ทรราช

by บุญ john @15 ก.พ.52 15.26 ( IP : 124...141 ) | Tags : กระดานข่าว

บุญ john


  ไม่ถึงกับเมาหนักแต่ผมต้องลุกออกมาจากวงเหล้า ก่อนวิวาทะประเด็นการเมืองที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้เริ่มจะบานปลายออกไปจนอาจฉุดไม่อยู่ สมาชิกก๊งเหล้าเถียงกันคอเป็นเอ็น เลือดขึ้นหน้า บรรยากาศตึงเครียดเหมือนเส้นเชือกชักกะเย่อ จะขาดมิขาดแหล่ ก่อนหน้านี้เห็นคุยเรื่องฟุตบอลต่างประเทศกันอยู่ดีๆ ไม่เห็นมีปัญหา ต่างสวมวิญญาณเซียนวิเคราะห์เกมส์อย่างหมดเปลือก ถึงจะสังกัดเพียงสโมสรประจำหมู่บ้านคลองลาน 1 แต่ก็รู้ลึกซึ้งไปถึงลอนดอน
    แต่วันไหนที่เสียพนันบอลหนักๆ นอกจากนั่งวิเคราะห์เกมส์ที่กำลังจะเตะในคืนนั้นแล้ว บทสนทนาในวงเหล้ายังได้แตกแขนงไปสู่เรื่องการเมืองด้วย คนมีรายได้ต่ำไม่โทษนักการเมืองแล้วจะโทษใคร

“แม่ง! ตั้งแต่ปีสี่ศูนย์มารัฐบาลมันบริหารประเทศยังไงเราก็ยังไม่ได้ลืมตาอ้าปาก มีแต่เป็นหนี้กับหนี้”

