ทุกข์ท่วมไทย

by สมุทร @3 พ.ย.53 15.30 ( IP : 119...211 ) | Tags : กระดานข่าว
photo  , 450x295 pixel , 107,063 bytes.

หลั่นหลั่นไหลไล้คิรีสู่ที่ลุ่ม
ไร้พฤกษ์อุ้มน้ำหลากลงจากเขา
แผ่ผืนขาวราวสมุทรสุดบรรเทา
ท่วมเรือนเหย้าพาราจมบาดาล

ทุ่งนาเห็นเป็นทะเลราวเหหก
ฟ้าและน้ำมาปกแผ่นดินอิสาน
ถึงภาคกลางป้องกันไม่ทันการ
ท่วมถึงตาลมิดยอดข้าววอดวาย

ดีเปรสชั่นถลันรุกร่วมบุกเข้า
รวดเมืองเก่าหาดใหญ่น่าใจหาย
ท่วมซ้ำซากดักดานเหมือนบานปลาย
ฤๅเทพหมายพิสูจน์ไทยยามไร้รัก

ทุกข์ท่วมไทยทบทวีกลียุค
ต่างเข้าบุกโดยพาลต่างหาญหัก
ยึดกฎหมู่เหนือกฎหมายละอายนัก
แบ่งสองฝักสองฝ่ายป้ายสีกัน

เป็นสีนี้สีโน้นเข้าโค่นหัก
อ้างใจภักดิ์ยึดเฟืองเมืองสวรรค์
อีกฝ่ายสุมฟืนเผาเข้าประจัน
ร้อนรุมชั้นเทพยมอินทร์พรหมา

พระพิรุณเพ้อพร่ำและร่ำโหย
ถะถั่งโปรยอุทกวิตกผวา
หวังล้างเถ้าเผาไหม้ในธารา
เสมอหน้าเท่าเทียมกรมเกรียมไทย

หากยังรักสามัคคีกันดีอยู่
จงกอบกู้ช่วยกันมิหวั่นไหว
หากสิ้นรักสิ้นหวงสิ้นห่วงไย
จงซ้ำกันบรรลัยไปร่วมกัน

หลั่นหลั่นไหลไล้คิรีสู่ที่ลุ่ม
สิ่งที่อุ้มชูไทยชื่นใจฝัน
ย่อมน้ำใจอันประเสริฐเลิศโลกนั้น
เป็นเชือกควั่นร้อยไทยพ้นภัยพาล ฯ


(ขออนุญาตยืมคำน้าดิลล์มาใช้ขอรับ อิอิ)

Comment #1
Posted @3 พ.ย.53 19.31 ip : 1...208

งิ งิ แม้ยังงง ๆ ว่าข้าพเจ้าไปติดปากคำนี้มาจากไหน ยินพี่สมุทรออกนามเข้าก็ขอหน้าบานก่อนล่ะ หลายวันมานี่เงียบฉี่ขะรับ พี่ทรายป๋วยก็งานยุ่ง ไม่มีกลอนให้อ่านพานไม่มีแรงใจขีดเขียน นักเลงกลอนนอนเปล่านั้นเศร้านักนะพี่สมุทรนะ

ได้กลอนพี่สมุทรค่อยกระปลี้กระเปล่า เดี๋ยวลองบ้าง น้ำท่วมทั้งทีไม่เขียนอะไรไว้บ้างดูกระไร คำพี่สมุทรต้องใจนัก หากน้ำมาล้างสีเสียได้ก็คงเป็นผลดี

รบกวนพี่สมุทรดู 'ควั่น' สักหน่อยขะรับ ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนะ เท่าที่รู้ 'ควั่น' ใช้กับ 'ควั่นอ้อย' คือหั่นเป็นบ้อง ๆ ขะรับ ไม่ทราบจะเป็น 'ฟั่น' คำนี้หรือไม่? แต่ก็ไม่แน่ใจอีกนั่นแหละ (มันดูแล้วฟั่นเฟือนยังไงไม่รู้) ยังไงรบกวนช่วยเปิดหูเปิดตาผู้น้อยทีขะรับ

