M-e-e P-e-d

สวัสดีค่ะ บก.หนวดงาม คำนวณดู ระยะเวลาวงแตกก็ตอนเศรษฐกิจ แตกพอดี เพราะฉะนั้น เรื่องธรรมดา อินเทรนด์ ๆ .... (ฮ่า)...

คือ..ชอบการบรรยายลีลาของความรัก ออกมาเป็นบทเพลงหรือบทกลอน
เป็นความงดงามทางภาษาที่..ล้ำลึก..

ว่าแล้วก็ขอต่ออีกหน่อย (อารมณ์ติดพัน) พี่หมี่..ถ้าเข้ามา ขอร่ายกลอนรักหวาน ๆ ให้น้องยลสักหน่อยสิคะ...  ^_*

อบอวลยวนใจยิ่งนัก หอมกลิ่นความรัก โอบห้อมล้อมเจ้านวลใย

สบตาจ้องลึกดวงนัยน์ ยอดพิสมัย หัวใจยิ่งสั่นระรัว

น้องเอยเจ้าอย่าหวาดกลัว คืนที่สลัว มีเราอยู่คู่เคียงกัน

ดวงดาวใหญ่น้อยสารพัน ต่างโคมเสกสรรค์ ขอเจ้าอย่าได้หวั่นเกรง

แว่วยินบ้างไหมบทเพลง หรีดหริ่งบรรเลง ขับกล่อมให้น้องนิทรา

มาเถิดแอบแนบอุรา นะเจ้าขวัญตา จนกว่าอุษามาเยือน  ๚

สวมวิญญาณผู้ชายเขียน เป็นไงมั่งคะ พอจะจีบสาวได้รึเปล่า ??

ฮะฮ่า....มีสาวมาหลงหนึ่งคนแล้วสิ
ได้ผลเกินคาด นี่ยังไม่ได้ใส่ น้ำมันพรายนะเนี่ย...  ^_*

หวัดดีค่ะน้องอัญ...

สงสัยมากเลยครับ... ว่าทำไมใครๆเค้าเขียนกลอนกันได้ ผมเขียนที่ไรเป็นกลอนเปล่า... แฮ่

สวัสดีค่ะคุณพี่เฮฮา.. กลอนเปล่า เขียนยากนา... ว่าจะลองหัดสักที  เพราะมันไม่มี กฎข้อบังคับ จึงต้องคิดหนักว่า จะเขียนไปทำนองไหน ไม่ให้ความคิด กระจัดกระจาย  ยากจริง ๆ....


สวัสดีค่ะคุณขนมเน่า ให้มองลอดฝ่ามือได้ อย่าจ้องมากนะคะ เขินลลลลล์...

หวานใดในโลกหล้า มิอาจหามาเคียงเจ้า หวานล้ำในสองเรา มะ..มาเมากันสองคน!

ใครจะร่วมวงเชิญนะคะ
เอากับแกล้มมาด้วย  ฮ่าๆ..

หนุ่ม ๆ หายหมดแฮะงานนี้ สงสัยกลัวความเป็นกุลสตรีของเราสองคน นะอัญนะ...

หวาน ๆ หน่อยก็ได้ เสียภาพลักษณ์หมด..

                      คืนนี้จันทร์เสี้ยว สวยดังคมเคียว  ประดับนภา ฟ้านั้นมืดครึ้ม      หากแสงนวลตา วับแวมดารา      พราวพรายรายเรียง

                      สายลมพริ้วไหว ชะโลมดวงใจ    ให้ไหวเอนเอียง มองฟ้าอีกครั้ง    ดวงดาวพร้อมเพรียง ส่องเป็นตะเกียง  เปล่งแสงประกาย

                      คิดถึงบางคน ที่ยังเวียนวน      อยู่ในความหมาย ค่ำคืนคราใด      เจ็บแปลบแทบตาย เมื่อไรจะหาย    กันหนอใจเรา...๚