... Beautiful ...

by อีแมะจิ๊ @26 เม.ย.48 17.18 ( IP : 208...5 ) | Tags : กระดานข่าว

คราวที่ฉันอยู่ชั้นประถม ประมาณนั้น แม้ว่าอายุก็ประมาณนี้แล้ว (ทุกอย่างประมาณ)
ยังไม่สามารถลืมไปได้เลยกับเหตุการณ์นั้น ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นซ้ำ
อีกเลยจนทุกวันนี้ เหมือนเป็นความทรงจำที่หวงแหนจนไม่อยากให้หายไปจากใจ

วิชาภาษาอังกฤษคาบสุดท้ายของการเรียนในวันนั้น ซิสเตอร์ มารีอา สั่งให้นักเรียน
ทุกคนท่องศัพย์ 10 คำ และจะเรียกให้ท่องจากคนแรกและให้คนแรกเลือกที่จะให้
เพื่อนคนใดก็ได้ท่องเหมือน ๆ กัน ต่อจากเขาจนครบ 10 คน คำศัพท์ทั้ง 10 คำฉันได้
เพียงแต่มองผ่าน ๆ อย่างไม่ใยดี ฉันรอเพียงให้พ้นชั่วโมง สมองไม่ได้มีไว้สำหรับคิด
ฟุ่มเฟือยมันคิดไว้ลงตัวไม่มีเศษว่าเล่นบาสเสร็จอาบน้ำกินข้าว แล้วแอบไปห้องเปลี่ยน
เสื้อผ้า เพราะสัพภาระของฉัน ( ของเล่นส่วนตัว ) จะอยู่ที่นี่เขาไม่อนุญาติให้เอาของเล่น
มาโรงเรียน ฉันเป็นเด็กที่ชอบเล่นคนเดียว ตอนกลางคืน โตจนป่านนี้ก็ยังเป็นอยู่ ชอบ
แต่งตัวดูกระจกเปลี่ยนชุดนั้นใส่ชุดนี้ เขียนอะไรเล่นอ่านหนังสือบ้าง เป็นเด็กไม่ชอบ
สังคม ( เฉพาะเวลากลางคืน ) มีโลกส่วนตัว ไม่รู้และไม่สนว่าใครจะทำอะไร

ขาเข้าไปห้องแต่งตัว จะอยู่ติดกับห้องอาบน้ำรวม (โรงเรียนหญิงล้วน) ไม่มีความคิด
ใด ๆ เข้ามาครอบงำสามารถเพลิดเพลินไปได้ แต่ขาออกดูมันช่างน่ากลัวเสียทุกครั้ง
เพราะอาคารเรียนจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหอพัก มองไปแล้วมันมืดมนเหมือนว่าสิ่งหน้ากลัว
ทุกชนิดจะอยู่ในอาคารเรียนนั้นทุกซอกทุกมุมเมื่อเรามองไป... ทางเดินระเบียงที่เชื่อม
ต่อจากห้องแต่งตัวไปยังหอนอนจะมีแต่เราและไฟนีออนเป็นช่วง ๆ แค่นั้น ทุกอย่างมัน
อยู่ในสมองมันเป็นมโนภาพอันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าภาพจริง เพราะเราสามารถ หวาดกลัว
กว่าความเป็นจริงอีกหลายเท่านักจากการวาดภาพขึ้นมาเอง ฉันวิ่งและวิ่งและวิ่ง จนถึง
เรือนนอน ใจเต้นด้วยความกลัว กลัวว่าจะได้เห็นทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้เห็นอะไรเลยซักที
เข้านอนและเพลียหลับไป

ฉันตืนขึ้นมาทุกเช้าได้เพราะรุ่นพี่ที่แม่ฝากให้ดูแลฉันด้วยการโยนผ้าเช็ดตัวใส่และเอา
เท้าสะกิดเบา ๆ จนตกเตียง ทุกวัน และตืนขึ้นมาอาบน้ำ ห้องน้ำที่นั่นเป็นอ่างปูนยาว
ยาวมากสำหรับความคิดเด็ก ๆ มีชุดอาบน้ำแบบสวมหัว ลายดอกทุเรศ ๆ เราทุกคน
ใส่ชุดลายดอกยืนอาบน้ำพร้อม ๆ กัน ทั้งเด็กเล็กเด็กโตเสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า หน้าตู้
ใครตู้มัน และลงไปกินข้าวในโรงอาหาร