Comment #2
Posted @4 พ.ย.53 7.39 ip : 119...211

สมุทรท่าจะแย่แหล่ว ขอรับ ไม่ดูตาม้าตาเรือ คิดอะไรได้ก็สักแต่ว่าใส่ ไม่ตรวจสอบเสียก่อน ต้องการให้หมายถึงเชือกที่ฟั่นเป็นเกลียวนั่นแหละ คำ "ฟั่น" กับ "ควั่น" มัน คล้าย ๆ กัน แบบ "ฟาย" กะ "ควาย" นั่นแหละขอรับ ทำเอาสมุทรลงทะเลไปเลย แหะๆ

รีบไปเปิดพจนานุกรมออนไลน์ดู ก็เป็นดั่งนี้

ควั่น  [คฺวั่น] น. ที่ต่อขั้วผลไม้หรือดอกที่เป็นรอยรอบเช่นที่ก้านผลขนุนหรือทุเรียนเป็นต้น. ก. ทําให้เป็นรอยด้วยคมมีดโดยรอบ. ว. เรียกอ้อยที่ควั่นให้ขาดออกเป็นข้อ ๆ ว่า อ้อยควั่น.

ฟั่น ๑  ก. คลึงสิ่งเป็นเส้นหลายเส้นให้เข้าเกลียวกัน เช่น ฟั่นด้าย, นำป่านหรือปอเป็นต้นมาตีเกลียวให้เป็นเชือก เรียกว่า ฟั่นเชือก, คลึงขี้ผึ้ง ที่มีไส้อยู่ภายในให้เป็นเล่มเทียน เรียกว่า ฟั่นเทียน.

ฟั่น ๒  ก. มืดมัว, ยุ่งเหยิง, ปะปน.

กระผมขอยอมรับผิดแต่โดยดี แบบว่าห่างหายไปหลายวัน พอมีโอกาสเปิดคอมพ์ คิดอะไรได้ก็ใส่เลย ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที แต่งหน้าจอแล้วโพสต์เลย โดยไม่ตรวจสอบ เสียก่อน ก็เลยผิดพลาดฉะนี้ แหะๆ (ไม่ได้แก้ตัวนะนี่ อิอิ)

น้าดิลล์เป็นที่พึ่งของหลาน ๆ ได้เสมอ ขอขอบคุณขอรับ

ป.ล.รักเว็บนี้ขึ้นอีกโขเลยขอรับ

Comment #3
Posted @4 พ.ย.53 17.48 ip : 69...109

เดี๋ยวมาอ่านใหม่ขะรับ อิอิ

แวะมาคารวะน้าดิลล์ผู้ทรงภูมิ และน้าสมุทรผู้เก่งกล้าขะรับ

Comment #4
Posted @4 พ.ย.53 21.58 ip : 118...247

ควั่น ในภาษาใต้ก็คือ ฟั่น แต่ออกเสียงควั่น

ผมเคยใช้ในงานอยู่ครับ ในความหมายฟั่นนี่แหละ

Comment #5
Posted @7 พ.ย.53 15.56 ip : 1...107

-นาฏกรรมวัฏฏะ-

๏ ศรีสิทธิวิเศษสรวง เลอหล้าล่วงล่มสวรรค์ เผยแผ่นฟ้ากว่ากว้าง ผายโลกร้างเมืองเมรุ ล้มระเนนระนาด นองน้ำสาดซัดทำลาย ย้ายสรรพสิ่งเคยสถิต ปลิดชีพชนทุรนร้าย อัสสุสายนองเนตร เนืองเทวษทุกเขตคาม น้ำทวีท่วมทำนบ สยบอหังการ์มนุษย์ สุดจะยั้งระวังภัย ถะถั่งไหลไปหลั่นหลั่น ล้วนใจสั่นกายสะทก ตื่นตระหนกตระหนักจำ ย้ำสัจธรรมวิมุติ ใดเลยเหิมหาญยุด ทายท้าธรรมชาติ ท่านเฮย ฯ

๏ ม่านเมฆมาฉ่ำฟ้า...........เมืองแมน
มิดหม่นเหมือนห่อแดน.......ห่มด้าว
เคลื่อนตามยามแลแหน......หันสะทก
ตระหนกอกระร้าว...............ระรัวลั่นลานใจ ฯ

๏ ทบวันทบคืนคล้ำ.....เคลื่อนครา
ทิวคลื่นกลบทิวา.........พร่าไว้
กลางวันประดุจรา........ตรีล่วง
ช่วงช่วงตะวันไซร้........ไป่เห็นเร้นราง ฯ

