ด้วยความชมชื่นอย่างแรง !
ด้วยความชมชื่นอย่างแรง
ผมเรียกเธอว่ามัชชี่ บางครั้งก็เรียกมัชมัช และหลายครั้งที่ผมทะลึ่ง
คะนองปากเรียกเธอว่าแหนมมัดอย่างสนิทสนม เธอเป็นคนที่เขียนกลอนได้น่าอ่านคนหนึ่ง เป็นกลอนภาษาง่ายๆธรรมดาๆ ผูกเรื่องเดินเรื่องง่ายๆได้อย่างน่ารักน่าหยิก และมีสำเนียงของคนที่ลุ่มหลงวรรณกรรมเยาวชนจนเห็นชัด
ผมรู้จักเธอทางอินเทอร์เนต !
แต่หนังสือเล่มแรกของเธอกลับเป็นงานร้อยแก้วกึ่งบันทึกกึ่งเรื่องเล่า วันที่เธอบอกผมว่ามีสำนักพิมพ์สนใจจะรวมเล่มให้ ผมเห็นความสุขชัดฉายออกมาทางตัวหนังสือในจอ MSN. ผมกลับไปไล่อ่านร้อยแก้วของเธอเท่าที่พอจะหาได้ พบว่ามันมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับผู้หญิงคนนี้ ก็ด้วยภาษาง่ายๆธรรมดาๆนี่อีกนั่นแหละ ที่มันง่ายและธรรมดาเสียจนเรารู้สึกได้ทุกตัวอักษร เหมือนกำลังนั่งฟังสาวทรงเสน่ห์ที่รู้วิธีจะพูดอย่างไรให้ตรึงคนฟังอยู่หมัด มันเป็นบันทึกกึ่งเรื่องเล่าที่อ่านเผินๆก็ได้ความรู้สึกร่วม ครั้นอ่านอย่างตั้งใจและนิ่งพอ เรากลับมองเห็นสาวเจ้าเสน่ห์คนนี้กำลังผูกคิ้วขมวด พยายามจะสื่ออะไรบางอย่างออกมาในเรื่องเล่า เธอไม่บอกตรงๆ แต่เธอมีวิธีการฉุกเราให้คิด และเมื่อคิด เราพบว่าที่เธอกำลังจะบอกเรานั้นคือเรื่องราวของชีวิต ชีวิตที่ทุกข์สุขตามประสาโลกนี่แหละ เพียงแต่เมื่อมันถูกถ่ายทอดจากน้ำเสียงของเธอ ทุกข์สุขนั้นก็น่าสนใจขึ้นมาทันที
มีหนังสือเชิงบันทึกกึ่งเรื่องเล่ามากมาย มีสำนักพิมพ์เยอะแยะที่รองรับ งานเหล่านี้ และอินเทอร์เนตก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงสนาม ส่วนใหญ่งานเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างใสใส น่ารักๆ ใช้ฟรอนท์ใช้สีใช้รูปเป็นองค์ประกอบหลักในการเล่า เขียนถึงเพียงความรู้สึกที่มีต่อสิ่งหนึ่งหนึ่ง ฟูมฟายครวญคร่ำพิลาปรำพันอย่างตื้นๆ พวกเขายังก้าวข้ามไม่พ้นอารมณ์โรแมนติค แต่งานของมัชฌิมานี้มีวุฒิภาวะ ไร้การฟูมฟายคร่ำครวญ เป็นบันทึกกึ่งเรื่องเล่าที่ผู้ใหญ่เขียน แต่เด็กควรอ่าน
เปล่าเลย ผมมิได้กระแนะกระแหนงานโรแมนติคแต่อย่างใด เพียงหยิบ ขึ้นมาเพื่อให้เห็นความแตกต่างของวุฒิภาวะ วุฒิภาวะอันนำเราไปค้นหาวิธีคิดของนักเขียนคนหนึ่ง ระบบวิธีคิดที่จะตอบคำถามเราว่าทัศนะต่อโลกและชีวิตของนักเขียนคนนั้นนั้นเป็นเช่นไร
๖ พิจิก ๒๕๔๘ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งยวด
Relate topics










