จะซึม.เศร้า.เหงา.แฮงก์ ก็เพียงผ่านพบไม่ผูกพัน

by ชิดชบา @9 ธ.ค.48 9.45 ( IP : 58...97 ) | Tags : กระดานข่าว
photo  , 501x333 pixel , 26,732 bytes.

เขียนแล้วรู้สึกเหมือน บุ๊คส์&ดนตรีรีวิวจริงๆเลย

เพลงคนโลภ ดูจะเป็นเพลงที่ถูกโปรโมตมากสุด จนอาจจะทำให้หลายคนสรุปว่า นี่เป็นงานเพื่อชีวิต ทั้งอัลบั้ม แต่ถ้าหากใครได้ฟังทั้งอัลบั้มแล้ว อาจจะคิดเหมือนผม เนื้อเพลงมีลักษณะเหมือนงานกวีที่ดี เพลงทั้งหมดที่แต่งโดย ทิวา สาระจูฑะ นั้นมีความชัดเจน สอดคล้อง ลงตัว

แต่ละเพลงอาจจะบอกได้ว่า เป็นดังบทสรุปแห่งการเดินทางผ่านร้อน ผ่านหนาว ของ ทิวา สาระจูฑะ  เนื้อหาแทรกสอดไว้ด้วยความมีชีวิตชีวา น่าเสียดายกับชื่ออัลบั้มว่า ซึม.เศร้า.เหงา.แฮงก์ ที่จริงผมว่าน่าจะชื่อว่า สีสันแห่งชีวิต สอดคล้องกับนิตยสาร สีสัน อีกต่างหาก

เพลงเนื้อร้อง ทำนอง โดย ทิวา สาระจูฑะ ร้องโดย แอ๊ด ยืนยง โอภากุล ผมฟังอยู่หลายรอบ ฟังด้วยความรู้สึกว่า มีอะไรน่าค้นหา ฟังแล้วรู้สึกว่ามีความหมายที่ซ่อนอยู่ในเพลงทุกเพลง

ตำนานดวงดาว/ ตามเสียงหัวใจ /เจ็บเพื่อเข้าใจ / ความฝัน-ความจริง / อยากให้อยู่ด้วย / รักยิ้ม / เมืองไทย / คนโลภ / ความหมาย / เวลาที่เหลือ/ อีกไม่นาน /ที่สุดของคน / อย่ากลัว

สำหรับผม พอจะพูดได้ว่า เป็นงานเพลงที่น่าฟังมากชุดหนึ่ง ไม่เพียงดนตรีที่ทำออกมาพ้นไปจากแนวของ แอ๊ด คาราบาวโดยสิ้นเชิง (เหลือแต่เพียงเสียงร้องของแอ๊ด) ไม่เพียงเนื้อหาที่หนีพ้นไปจากแนวของแอ๊ด แต่เป็นแนวของทิวาเอง เป็นมุมมองในการมองโลกของทิวา แทรกสอดด้วยปรัชญาชีวิต เสมือนการเดินทางในชีวิตของคนๆหนึ่ง ในแง่ของดนตรี(และการประชาสัมพันธ์) ว่ากันว่า เป็นอัลบั้มที่ใช้นักดนตรีเปลืองมาอัลบั้มหนึ่ง รวบมือกีตาร์ชั้นดี มือกลองชั้นเยี่ยม คอรัสชั้นยอด หลายๆคนมาร่วมมือกัน เพราะ คนชื่อ ทิวา สาระจูฑะ นั้นไม่ธรรมดา สีสันของดนตรีจึงฉีกหนีไปจากซาวด์ของแอ๊ดพอสมควร พูดได้ว่า ไม่มีกลิ่นอายของสามช่าแบบคาราบาว จะมีเพลงบลูบ้าง , คันทรี่บ้าง โฟล์คบ้าง ผสมผสานกัน ขับเคี่ยวโดยฝีมือของสุดยอดนักดนตรี
เพลง ความฝัน-ความจริง เธออยากบินไปใต้ฟ้ากว้าง        ระหว่างเมฆพราวดาวพราย ด้วยเสียงเรียกร้องของหัวใจ      รุมเร้าแรงไฟตามฝัน

เธออยากเป็นยานที่ลอยล่อง      ท่องสู่อิสระอันนิรันดร์ ข้ามผ่านกาลเวลาคืนและวัน        จนถึงฝั่งฝันเสรี

แต่ลึกลงในความจริงนั้น        ทุกสิ่งเกี่ยวร้อนกันพันธนา แม้ดาวยังโอบด้วยฟ้า            และโลกที่กว้างกว่าก็ขังเธอ

ความจริงอาจทำเธอช้ำซอก      แต่บอกนิยามความนัย อิสระเสรีอยู่ที่ใจ                  ให้เธอเรียนรู้อยู่กับมัน