    สมาชิกก๊งเหล้า อดีตเจ้าหน้าที่บริษัทเงินทุนแห่งหนึ่งสบถออกมา หลังจากบริษัทเจ๊ง รถยนต์คันหรูที่เคยขับและยังผ่อนไม่หมดถูกบริษัทยึดกลับไปขายเป็นรถมือสอง เขากลายเป็นคนตกงาน อาศัยขอเงินพ่อแม่ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญใช้จ่ายไปวันๆ ชีวิตฝากไว้กับการเสี่ยงโชค ผมนึกสงสัยว่าทำไมคุยเรื่องบอลไม่เห็นมีปัญหาแม้ฝ่ายหนึ่งจะถือข้างแมนยูฯ อีกฝ่ายชอบลิเวอร์พูล ก็ไม่เห็นว่าจะโต้เถียงกันดุเดือดถึงขั้นยอมกันไม่ได้ คำพูดกระแนะกระแหนกันระหว่างสาวกปีศาจแดง และแฟนคลับหงส์แดงจบลงด้วยเสียงหัวเราะ มากกว่าจะเอาเรื่องเอาราวกัน
    แต่พอเรื่องการเมืองกลับทำท่าจะบานปลายยอมลงกันไม่ได้ ฝ่ายสาวกแมนยูฯ นิยมชมชอบในการบริหารงานของรัฐบาล เลยเชียร์ นปก.อย่างออกนอกหน้า และดูเหมือนการเลือกข้างจะชัดเจนอยู่แล้วเพราะแฟนคลับลิเวอร์พูล ไม่ชอบรัฐบาลและชื่นชมการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ
    ผมสังเกตว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้ซีเรียสเรื่องสีเสื้อ เพราะแมนยูฯ หรือ “ปีศาจแดง” กับลิเวอร์พูล หรือ “หงส์แดง” ต่างมีสีแดงเป็นสัญลักษณ์เหมือนกัน น่าติดตามต่อไปว่า “ศึกวันแดงเดือด” นัดสุดท้าย หากลิเวอร์พูลต้องใส่เสื้อเหลืองไปเยือนแมนยูฯ ที่ใส่เสื้อสีแดงในฐานะเจ้าบ้าน จะเกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกก๊งเหล้าหมู่บ้านคลองลานแห่งนี้บ้าง
  ส่วนแฟนคลับเชลซีและอาร์เซนอล นอกเหนือจากฟุตบอลแล้วสำหรับเรื่องการเมือง เขาบอกว่า
  “เรื่องนี้กูขอเป็นกลาง”
    สำหรับผมได้เลือกข้างชัดเจนแล้วคือเรื่องฟุตบอลผมชอบลิเวอร์พูล หนุนพันธมิตรฯ แต่ชอบสะสมเสื้อสีแดง และถือเอาอุดมการณ์ของมหาตมะคานธี ยึดสันติ อหิงสา เป็นที่ตั้ง คิดว่าแม้คนในสังคมไทยจะเต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งลัทธิ ความเชื่อ เชื้อชาติ อุดมการณ์ แต่มันก็น่าจะมีทางที่ความหลากหลายเหล่านี้จะถูกบริหารจัดการให้ทุกคนสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุขภายใต้เศรษฐกิจระบบทุนที่มีธรรมาภิบาล
    เมื่อวิวาทะในวงเหล้าส่อเค้าว่าจะกลายเป็นวิวาท ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ผมจำต้องหลบฉาก เพราะถ้าขาดผมไปสักคนหนึ่ง คำถามเรื่องการเมืองจะมีไม่มาก ประเด็นที่โต้เถียงกันจะค่อยๆ อ่อนลงๆ จนสุดท้ายเขาก็คงกลับมาคุยเรื่องฟุตบอลกันต่อ เป็นอยู่แบบนี้
กลับมาถึงห้องพักตั้งใจว่าจะหาคลิปเสียงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มาฟังดูว่าจะมีอะไรใหม่ๆ บ้าง     อาบน้ำเสร็จเดินสวนทางกับน้องผู้ชายที่อยู่ห้องติดกัน ท่าทางเขาน่าจะกำลังไม่สบอารมณ์กับอะไรสักอย่างหนึ่ง เพราะหลังจากยิ้มทักทายผมแล้ว เขาก็สบถออกมาหลายประโยคที่ล้วนเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลาน อวัยวะเพศทั้งหญิงและชาย รวมทั้งโรคระบาดร้ายแรงชนิดหนึ่ง
    ผมใช้เวลาค้นอยู่ไม่นานก็พบคลิปวีดีโอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของคณะรัฐบาลชุดใหม่ ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะดาวน์โหลดมาฟังได้ ผมไม่รอช้ารีบสวมหูฟังแล้วเปิดคลิปวีดีโอนั้น เช้าวันนั้นก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายมีความวุ่นวายเกิดขึ้นหน้ารัฐสภา รัฐบาลถูกประณามว่าเหยียบคราบเลือดของประชาชนเข้าไปแถลงนโยบาย สีหน้าของนายกรัฐมนตรีจึงไม่ค่อยดี น้ำเสียงก็สั่นๆ พิกล
“บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว โดยยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และครอบคลุมถึงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามบทบัญญัติในหมวด 5 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย”
    ผมคงต้องไปค้นต่อว่าหมวด 5 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่ายังไงบ้าง
“คณะรัฐมนตรีจึงขอแถลงนโยบายดังกล่าวต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อให้ทราบถึงเจตนารมณ์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นจะสร้างความสามัคคี ปรองดอง ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทุกคน” นายกรัฐมนตรี เว้นวรรคและถือโอกาสกลืนน้ำลายลงคอ
    ช่วงนั้นเองมีเสียงแปลกปลอมแทรกเข้ามาในบรรยากาศการฟังแถลงนโยบายของผม มันดังจึ๊กๆ จิ๊กๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ว่าคืออะไร ผมปล่อยให้นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อ
    “ท่านประธานรัฐสภาที่เคารพ ประเทศไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมที่แข็งแกร่ง มีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารและทรัพยากรธรรมชาติ มีภาคอุตสาหกรรมและบริการที่มีความสามารถในการแข่งขันทัดเทียมนานาประเทศ นอกจากนั้นยังเป็นที่ซึ่งประชาชนคนไทยและคนต่างชาติอยู่อาศัยอย่างมีความสุขมาโดยตลอด”
    ผมเห็นด้วยกับพะนะทั่นนายกฯ ที่ว่าประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมาย และผมก็เห็นด้วยกับลุงทองขี้เมาข้างบ้านที่แกเคยบอกผมว่า ถ้าบ้านเราไม่มีนักการเมืองโกงกิน ประเทศไทยสามารถเอาทองคำมาปูถนนได้เลย
    ส่วนที่นายกฯ บอกว่าในแผ่นดินไทย คนไทยและคนต่างชาติอาศัยอยู่อย่างมีความสุขนั้น แสดงว่าทั่นนายกฯ รู้ไม่จริง หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ ไอ้ที่ว่ามีความสุขนั่นน่ะ ทั่นคงหมายถึงพวกนายทุนไทยและต่างชาติ ที่กำลังเสวยสุขเอากับการกดขี่ขูดรีดและกอบโกยทรัพยากรในบ้านเราอย่างเมามันใช่หรือไม่ แต่ที่ทั่นไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้คือมีคนไทยอีกหลายล้านคนกำลังทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัสเพราะไม่มีจะกิน และผมคิดว่าทั่นนายกฯ รู้ดีกว่าผมว่าถ้าหากนักการเมืองเลิกโกง แล้วหันมายกระดับการศึกษาให้เท่าเทียม รวมทั้งแก้ปัญหาให้คนจนอย่างจริงจังแล้ว คนไทยก็จะมีความสุขกันถ้วนหน้า และเมื่อปวงประชายิ้มแย้มแจ่มใส แขกไปใครมา เห็นเรามีความสุข เขาก็มีความสุข นั่นต่างหากถึงจะเข้ากับถ้อยแถลงของทั่นนายกฯ หรือว่ากลุ่มคนยากคนจนคนด้อยโอกาสทั้งหลาย ไม่มีตัวตนอยู่ในนโยบายที่พะนะทั่นกำลังแถลง
    เสียงจึ๊กๆ จิ๊กๆ เริ่มดังมาอีก คราวนี้ตามด้วยเสียงคนโห่ร้องและประโยคหนึ่งที่ดังซ้ำๆ ติดๆ ขัดๆ ผมเงี่ยหูฟังจนได้ใจความ     “ทรราช! ทรราช! ทรราช! จึ๊ก จึ๊ก จิ๊ก จิ๊ก ทรราช! ทรราช! ทรราช!”