ในเช้าวันนั้นไม่มีใครพูดถึงเรื่องการท่องศัพย์ นี่เป็นสาเหตุหลักที่ฉันลืมไปเสียสนิท
ส่วนคนอื่น ๆ คงจะลืมเฉพาะการพูดคุยเรื่องการท่องศัพย์เท่านั้นมิได้ลืมท่องมาจนขึ้นใจ

เมื่อคาบก่อนวิชาภาษาอังกฤษจะมาถึงฉันก็พึ่งจะนึกได้ จึงไม่สนใจวิชาที่เรียนอยู่และ
แอบท่องจนคิดว่าขึ้นใจแล้ว นึกกระหยิ่ม ในมันสมองอันลึกล้ำและชาญฉลาดของตัวเอง
เมื่อเวลานั้นมาถึง เริ่มจากคนที่ 1-2-และ 3 คนที่สามคือ ไอ้เปิ้ล มันท่องจนจบแบบไม่
มีติดขัด... จากนั้นมันก็มองหาคู่อริของมันที่กินแหนงแครงใจมา 2-3 เดือนมาแล้วจาก
การแย่ง ชิงช้ากัน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่เรียนซ้ำชั้น ... ฉันแอบหัวเราะในใจและคิดว่า

" เสร็จแน่...นังโง่ " ไอ้เปิ้ลบอกชื่อแก่ซิสเตอร์มารีอาว่า

" ให้พี่จุ๊บต่อหนูค่ะ "

นังพี่จุ๊บหน้าซีดปน ๆ ไปกันกับหน้ายักษ์ที่พร้อมจะฉีกไอ้เปิ้ลออกเป็นชิ้น ๆ ได้ทุกเวลา
วุ๊ยยยยยยยย สะใจฉันมากกกกกก รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของฉันและเพื่อนอีก 2-3 คนต่าง
ยิ้มออกมาจนหน้าตาของพวกเราเหมือนกันหมด ยังกับแฝด 5 ก็ว่าได้

เวลาฝ่านไปนาน แต่ทว่าสนุกสนานกับการหัวเราะ กับอาการ เกาหัวยุกยิก ตะกุกตะกัก
ก้มมองโต๊ะ เหลือบมองกระดานดำ อย่างกระสับกระส่าย แต่ด้วยอิทธิพลมืดของพี่จุ๊บ
จึงมีพรายกระซิบเป็นระยะ ๆ จนนังพี่จุ๊บบรรลุไปได้ เมื่อมรสุมผ่านพ้นพี่จุ๊บไปแล้ว
สีหน้าของการเอาคืนถูกจับจ้องมาที่ฉัน

........ปึ๋ง................. ตัวฉันแข็งทื่อขึ้นมาในทันทีที่รู้ว่าจะเป็นรายต่อไป

.... ฉันยืนขึ้นและท่องศัพย์แบบไม่เรียงกัน จนซิสเตอร์ประหลาดใจฉันเองก็แปลกใจ
ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่เรียงกันอย่างเพื่อนคนอื่น ๆ ฉันท่องคำที่ฉันจำได้ก่อน
คำท้ายที่สุดฉันรู้สึกว่าคำนี้ทำไมยากจัง ฉันตะกุกตะกักไม่ไปไหน เหมือนรถที่ขับ
ไปเที่ยวได้ไกลแสนไกลแต่ดันมาเสียเอาปากซอยบ้าน เฮ้ออออออออ !!!!