อ่ะ ไหนๆก็แนะนำอัลบั้มแล้ว จะไม่แนะนำหนังสืออ่านควบคู่กันไปหรือ


ผ่านพบไม่ผูกพัน หนังสือของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล สำหรับผมเอง โดยส่วนตัวคิดว่าหนังสือของเสกสรรค์ ทุกเล่มน่าอ่าน จะมากจะน้อย ก็ให้ความหมาย ให้มุมมองแก่ชีวิต

ความเรียงของเสกสรรค์แตกต่างจากนักเขียนคนอื่น โดยมีรูปแบบการเขียนเฉพาะตัว บรรยายร้อยแก้ว พรรณนาถึงความรู้สึกของตัวเอง เชื่อมต่อกับประวัติศาสตร์ สัมพันธ์กับเหตุการณ์ปัจจุบัน และบางครั้งก็ครุ่นคำนึงถึงอนาคต มีบ้างที่ยึดถือตัวเองเป็นที่ตั้ง และหลายครั้งปล่อยไปตามกระแสคลื่นลม แต่โดยส่วนใหญ่หลักที่เสกสรรค์ยึดคือ ปรัชญาชีวิตแบบหนึ่ง แบบของเสกสรรค์ แบบของนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว..... ผู้ ผ่านพบไม่ผูกพัน..

เล่มนี้เป็นเล่มที่ผมรู้สึกชอบทันทีที่ได้อ่าน ความเรียงสั้นๆ ประกอบด้วยเรื่อง  / ผ่านพบไม่ผูกพัน / เงาชีวิตบนเส้นทาง / โบสถ์ในบ้านวิหารในใจ / ผาหินและหินผา / สายน้ำ สะพาน และฟากฝั่งของชีวิต / เดินทางในความเงียบ / คนข้างทาง / พักใจในโลกกว้าง / ความร้กบนเส้นทางกับเส้นทางแห่งความรัก / ต้นทางอยู่ที่คน ปลายทางอยู่ที่ฟ้า / ฤดูแล้ง

โปรยในบันทึกจากผู้เขียน ความเรียงสั้นชุดนี้ เป็นทัศนะล่าสุดของผมที่มีต่อโลก ต่อชีวิต ทัศนะที่ได้มาจากการเฝ้าพินิจประสบการณ์ของตัวเองมากกว่าห้าสิบปี และการเรียนรู้ความจริงโดยผ่านประสบการณ์ของผู้อื่น  ห้วงคำนึงจากการเดินทาง


หน้า 40 บางตอนใน เงาบนเส้นทาง คนเราอาศัยกระจกเงาส่องให้รู้จักเรือนร่างหน้าตา สรรพสิ่งบนเส้นทางก็เป็นดั่งกระจกเงาส่องสะท้อนให้เห็นแง่มุมชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้จักอ่านความหมายของมันมากน้อยเพียงใด

รอบข้างมีคำสอน รอบตัวมีคำเตือน เพราะฉะนั้นมิว่าเดินทางใกล้ไกล ลิ้วนให้ความหมายในการเรียนรู้

จากสำนึกตระหนักดั่งนี้ เราจะเห็นว่า ภูเขามิได้เป็นเพียงสถานที่ให้ปีนป่าย ทะเลมิใช่มีฐานะเพียงสระว่ายน้ำขนาดยักษ์ และดวงจันทร์มิได้เป็นเพียงก้อนหินที่ล่องลอย..

แทบทุกอย่างที่เราพบสัมผัส ตั้งแต่ทิวทัศน์ไปจนถึงเหตุการณ์ ล้วยมีข่าวสารส่งผ่านมา..

Comment #1
Posted @9 ธ.ค.48 10.18 ip : 58...97
Photo :  , 400x266 pixel 10,165 bytes

เบื้องหลังภาพ ผมชอบเพลง ความหมาย ในอัลบั้มนี้มาก จะโพสต์ที่บอร์ดนายพล ปรากฎว่าเว็บล่ม เลยทำเบื้องหลังภาพมาเล่นๆซะงั้น ถ่ายภาพนี้ตอนตี 5 หนังสือ ผ่านพ้นไม่ผูกพัน มาจากเพื่อนคนหนึ่ง ส่วนอัลบั้มนั้น ของผมเอง จับมาวางบนชั้นวางหนังสือ ใต้หลอดไฟ day-light อ่านหนังสือ ปรับ white-balance ไปที่หลอดฟลูออเรสเซ็นต์ ได้ภาพโทนสีอุ่นขึ้นมาอีกนิด .. อะแฮ่ม ห้ามแอบดูนะว่า มีหนังสืออะไรบนชั้นบ้าง เพราะดูอย่างไรก็ไม่เห็น

Comment #2
Posted @9 ธ.ค.48 17.23 ip : 203...93

55555555

ถึงไม่เห้นก็น่าจะเดาออกว่าเป็นพุทธปรัชญาแน่ๆ 

ผมยังไม่ได้ฟังเพลงชุดนี้  แต่เคยได้ยินบ้างทางวิทยุ  ในบางเพลง  เห็นด้วยกับคุณชิดชบาครับ  แอ๊ดเป็นเพียงทิวาขอเสียงร้องมาเท่านั้น  นอกนั้นสีสันดนตรีเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