    “หืออออ” ผมครางออกมายาวยืด นึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้ามาต่อว่าต่อขานพะนะทั่นนายกฯ ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้ ทั้งยังอาจทำลายสมาธิการแถลงนโยบายในสภาอันทรงเกียรติ เสียงนั้นดังแล้วก็หยุดผมจึงปล่อยให้พะนะทั่นได้แถลงต่อ     “ความขัดแย้งทางการเมือง ส่งผลให้กระบวนการบริหารประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ และยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นักท่องเที่ยว และนักลงทุนทั้งในประเทศและจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก” ถึงท่อนนี้เสียงของพะนะทั่นก็ยังสั่นๆ แต่คงไม่เกี่ยวกับเสียงแปลกปลอมนี้ มันดังมาเป็นระยะๆ     “ทรราช! ทรราช! ทรราช! จึ๊ก จึ๊ก จิ๊ก จิ๊ก ทรราช! ทรราช! ทรราช!  ”
แล้วมันก็เงียบไปอีก     ทั่นนายกฯ แถลงมาถึงตรงนี้ผมก็ยกมือคัดค้านอีก ไม่ใช่สิ ผมบังคับเมาท์เลื่อนลูกศรไปคลิกที่ปุ่ม Pause เพื่อให้ทั่นนายกหยุดพูดชั่วคราว เพื่อผมจะได้ใช้สิทธิอภิปราย (ในใจ) นอกสภาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องถูก ส.ส.และ ส.ว.ซีกรัฐบาลรุมประท้วง
    ทั่นนายกฯ บอกว่ากระบวนการบริหารประเทศเดินหน้าไปไม่ได้เพราะมีความขัดแย้งทางการเมือง จริงๆ แล้วทั่นนายกฯ สามารถคลี่คลายปัญหานั้นได้ด้วยการลาออก แต่ทั่นไม่มีสปิริตพอ กลับปล่อยให้ตำรวจเอาแก๊สน้ำตากับลูกระเบิดมายิงใส่ชาวบ้านที่ประท้วงทั่น แล้วทั่นก็เดินเหยียบคราบเลือดของประชาชนเหล่านั้นเข้าไปป่าวประกาศว่าบริหารประเทศไม่ได้เพราะมีความขัดแย้งทางการเมือง….  ผมต้องหยุดไม่ใช่เพราะมีใครประท้วง แต่เสียงนั้นมันดังขึ้นมาอีกแล้ว
    “ทรราช! ทรราช! ทรราช! จึ๊ก จึ๊ก จิ๊ก จิ๊ก ทรราช! ทรราช! ทรราช!  ”
แม้เสียงนี้จะสนับสนุนความคิดเห็นของผม แต่ผมก็รำคาญที่มันมาทำลายสมาธิ ขณะที่ผมกำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีอยู่ในใจ พอมันเงียบ ผมก็คลิกปุ่ม Pause อีกครั้ง เป็นการอนุญาตให้พะนะทั่นนายกฯ ได้แถลงนโยบายต่อ ผมเผลอคิดไปว่าได้ทำหน้าที่ประธานนอกรัฐสภาไปด้วยในตัว     “รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดแก่การแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองที่มีอยู่ในสังคมโดยยึดทางสายกลาง เพื่อลดความเห็นที่แตกต่างและสร้างความเห็นร่วมกันในเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหา รัฐบาลมุ่งหวังที่จะบรรลุถึงการยุติความขัดแย้งโดยสันติ คงไว้ซึ่งคุณธรรม และวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทยในการเอื้ออาทรและการให้อภัยซึ่งกันและกัน”     ทันใดนั้นผมเห็นสุภาพสตรีคนหนึ่งเดินเข้ามาในที่ประชุมคว้าไมโครโฟนแล้วกรอกเสียงลงไปทันที ความจริงผมสามารถหยุดหล่อนได้ แค่เลื่อนลูกศรไปคลิกปุ่ม pause หรือ Stop แต่ถ้าทำอย่างนั้นผมก็คงไม่ได้ยินประโยคนี้จากปากของหล่อน     “หยุดโกหกประชาชนได้แล้ว มัวมาแถลงสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ข้างนอกประชาชนกำลังบาดเจ็บล้มตายมีสำนึกบ้างรึปล่าว” เธอว่า สีหน้าและน้ำเสียงบ่งบอกว่าเธอชิงชังผู้ที่เธอกล่าวหา ผมเห็นด้วยกับเธอนะ ขณะที่ข้างนอกตำรวจกำลังใช้อาวุธทำร้ายรังแกประชาชนจนบางคนแขนขาขาด บาดเจ็บล้มตาย มีผู้นำประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ประเทศไหนบ้างในโลกใบนี้ที่ยังกล้าแถลงนโยบายได้อย่างหน้าตาเฉย     หลังจากพูดจบผมเห็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติหลายคนในสภาเดินหน้าถมึงทึงเข้ามาหมายเอาเรื่องสตรีผู้นั้น