พรายกระซิบบอกผิดอีกต่างหากจนซิสเตอร์ทนไม่ไหว ถึงกับสะกดให้พูดตามและ
ถามว่า

" B- e - a - u - t - i - f - u - l บิวติฟูล มันยากมากนักเหรอ "

(ปัจจุบันมันยังตามมาหลอกหลอนฉันในชื่อของห้างแว่นบิวติฟูลอีกแน่ะ)

และให้หาผู้โชคดีคนต่อไป ...คาดโทษหลังเลิกเรียนให้เข้าไปพบซิสเตอร์อีกครั้ง โดยที่
มี ไอ้เอ๋ ไอ้หน่อย ไปด้วย

หลังเลิกเรียนของวันนั้นเป็นวันศุกร์ซึ่งผู้ปกครองจะมารับเด็ก ๆ กลับบ้าน ส่วนฉันต้อง
นั่งรถของครอบครัวรุ่นพี่ที่อยู่ข้างบ้านกลับแต่ถูกสะกัดด้วยซิสเตอร์มาริอาไว้ ซิสเตอร์
ฝากบอกรุ่นพี่ว่าให้ไปบอกผู้ปกครองฉันมารับเอง เพราะฉันถูกทำโทษ โดยการคัดลาย
มือคำว่า B- e - a - u - t - i - f - u - l ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ ผู้ปกครองของเอ๋กับหน่อย
มารับแล้วแต่ผู้ปกครองของฉัน อยู่ไกลคงอีกนานกว่าที่จะไปถึงและกว่าที่พ่อกับแม่จะ มา ปาเข้าไป 2 ทุ่ม

นักเรียนทั้งโรงเรียนในขณะนั้น เหลือฉันเพียงคนเดียวกระเป๋าและสัมภาระถูกวางอยู่
ข้างเคียงกันที่เก้าอี้หินอ่อน ฉันไม่มีอะไรจะทำเพราะถูกจัดให้รอผู้ปกครองตรงที่นี้ไม่
ให้เดินเข้าไปในอาคารเรียน ซึ่งมีของเล่นมากมาย เพราะทางโรงเรียนจะปล่อยหมาตัว
ใหญ่ ๆ ออกมาเดิน ฉันงอนไม่ยอมแม้แต่จะกินข้าว เหงาใจแบบเด็ก ๆ

(คิดสภาพเถอะน่าสงสารเน้อ) ฉันมองไปยังเก้าอี้หินอ่อนที่มีตัวหนังสือแดง ๆ เขียนไว้ว่า
ร้านอนันการไฟฟ้า มอบไว้เป็นสมบัติของโรงเรียน ฯ หนองมนของฝากมอบไว้ฯ
ร้านปืนทองมอบไว้ฯโรงโม่หินฯมอบไว้ฯ เหตุผลอะไรถึงใจดีให้โรงเรียน เก้าอี้หลาย ๆ
ตัวเรียงรายอยู่ใต้ต้นก้ามปูอย่างหงอยเหงา อีกทั้งมีเสียงจิ้งหรีดร้องระงมจนแทบข่มใจ
ไม่ไหว อยากจะร้องไห้อย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม ช่วงเวลานั้นฉันรู้สึกว่ามัน
นานนานจนจำความรู้สึกนั้นได้ดีกว่าที่จะเห็นรถพ่อเข้ามา หัวใจฉันก็พอโตจนลืมหิว
ลืมเหงาไปหมดสิ้น พ่อกับแม่เข้าไปพบอธิการ คือ ซิสเตอร์ฟรังซิส ชูจิตรผลสุวรรณ
(เป็นไงจำได้แม่นเลย ขณะนั้นท่านน่าจะอายุ 50 กว่าแล้ว) ซิสเตอร์ตักเตือนผู้ปกครอง
ของฉันอย่างสนุกสนาน และย้ำว่าให้กลับไปอบรมฉันด้วย เนื่องจากมีพฤติกรรม
แปลก ๆและยกตัวอย่างพฤติกรรมเช่น หลังจากทานข้าวแล้วทางโรงเรียนจะให้กล้วย
น้ำว้า2 ลูกกับนม 1 แก้ว ทานก่อนนอน ซึ่งฉันไม่เคยกินมันเลย แถมเอากล้วยไปซ่อน
ตามที่ต่าง ๆ รวมถึงใส่ในเปียร์โนเก่าข้างหลังโบสถ์ด้วย นี่! ฉันทำอะไรไป 55 555
เด็ก ๆ ทุกคนอยู่ในห้องดูทีวี แต่ฉันไปอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและวิ่งกลับมานอนทีหลัง
เพื่อนเกือบทุกวัน รับอาสาส่งและรับ จดหมายจากรุ่นพี่เพื่อนำไปให้นักเรียนโรงเรียน
ตำรวจที่มาวิ่งตอนเช้าข้าง ๆรั้วโรงเรียนโดยไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรไปมากกว่าความ
ตื่นเต้นที่ได้ลักลอบทำอะไรแปลก ๆ และอีกหลาย ๆ อย่าง