ผ่านพ้นไม่ผูกพัน  ยังไม่ได้อ่านครับ  ผมเป็นแฟน อ.เสก  มานาน  ชอบในวิธีคิดวิธีเล่า  จำไม่ได้ว่าอยู่ในเล่มไหนที่ตอนนั้น อ. เสกกะ จิรนันท์ ยังอยู่ในป่า  แล้วเหงา อยากมีลูก  แต่เนื่องด้วยเงื่อนไขมากมายจึงมีไม่ได้  อ.เสกไปเจอลูกตะกวดมาตัวหนึ่ง  แล้วเอากลับมาเลี้ยงเป็นลูก


จีรนันท์กรี๊ดสิครับ..5555


ผมเพิ่งวาง  ผู้ชายที่กำลังสูญพันธุ์  ลงไปก่อนต่อเนตนี่แหละครับ

Comment #3
Posted @13 ธ.ค.48 18.43 ip : 58...16

ถึงไม่เห้นก็น่าจะเดาออกว่าเป็นพุทธปรัชญาแน่ๆ

บังเอิญชั้นนี้ประกอบด้วยหนังสือ ประโลมโลก ทั้งนั้นเลย พักหลังแม้ว่าซื้อหนังสือเข้าชั้นน้อยลง แต่ว่าที่เก็บๆนี่ รักทุกเล่ม!

ดนตรีเจ๋งสุดๆครับ สำหรับ ซึม.เศร้า.เหงา.แฮงก์ แต่ถ้าหากอยากได้อารมณ์เพลงแบบคาราบาว สามช่า ลอง หนุ่มบาว..สาวปาน]

แต่บางเพลงก็สะท้อนสังคมได้อย่างเจ็บแสบ อย่างเพลง บัวผัน

โลกมันหมุนเร็วขึ้นทุกวัน
ฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย
เมื่อก่อนนี้จีบกันจำได้
ต้องเขียนจดหมายหากันอยู่เป็นปี
แต่เมื่อวานไอ้แดงลูกพี่
เพิ่งขึ้น ม.4 อยากจะมีมือถือ
บอกลูกเอ๊ย...ตังค์แม่มีน้อย
มันบอกว่าบัตรเฟิร์สช้อยส์ผ่อนได้อย่าซื่อบื้อ สุดท้ายต้องพามันไปซื้อ
ลูกมีมือถือแม่ทำงานมือพัง

ไอ้เด็กเวร แม่งพูดหยั่งงี้... เอาขี้เถ้า.. เอ้ย หมอนรูปโดเรม่อน ปิดจมูกแม่งตั้งแต่ยังแบเบาะดีกว่าเน๊อะ

พี่บัวลอยตายในหน้าที่
ฉันกลัวลูกพี่จะตายที่หน้าบ้าน
หนังสือมันไม่ค่อยยอมอ่าน
ขับรถเครื่องมันบิดมาบิดไป
บอกชาวบ้านด่าพ่อล่อแม่
มันบอกว่าอย่าไปแคร์โหแม่...เชยบรรลัย
เค้าจัดสนามแข่งแมงกะไซค์
ให้ลูกหลานไปตายเป็นที่เป็นทาง



ยุคสมัยเปลี่ยนไปจริงๆ ..  ว่ามั้ย??

Comment #4
ไพร่ฟ้า (Not Member)
Posted @22 ม.ค.49 17.18 ip : 125...4

มีหลายคนชอบงานเล่ม"ผ่านพบฯ" ของอ.เสก ผมอ่านแล้ว กลับคิดว่า เล่มนี้อ่อนกว่าเล่ม "วิหารที่วางเปล่า" ครับ เล่มนี้นำเสนอ "คำตอบ"ทางพุทธปรัชญา โหว่งๆยังไงไม่รู้ คือ...ยก "ก้อนคำตอบ" เท่ๆมาเขียน โดยขาดที่ไปที่มาของ"ก้อนคำตอบ"นั้นอย่างละเอียดหนักแน่น แล้วเกทับนักอ่านน่ะครับ แถมยังมีท่าทีของน้ำเสียงเป็น "นักหลุดพ้น" อย่างเห็นได้ชัด ท่าทีน้ำเสียงแบบนี้ อ่านแรกๆมันเหมือน "ใช่" แต่พออ่านมากๆมันเลี่ยนครับ (บางคนอาจมันไส้ด้วยซ้ำ) นี่ยังไม่พูดถึงประเด็นว่า "คำตอบ"ที่ค้นพบนั้น.... เป็นเรื่องเก่าๆที่ผู้สนใจแก่นแกนของพุทธปรัชญา รู้สึกว่ามันตื้นๆครับ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 45 user(s)

User count is 2443326 person(s) and 10256145 hit(s) since 28 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).