ขณะที่ผู้ชายในชุดสูทสากลหลายคนช่วยกันห้ามปราม สตรีผู้นั้นตะโกนอะไรออกมาอีกหลายคำ สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาพาตัวออกไป ผมคิดว่าความวุ่นวายนี้จะทำให้การแถลงนโยบายต้องยุติลงเพื่อให้ทั่นผู้นำได้ทบทวนความเหมาะสม แต่เปล่า พะนะทั่นนายกฯ ขยับเน็คไทน์ไปมาสองสามที ขยับแว่นตาให้เข้าที่ แล้วก็แถลงนโยบายต่อ แต่คราวนี้น้ำเสียงของพะนะทั่นสั่นกว่าเดิม     “รัฐบาลจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศโดยสร้างความมั่นใจของนักลงทุนจากทั้งภายในและ จากภายนอกประเทศ ให้เชื่อมั่นในประเทศไทยว่าเป็นแหล่งลงทุนที่มีความมั่นคง”
    “ทรราช! ทรราช! ทรราช! จึ๊ก จึ๊ก จิ๊ก จิ๊ก ทรราช! ทรราช! ทรราช!”
    เสียงประหลาดนั้นยังคงดังมาไม่หยุด จะสันนิษฐานว่าเป็นเสียงของพันธมิตรจากด้านนอกรัฐสภาก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเสียงนั้นคงไม่น่าจะเล็ดลอดเข้าไปถึงในสภา และถ้าเป็นเสียงของพันธมิตรจริงก็ต้องมีเสียง “ปลั๊บ ปลั๊บ ปลั๊บ” ของมือตบประสานควบคู่กับเสียงโห่ไล่นั้นด้วย ผมสำรวจดูสุดท้ายก็มั่นใจว่าเสียงนั้นไม่ได้มาจากคลิปวีดีโอที่กำลังฟัง     ผมเหลืออดกับเสียงรบกวนนั้น นึกเห็นใจพะนะทั่นนายกฯ ที่แถลงนโยบายได้ไม่ราบรื่นจึงตัดสินใจเลื่อนเมาท์บังคับลูกศรไปคลิกปุ่ม Pause อีกครั้งเพื่อยุติการแถลงนโยบายไว้ชั่วคราว แล้วลุกขึ้นไปหาต้นตอที่มาของเสียงประหลาด เดินหาไปพลางก็เขย่ามือตบเล่นไปด้วย ถึงหน้าห้องน้องข้างห้องเสียงก็ยิ่งชัดขึ้น คราวนี้มันสอดประสานกันอย่างดีกับมือตบที่ผมหยิบมาเขย่าเล่น     “ทรราช! ปลั๊บ ปลั๊บ ปลั๊บ ทรราช! ปลั๊บ ปลั๊บ ปลั๊บ ทรราช! ปลั๊บ ปลั๊บ ปลั๊บ ทรราช! จึ๊ก จึ๊ก จิ๊ก จิ๊ก ทรราช! ปลั๊บ ปลั๊บ ปลั๊บ”
    ฟังดูมีพลัง สันติ และอหิงสาดีไม่น้อย ในห้องนั้นไม่ได้เปิดไฟไว้ ผมสังเกตเห็นแสงไฟสีเหลืองกระพริบวิบๆ มาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคตัวหนึ่ง มันวางอยู่บนชั้นใต้ทีวีลงมา แสงไฟนั้นสอดประสานกับเสียงที่ดังติดๆ ขัดๆ นั้น ผมเปิดผ้าคลุมออกดูพบว่ามันคือเครื่องเล่นซีดีตราแรด เข้าใจว่าอะไรบางอย่างที่มันกลืนเข้าไปคงเป็นสาเหตุแห่งอาการผะอืดผะอมรวมทั้งเสียงติดๆ ขัดๆ นั้นด้วย ผมหารีโมทคอนโทรลไม่พบ จึงกดปุ่ม Open ให้เจ้าซีดีตราแรดคายสิ่งที่มันกลืนไว้ออกมา
    แสงไฟหน้าเครื่องกระพริบวิบๆ สองสามครั้งประสานกับผมเขย่ามือตบเล่นๆ อีกสองสามทีเจ้าแรดก็คายแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งออกมา เสียงประหลาดนั้นหายไปทันที ผมหยิบซีดีแผ่นนั้นขึ้นมาดูแต่ก็มองไม่เห็นว่าเป็นแผ่นอะไร ก็พอดีกับที่เจ้าของห้องกลับมา เขาเปิดไฟในห้องแล้วก็แปลกใจที่เห็นซีดีแผ่นนั้นอยู่ในมือผม คราวนี้ผมเห็นชัดเจนว่ามันคือแผ่นหนังเรื่อง “วี ฟอร์ เวนเดตต้า : เพชฌฆาตหน้ากากพญายม” ผมจำเรื่องนี้ได้ดีเพราะเคยดูมาก่อนแล้ว     V for Vendetta เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวอนาคตของอังกฤษที่ถูกปกครองด้วยระบบเผด็จการ เมื่อหญิงสาวชนชั้นกรรมาชีพนามว่า ‘อีวี่ย์’ ร่วมมือกับชายผู้ซ่อนใบหน้าที่แท้จริงไว้ใต้หน้ากาก ที่รู้จักกันเพียงในนาม “วี.” พวกเค้าร่วมมือกันเพื่อปลดปล่อยประชาชนจากการคอร์รัปชั่นโกงกินและความโหดร้ายจากรัฐบาลทรราช!
