ถนนสายละม้ายสงเคราะห์(ตัดใหม่) :: ๔.) ในดวงตาดุคู่นั้น
ถนนสายละม้ายสงเคราะห์(ตัดใหม่)
๔.) ในดวงตาดุคู่นั้น
๔.๑).
บางครั้งเขานั่งนานบนอานรถ
ลมหายใจสดสดลดความถี่
แหงนขึ้นมองฟ้าบ้างเป็นบางที
จุดบุหรี่แล้วพ่นควันอลอวล
มีเพียงเสียงถอนใจเฮือกใหญ่โต
สิ้นเสียงโห่เสียงหัวที่รัวร่วน
ในดวงตาคู่ดำชุ่มน้ำนวล
ตีความได้ล้วนล้วนโลกส่วนตัว!
๔.๒).
อาจทุ่งหญ้าสวันน่าหรือทุ่งหญ้าแพรี่
บ้านฟากไม้เนื้อดีสังกะสีรั่ว
ตาลโตนดเป็นแถวเป็นแนวรั้ว
สำมะโนครัวสังกัดรัฐทางควาย
วัยเยาว์? สาวงาม? ความหลัง?
อาจประดังหลั่งไหลจนใจหาย
ความกลัดกลุ้มรุมล้นทุรนทุราย
จึงเห็นลูกผู้ชายทอดสายตา
มองมายังข้าพเจ้าหากเปล่าว่าง
เวิ้งว้างจนเกินประเมินค่า
กลิ่นพิกุลกรุ่นโหยเมื่อโชยมา
ก็หอมเรืองเบื้องหน้าดวงตานั้น
คาวบอยใช้สองนิ้วขึ้นจัดหมวก
ในห้วงหนวกใบ้บ้าสายตาสั้น
ละม้ายสงเคราะห์แดดเปรี้ยงของเที่ยงวัน
รถยนต์ยังพ่นควันเสียงลั่นเลน
มองเหมือนข้าพเจ้าไร้เค้าโครง
โลกโล่งโจ้งโผงแดดขึ้นแผดเต้น
แต่ดวงตานวลน้ำนั้นฉ่ำเย็น
อาจเป็นOASISทะเลน้อย!
๔.๓).
เขามีโลกส่วนตัวสหายรัก
โปรดอย่าทักปลุกถามแม้คำค่อย
ของเด็กเล่นตัวหนึ่งให้ถึงร้อย
คาวบอยก็ไม่ขายเชื่อไหมคุณ
หมายความว่าเราควรเคารพ
โลกที่อบด้วยกลิ่นพิกุลกรุ่น
หากคุณดื้ออย่าว่าเขาทารุณ
เมื่อเขาฉุนเฉียวฉิวให้นิ้วกลาง!