จักมิสิ้นแสงสุดท้าย (2) ...
รุ่งจรรโลงโมงยามตามแสงใหม่
เสียงหัวใจเร่งเร้าแต่เช้าตรู่
ฝ่าทุกความเงียบเหงาตื่นเฝ้าดู
เมฆฟ่องฟูเคียงตะวันอันเกลี้ยงกลม ...
... ม่านหมอกคล้อยลอยห่างเบาบางแล้ว
แสงวาดแววเรืองรองคืบคล้องห่ม
รู้สึกจับต้องได้กับสายลม
พัดพริ้วฉมกลิ่นวันอันหอมล้ำ ...
... ริ้วประกายฉายช่วงทั้งดวงชีพ
เปลวประทีปโชนฉานทุกกาลย่ำ
แสงเติมวาดสาดเน้นพุ่งเป็นลำ
ทอดทอถิ่นดินน้ำถึงเนื้อใจ ...
... แกะรอยกรุยทางฝันอันเปี่ยมล้น
สุขทุกข์วนเวียนสั่งสมพลังใหม่
ค่อยบรรจวบควบรวมสรวมชีพวัย
ดำเนินในวงรอบกรอบเวลา ...
... เริ่มเช้าวันเปิดฉากความหลากหลาย
ร่วมทักทายแสงวารเบิกม่านฟ้า
สูดกลิ่นอายแห่งยุคปลุกชีวา
ดำรงค่าภาวะแห่งชีวิต ...
… คือเช้าวันสรรค์สร้างอย่างเรียบง่าย
เจตคติผลิหมายร่ายเรียงจิต
คัดกลั่นกรองสังเคราะห์กระบวนคิด
เกินนิมิตโอภาสวาทย์สำแดง ...
… ทุกเช้าวันจิตตื่นรับชื่นเช้า
เส้นสายตาขนานเท่าเทียบเงาแสง
แลบางสิ่งยิ่งย้ำนำแจกแจง
ละทางแพร่งถึงจุดตัดชัดสมดุล ...
… และเช้าเพื่อแสงแรกแผกสีสัน
เป็นประวัติของวันอันอบอุ่น
วงแสงเรื่อเจือจารหวานละมุน
ทรงค่าคุณรัศมีที่เผยงาม ...
... ตื่นเช้านะคนดีสุดที่รัก
เธอประจักษ์น้อยมากฝากไถ่ถาม
เธอรับรู้ความนัยใต้ฟ้าคราม
ฤาคล้อยตามโวหารการพรรณนา ? ...
... เราค้นพบดินแดนแสนวิเศษ
ลึกเร้นเขตชายทวีปที่ขอบหล้า
ปรากฏการณ์ทั้งปวงนั้นลวงตา
ฤาโลกรางกระจ่างค่าคืนสามัญ ? ...
... เจตจำนงมุ่งหมายจำรายค่า
เถิดเรามาทบทดทอนลดหลั่น
ด้วยศรัทธาปลอบปลุกทุกชนชั้น
มิมีวันจักสิ้นแสงสุดท้าย ...