ทุกสิ่งถูกเปิดเผยสู่ พ่อกับแม่ โดยที่ฉันเองไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ใหญ่รู้ ฉันไม่รู้ว่าจะคิด
ยังไงกับเรื่องพวกนี้ แต่ก็ไม่เคยลืมเรื่องพวกนี้รู้แต่ว่ามันกลายเป็นนิสัยของฉันไปเลย
ว่าถ้าทำผิดอะไรก็ตาม อาจมี 1 หรือ 2 คนที่รู้พฤติกรรม และหวาดกลัวที่จะทำอะไร
ไม่ถูกต้องทุกครั้งไป

เมื่อแต่ก่อน จนถึง 2-3ปีที่ผ่านมา ฉันก็ยังรู้สึกเกลียดชังโรงเรียนนี้เสมอ ๆ แต่เมื่อไม่นาน
มานี้ฉันได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนเขาเข้ามาทักทาย และติดต่อนัดเพื่อน ๆ ให้มาเจอกัน เรา
ได้พูดคุยกัน เป็นครั้งแรกหลังจากที่หายกันไปเป็น สิบ ๆ ปีได้รู้ว่า พี่จุ๊บเป็นมะเร็ง
เสียชีวิตไปได้ 3-4ปีแล้วส่วนรุ่นพี่ที่ถีบฉันตกเตียงทุกเช้า ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปนาน
มากแล้ว ได้รู้ว่าใครทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไร ความรู้สึกเกลียดชังโรงเรียนอย่างแต่ก่อน
กลับหายไป และทดแทนด้วยความทรงจำดี ๆ ที่ผ่านมาจากการพูดคุยกันในหมู่เพื่อน
ขอบคุณ ไอ้นพ ( นพวรรณ ) ที่เข้ามาทักอย่างมั่นใจในชื่อฉันซึ่งไม่ได้ยินใครเรียกแบบนี้
มานานมากแล้ว มันเรียกฉันว่า

" อีหนอด จำฉันไม่ได้ล่ะซิ อีสมองเสื่อม "

Comment #1
หมี่เป็ด ไอ้รูปหล่อ (Not Member)
Posted @1 พ.ค.48 20.58 ip : 203...13

55555555555


ทุกคนมีเรื่องเล่าที่สนุก  เศร้าเหงา ปรีดา  และทุกอารมณ์กันทั้งนั้น  เรืท่องเล่าของใครสักคนจึงเป็นเรื่องเล่าที่ยังคงน่าอ่าน  น่าฟังอยู่เสมอ


มันเป็นชีวิต  ชีวิตจริงๆที่ผ่านเข้ามา  และที่สุด  ไม่ว่ามันจะเลวร้ายหรือดีเพียงไร  มันก็จะเป็นรอยยิ้มในโอกาสต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปเป็นสิบสิบปี

เคยเศร้าและเกลียดชีวิตตนเองในบางช่วงเหมือนกัน    แต่เมื่อผ่า่นมากลับรู้สึกว่าเราโชคดีที่ผ่านมาได้  โชคดีที่เราผ่านมันมา  มันเป็นความโชคดี  และเรียกรอยยิ้มให้ตัวเองได้เสมอ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 55 user(s)

User count is 2441473 person(s) and 10247804 hit(s) since 27 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).