๏ พรำพรำปลิวฝนพลิ้ว....พรำสาย
พรายพร่างบางระบาย......ร่ำฟ้า
เรียงโรยริ้วหล่นราย.........ระบัดร่วง
แรงลมซัดซ่าซ่า..............สาดซ้ำกรำผสม ฯ

๏ กลางเสียงหวีดหวีดวิ้ว....วือวือ
ระส่ำลมกระพือ.................พุ่มไม้
ค่อนคืนเหลียวไหนคือ.......ครางฝน
ครืนครืนขย่มให้................ใจสั่นขวัญสยอง ฯ

๏ ปึงปึงปังปังลั่น.............หลังคา
เพียงมิทันขยิบตา............พลันต้อง
อกรัวเร้าผวา...................หวั่นสะทก
กระเบื้องยกแผ่นร้อง.........ปลิวว่อนร่อนโพยม ฯ

๏ ตระหนกตระหนักนั้น....สุดพรรณนา
เจียนว่าวันชาตา.............สู่สิ้น
ยั้งอยู่ลมอาจพา..............พังพัด
วิ่งออกก็อาจดิ้น...............แหลกด้วยแรงทลาย ฯ

๏ มือสั่นใจสั่งเร้า..............ระรัว
เก็บโน้ตบุ๊คกับตัว.............เร่งเข้า!
หวั่นหวาดนั้นขลาดกลัว....เกินระงับ
โจนขนำจ้ำจ้ำเท้า............ไปทั้งพายุทะมึน ฯ

๏ หนึ่งชีพเพียงชีพน้อย......ด้อยนัก
กับหนึ่งสหายแสนรัก..........ใส่เป้
โดดเดี่ยวในกระโชกชัก.......กระชั้น กระชาก
ดุจหิ่งห้อยน้อยลอยเร่..........ร่วงคว้างกลางฝน ฯ

๏ ซุกกายชายคาค้ำ.....ขนำถัด
เปียกปอนยุงก็กัด........ขื่นกล้ำ
อายฝนละอองซัด........สาดทั่ว
ห่อตัวนั่งโงกง้ำ............หลับทั้งลมคะนอง ฯ

๏ รางรางเรืองรุ่งฟ้า........ฝ้ามัว
ย่างย่างกลับขนำตัว.......ตื่นสะดุ้ง
กระเบื้องกระจายทั่ว........กองทับ หับห้อย
หลังคาโหว่แหว่งรุ่ง........ริ่งร่อยห้อยคาน ฯ

๏ มะละกออ่อนล้ม..........พังราบ
เถาถั่วพูก็นาบ................แน่พื้น
ค้างตำลึงต่องแต่งคาบ...คาโอ่ง
กิ่งไม้ใบไม้ดื่น................เกลื่อนกลุ้มคลุมดิน ฯ

๏ มดหนีฝนกล่นพื้น.............ดื่นขนำ
เหมือนเคราะห์นำกรรมซ้ำ.....ส่ำเศร้า
นั่งมองฟ้าแหงนง้ำ...............หลังคาโหว่
ฝนก็ยังตั้งเค้า......................มืดครึ้มทะมึนมา ฯ

๏ ชีวิตยังมิสิ้น...................อุปสรรคผจญ
หนาวแล้งร้อนทุรน.............รุ่มร้อง
ยังยิ้มรับวัฏฏะวน................เวียนกระทบ
แปรปรับรับธรรมชาติพร้อง.....ครองชีพ ท่านเฮย ฯ

Comment #6
Posted @7 พ.ย.53 18.24 ip : 1...3

มาแบบโคลงห่อร่ายซะเลย
เป็นไงขะรับพี่สมุทรที่เคารพรัก

Comment #7
Posted @10 พ.ย.53 16.42 ip : 69...109

ชอบมากครับ บทนี้ ... น้าดิลล์ สุดยอดดดดดด

จริงๆ อยากเอาน้ำตาฟ้ามาแจม ... แต่ไม่กล้าเทียบรุ่น .. - -

Comment #8
Posted @10 พ.ย.53 17.07 ip : 119...211

๏ ศรีศรีขึ้นว่าศรีลงว่าเฮย นาฏกรรมวัฏฏะเอ๋ยช่างลีลา เก่าปรัมปราแต่เบาราณ มาพิจารณ์อุกทกท่วม ไทยแลนด์อ่วมอรทัย หลั่นหลั่นไหลชลท่วมเมฆ เฉกบาดาลมาเยาะ พิเคราะห์แล้วตะลึง อกอื้ออึงโอ่โอ้  ลิลิตน้าดิลล์โก้ ฉกาจฉกรรจ์ ฯ