    “แผ่นผี แม่งบอกว่าดูได้ ภาพคมชัดไม่สะดุด ที่ไหนได้ใส่เข้าไป เล่นไปซักพักแผ่นค้าง กดให้ออกมันก็ดื้อด้านไม่ยอมออก”
    น้องข้างห้องบ่น แล้วประโยคที่เต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลาน อวัยวะเพศหญิงและชาย รวมทั้งโรคระบาดร้ายแรงชนิดหนึ่งก็ถูกพ่นออกจากปากเขาอีกครั้ง ผมยื่นซีดีผีแผ่นนั้นให้ เขารับไปโดยไม่ถามว่าผมเอามันออกมาได้ยังไง แล้วเขาก็โยนซีดีแผ่นนั้นทิ้งถังขยะอย่างไม่ใยดี
  “ผมเอาแผ่นที่เหลือไปคืนให้มัน บอกว่าแผ่นติดและค้างอยู่ในเครื่อง มันบอกว่าหนังเรื่องนี้หมดแล้ว เลยให้ไอ้นี่มาแทน”
    เขาชูให้ผมดู ไอ้นี่ที่เขาว่าคือซีดีผีหนัง AV ญี่ปุ่น ปกหน้าเป็นรูปผู้หญิงเปลื้องผ้าอล่างฉ่าง สันนิษฐานว่าคงเป็นนางเอกในเรื่อง ผมคุ้นๆ หน้านางเอกคนนี้เหมือนจะเคยเห็นในเว็บไซต์ที่ไหนสักแห่ง   “เนี่ย มิยาบิ นางเอกหนังโป๊ญี่ปุ่นกำลังฮ็อท ลีลาเหลือกิน เร่าร้อน แถมยังสวยด้วย ไม่ดงไม่ดูมันแล้วหนังการเมือง ดีนะที่เจ้าของร้านมีของทดแทนให้ไม่งั้นมีเรื่องแน่” เขาอวด คำพูดแสดงอารมณ์ที่ยังคุกรุ่น แต่สัตว์เลื้อยคลาน อวัยวะเพศหญิงและชาย รวมทั้งโรคระบาดร้ายแรง ไม่ได้ออกมาจากปากเขาอีก
    เขารีบใส่แผ่นเข้าไปในเครื่องเล่นซีดี ผมรีบวิ่งกลับห้อง เห็นภาพในคลิปวีดีโอ พะนะทั่นนายกฯ ยืนอ้าปากค้าง สมาชิกสภาทุกคนหยุดการเคลื่อนไหวเพราะผม Pause เอาไว้ เขาจะเคลื่อนไหวหรือแถลงนโยบายได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อผมอนุญาตด้วยการคลิกที่ปุ่ม Pause อีกครั้งเท่านั้น ผมมองทั่นนายกฯ สลับกับคิดถึงใบหน้าของน้องมิยาบิ สุดท้ายจึงตัดสินใจเลื่อนเมาท์บังคับลูกศรไปคลิกที่เครื่องหมายกากบาทมุมบนด้านขวาของจอวีดีโอคลิป อันเป็นการปิดการแถลงนโยบายลงอย่างถาวร
    “ไม่ฟงไม่ฟังมันแล้วโว้ยการเมือง ไปเรียนวิชาเพศศึกษาก่อนดีกว่า” แม้จะไม่ได้ฟังถ้อยแถลงนั้นต่อแต่คิดว่าทั่นนายกฯ คงไม่ว่าอะไร เพราะประชาชนในปกครองของทั่นกำลังจะมีความสุขกับการดูหนังโป๊
    เครื่องเล่นซีดีตราแรดกลืนซีดีผีแผ่นนั้นเข้าไปแล้วเริ่มเล่นโดยอัตโนมัติ คราวนี้เครื่องไม่มีอาการสะดุด ทั้งเสียงทั้งภาพชัดเจน แต่จนแล้วจนรอดไอ้น้องข้างห้องก็สบถออกมาอีกจนได้     “แม่งเอ๊ย เซ็นเซอร์ก็ไม่ยอมบอกเสียอารมณ์ชิบหาย” แล้วบรรดาสัตว์เลื้อยคลานและโรคระบาดก็ถูกพ่นออกมาจากปากของเขาอีกคำรบหนึ่ง     ภาพอวัยวะเพศหญิงและชายบนจอภาพซึ่งพร่ามัวเพราะถูกเซ็นเซอร์ทำเอาเขาหงุดหงิดอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีความสุขเอาเสียเลย ฉับพลันถ้อยแถลงประโยคหนึ่งของพะนะทั่นนายกฯ ก็ดังขึ้นในหัวสมองของผม
    “นอกจากนั้น (ประเทศไทย) ยังเป็นที่ซึ่งประชาชนคนไทยและคนต่างชาติอยู่อาศัยอย่างมีความสุข”     ผมเหลือบมองหน้าน้องข้างห้อง ตาเขาไม่ละจากจอทีวี แต่คิ้วเขาชนกัน ขณะที่ปากยังขมุบขมิบบ่นงึมงำ
    เป็นอีกครั้งในวันนั้นที่ผมจับได้ว่าพะนะทั่นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยกำลังโกหกประชาชน

Comment #1
Posted @19 ก.พ.52 20.20 ip : 118...246

โอ้ ตลกร้าย

Comment #2
Posted @16 มี.ค.52 6.27 ip : 58...122

;)    +)

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 19 user(s)

User count is 2438118 person(s) and 10229995 hit(s) since 25 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).