นาฏลีลา....วันทาครู
.... นุ่งผ้าแดงเสร็จสรรพครูจับนั่ง ระวังหลังเหยียดตรงคงเส้นสาย หน้าแฉล้มแต้มรอยยิ้มงามพริ้มพราย ดัดนิ้วมือแขนขวาซ้ายทอดกรายกร
.... จะ...โจงจะ...ติง...โจ้งติง ซอ..ปี่..ฉิ่ง..ทอดสำเนียงเสียงออดอ้อน ระนาด..กรับ..รับดังดั่งเว้าวอน ร่ายรำตามครูสอนแต่ก่อนมา
.... "เพลงช้าเพลงเร็ว"นี้มีเรื่องเล่า เป็นเพลงเก่าเราร่วมด้วยช่วยรักษา รำถวายบูชาครูหมู่เทวา พระฤๅษีพระพิราพ์มาเนิ่นนาน
.... "เทพพนมปฐมพรหมสี่หน้า" จีบปลายนิ้วชม้ายตายิ้มหน้าหวาน เพลง"แม่บท"สลดใจในบุราณ ก่อตำนานสงครามยักษ์ลักสีดา
.... คิดถึงสาว"สีนวล"ชวนชื่นจิต เจ้ามิ่งมิตรแสนสนิทเสน่หา รำไกวกรอ่อนช้อยร้อยมายา ให้ติดตาตรึงใจยามได้ชม
.... เนียนนิ้วเรียวพริ้วพรายยามกรายกรีด แสนประณีตรับคำร้องทำนองสม "ฉุยฉายพราหมณ์"งามนักหนาน่าภิรมย์ ชายตาคมแย้มเยื้อนเหมือนเตือนใจ
.... "ดาวดึงส์"เทวโลกมโหฬาร เป็นวิมานองค์อินทร์ถิ่นอาศัย เหล่าเทวาเริงรื่นชื่นหทัย ต่างพร้อมใจรำร่ายถวายกร
.... "ฟ้อนเล็บ"งามตามจังหวะคีตศิลป์ รื่นระรินเพลงเร้าเย้าสมร กรายกรีดเล็บเหมือนเหน็บใจให้อาวรณ์ ชำเลืองค้อนชายเนตรด้วยเจตนา
.... ตั้งแต่เล็กจนใหญ่ได้เรียนรู้ ได้ร่ายรำตามครูได้ศึกษา มือประณมเหนือเศียรเวียนวันทา ขอกราบกรานครูบาของข้าเอย......
กลอนบทนี้เกิดขึ้นได้เพราะแรงบันดาลใจจากใครคนหนึ่ง ซึ่งเคยบอกว่าชอบนาฏศิลป์และนางรำ