โห... น้าเล่นโคลงอะไรเนี่ย ขออ่านก่อน แล้วจะมาเติม ขอรับ  :d

Comment #9
Posted @11 พ.ย.53 11.23 ip : 119...211

น้าดิลล์ขอรับ กระผมจนด้วยเกล้าไม่รู้น้าใช้กระบวนท่าอะไร

โคลงโบราณสินธุมาลี/มหาสินธุมาลี น่าจะเข้าเค้าที่สุด

ขออนุญาตด้นเดาขอรับ

๏ ชีวิตมิเคยสิ้น....................อุปสรรค
ทุกข์สุขหนาวร้อนทัก ...........ทั่วถ้วน
เข้าใจแลรู้หลัก.....................ธรรมชาติ
สรรพสิ่งในโลกล้วน..............แหลกสลาย ฯ

๏ วัฏฏะวนซ้ำซาก ............... สืบเสถียร
มนุษย์เง่าเข้าเบียดเบียน........ธรรมชาติ
ทุรนทุรายเพียร ....................เอาเปรียบ
ฟ้าดินจึงวิปลาศ...................หลั่งสุชล ฯ

๏ นาฏะลีลาศฟุ้ง ..................ฟองฝน
คีตะกระแทกไพรสณฑ์ ..........สนั่นฟ้า
มวลน้ำเลื่อนกระหน่ำมล.........เมืองต่ำ
ทบท่าวขาวดาษหล้า ............ล่มใต้บาดาล ฯ

๏ ผันลมหนาวโอบหล้า ........ เลือนฝัน
ยะเยือกย้ำในมหัน- .............. ตโทษ
น้ำจางจักแล้งพลัน .............. ผลาญมนุษย์
เทียวทุกข์วังวนโลด .............ลิ่วล้ำกรรมสนอง ฯ

Comment #10
Posted @15 พ.ย.53 8.38 ip : 119...211

น้าดิลล์หาย ?

Comment #11
Posted @16 พ.ย.53 9.03 ip : 1...64

เวลาเน็ตหมดขะรับพี่สมุทร
ซ้ำดีแทคยกเลิกโปรโมชั่นเก่า ของใหม่แพงขึ้นเท่าตัว ทำผู้น้อยนั่งมึน คงต้ัองตั้งหลักควานหาราคากันใหม่ ได้ราคาสมน้ำสมเนื้อแล้วค่อยโผล่มาน้อมคารวะขะรับ
(ปกติใช้ 50 ช.ม.แถมอีก 50 ช.ม. 200 บ. พวกเปลี่ยนเป็น 20 ช.ม. 100 บ. ดูดู๋ดู ดูพวกทำ)

โผล่มาแย้ว ต่อโคลงซะหน่อย

๏ ฉ่ำฉ่ำราวฉ่ำฟ้า............ชุ่มฝน
ฉ่ำชื่นโพยมบน...............ยั่วยิ้ม
ยินอักขระวธุรสประพนธ์...ภายท่าน ท่านเฮย
ฉ่ำใดไหนอาจพริ้ม..........ปริ่มชื้นฉ่ำใจ ฯ

Comment #12
Posted @17 พ.ย.53 8.34 ip : 119...211

๏ ฉ่ำฉ่ำหวานฉ่ำน้ำ ............ แตงโม
สองลูกกินพุงโต ................ เต่งซ้า
พริ้มพริ้มอิ่มมโน ................. มนัสนึก
ชุ่มฉ่ำน้ำคำน้า ................... นุ่มน้ำใจเสมอ ฯ

Comment #13
Posted @17 พ.ย.53 18.55 ip : 111...179

๏ เต่งเต่งสองลูกเป้ง..........เป่งโต
ตึงเต่งราวแตงโม...............ตึ่งโป้
ยามไหวพะเยิบโย..............เยพะยาบ
พอเพ่งอะพิโธ่....................แตงโมพี่สมุทร (นี่เอง) ฯ

