ใครจะอึดกว่ากัน
โปรดติดตามตอนต่อไป  ฮี่ๆๆ

Comment #4
Posted @30 ต.ค.49 21.09 ip : 203...151

กลวิธีการเขียนก็เหมือนเรากินผัดเห็ดฟางหมูสับนั่นแหละ

มีคนทำให้กินมายเยอะแล้ว  แต่รสมือของแต่ละคนจะแตกต่างกันไปเสมอ  ต่อให้ใช้สูตรเดียวกันก็ตามที  เรื่องแบบนี้คนที่ทำอาหารจะรู้กัน

หมุน-  นอกจากการเล่นในเรื่องวิธีเล่าแล้ว ยังเล่นกับชื่อเรื่องด้วย  โดยโยงไปกับวิธีเล่าที่หมุนไปหมุนมาจากต้นจนจบในแต่ละช่วงตอน  ล้อรถเข็น  วัยของจันทร์ เด็กน้อยใต้ท้องรถ  แสดงถึงการเคลื่อนที่ในการอยู่กับที่  เป็นรอยหมุนซ้ำเดิมๆ "มันหมุนมาทับรอยเดิมไม่รู้กี่ร้อยพันรอบ มันหมุนไปตามเส้นทางที่มันเคยผ่านไม่รู้กี่หน รถเข็นคันนั้นยังเดินทางต่อไปในจังหวะเดิม"

ชอบเรื่องนี้  ทีแรกคิดว่าจ่าจะแป๊กกะมุกการเล่าเสียแล้ว

เก่งว่ะจ่า...

Comment #5
อีแมะจิ๊ (Not Member)
Posted @1 พ.ย.49 12.36 ip : 124...110

ใช้เวลาอ่านนานมาก

เพราะกินข้าวไปด้วย

ขายของไปด้วย

รู้สึกหัวหมุน

อ่านจบแล้ว

ยังไม่แน่ใจว่า

มันหยุด หรือมันหมุน

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 68 user(s)

User count is 2441258 person(s) and 10246572 hit(s) since 27 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).