Comment #14
Posted @19 พ.ย.53 16.31 ip : 119...211

๏ เอิ๊กเอิ๊กโคลงน้านี่ ............สนุกสนาน
พะเยิบพะยาบจมูกบาน.........เบิ่งโก้
แซวแซวนะโทษฐาน .......... รู้จัก
น้านี่ช่างมีโม้ ..................... มากมาย ฯ

๏ ลวดลายมิใช่น้อย .............น้าดิลล์
โคลงแผ่เหตุการณ์ศิลป์ ...... ซาบซ่าน
รูปลักษณ์ บ่ เคยชิน ............ สักหน่อย
เฉลยชื่อโคลงด้วยจ้าน ....... จักเสบย ฯ

Comment #15
Posted @19 พ.ย.53 20.56 ip : 1...136

๏ รูปลักษณ์จำหลักล้ำ...........สำคัญไฉน
เพียงชื่อคนตราไว้.................ใส่อ้าง
กรอบกฏกำหนดนัย................ไพเราะ พี่เฮย
จารด้วยใจสิสล้าง..................อย่างฟ้าเมฆลอย ฯ

Comment #16
Posted @22 พ.ย.53 12.11 ip : 119...211

๏  รูปลักษณ์จำหลักน้อม ......... น้าดิลล์
ปรุงอักขระรวยริน ................... ร่ำฟ้า
อิสระละเลงศิลป์ .................... สรรค์สนุก
ระยิบระยับรวงระย้า ................. หยดย้อยอสยาม ฯ

Comment #17
Posted @24 พ.ย.53 6.37 ip : 119...211

ไปไหนกันหมดแล้ว ... สงสัยแอบซุ่มไปเขียนงานล่ารางวัล อิอิ

Comment #18
Posted @27 พ.ย.53 19.00 ip : 1...45

๏ รางวัลเหยอแย่แล้ว....ล่ะพี่สมุทร
จนป่านนี้ยังหัวกุด......หางด้วน
หางามงามสักชิ้นสุด...จะหา  พี่เฮย
กลอนเอยนิยายเอยก็ล้วน...ขี้เหร่เหลือรับ'ทานฯ

๏ มองกล้ามกล้ามก็กร้าน.....แกร็นกรอบ
เหมือนบ๊ะหมี่กร๊อบกร๊อบ...ราดหน้า
ที่ไหนไปออกรอบ............อวดเรียว น่องงาม
มีแต่อายล่ะไม่ว่า.............ขืนซ่าคงเซียวฯ

๏ เขียนเอาสนุกหยั่งงี้..........แหละนะพี่
ยังอ่อนวรรควลี................แหล่ร้อง
พี่เห็นก็วานตี...................แก้แต่ง
เอ็นดูเถอะนึกว่าน้อง.........หน่อเนื้อวรรณกรรมฯ

Comment #19
Posted @30 พ.ย.53 9.45 ip : 119...211

๏ อยากแต่งกวีบทเข้า ...............ประกวด
อ่านแล้วแหมมันปวด .................จิตช้ำ
เลยขยำยัดปากขวด ..................ไฟจุด
ลอยเถ้าไปกับน้ำ .......................นิ่งบา ฯ
๏ จึงข้าฯ ยังยากไร้ ...................บทกวี
ไร้ความคิดดีดี ..........................หมดรู้
เหมือนมืดมิดชีวี ........................วนวก
เลยระเห็ดเฝ้ากระทู้ ...................ทุกข์ฯ ประจำ ขอรับ อิอิ

Comment #20
Posted @30 พ.ย.53 18.43 ip : 111...33

๏ เขียนงานหวังส่งเข้า.......ขันแข่ง พี่เอย
มีแต่ทอนถอนแรง...............เรี่ยวร้าย
จิตรังสรรค์กระจ่างแจรง.......พลอยจ๋อง
เพราะจ้องเล็งแต่พ่าย.........เผ่นแผล๋วชิงชัย ฯ

๏ เขียนงานเพราะสุขได้......เขียนงาน พี่เอย
งานจึ่งสมค่างาน................อย่างงี้
เขียนงานไปนานนาน..........ห่อนนิ่ง เนือยนอน
เลือกดีดีสักชิ้นสิ.................ส่งเข้าชิงชัย ฯ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 69 user(s)

User count is 2436911 person(s) and 10224093 hit(s) since 24 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).