คำนำ : การพังทลายของทางช้างเผือก
เสมือนคำนำ
๑).
ข้าพเจ้าเคยแหงนคอมองดูท้องฟ้าในยามดึกๆ
พบความมืดมิดและเงียบสงบอันสัมผัสได้ของความว้างเวิ้งแห่งห้วงอวกาศ ไพศาลและกว้างขวางจนจินตนาการมิสามารถสร้างมโนภาพใดใดได้เลย มองฝ่าความมืดอันแสนไกลนั้นด้วยตาเนื้อ จากจุดที่ยืนอยู่บนพื้นโลก ไกลและสูงลิบ ข้าพเจ้าได้แต่ตั้งคำถามว่า - มันมีอะไรอยู่ในความมืดดำนั้น
แน่ล่ะ - นั่นมันวัยเยาว์ที่ไร้เดียงสา และเรียนรู้วิทยาศาสตร์
แต่เพียงในตำราเรียนเท่านั้น
มันมีทางช้างเผือก แม่บอกข้าพเจ้าในคืนหนึ่ง เป็นทาง
ช้างเผือกอันงดงามและเป็นทางฝอยขาวๆยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา ในทางช้างเผือกนั้นมีดวงดาวนับล้านๆดวง ข้าพเจ้าตะลึงฟังถึงความยิ่งใหญ่และมโหฬารนั้นด้วยหัวใจพองโต ในใจดวงเล็กๆวัยเยาว์ของข้าพเจ้าคิดถึงเจ้าชาย พร้อมด้วยม้าขาวปีกสวยที่ลิ่วทะยานไปตามเส้นทางดาวล้านดวงนั่น ครั้นเห็นผีพุ่งไต้ร่วงวูบเป็นทางยาว ข้าพเจ้าชี้นิ้วให้แม่มองตาม ละล่ำละลักบอกว่านั่นเจ้าชายบนม้าขาวกำลังมาโลกมนุษย์......
๒).
ปัจจุบันข้าพเจ้าใกล้เลข ๔ ไปทุกขณะ เพียงหายใจไม่กี่
ครั้งข้าพเจ้าก็ล่วงเข้าสู่วัยกลางคน มันเร็วแต่ก็นาน เหมือนๆเด็กน้อยแสนซนคนหนึ่งของเมื่อวาน ที่ร่างกายเติบโตเต็มที่พร้อมด้วยริ้วรอยของกาลเวลาประดับในวันนี้ ข้าพเจ้าเศร้า เมื่อก่อนหลับตานอนทุกคืนหวนคิดถึงเรื่องราวต่างๆของแต่ละวัน มีเรื่องมากมายที่ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำ และอีกมากมายที่รู้สึกเลวร้ายที่ได้ทำลงไป ในเวลาเพียง ๑๘ ชั่วโมงของวัน มันเกิดอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมากมาย ข้าพเจ้านอนจ้องเพดานห้องในความมืด ไม่เห็นดวงดาวไม่เห็นแสงของการวับวิบลากเส้นเคลื่อน ในความมืดนั้นข้าพเจ้าฟุบหน้าลงกับหมอน และหลับไปด้วยความรู้สึกอลหม่านภายในสมองอันหนักอึ้ง หัวใจเต้นครามโครม กว่าจะสงบลงได้ข้าพเจ้าก็เหนื่อยและเครียดจนร่างกายอ่อนล้า นั่นแหละ-การพักผ่อนอันทรมานจึงได้เริ่มต้น
๓).
ด้วยบุคลิกแข็งกร้าวเอาเรื่องคน และด้วยท่าทีพฤติกรรม
ที่ดูเหมือนก้าวร้าวของข้าพเจ้าไหมหนอ? จึงทำให้รูปทรงตัวตนของข้าพเจ้าเป็นรูปทรงเบี้ยวบิดตะปุ่มตะป่ำ ดวงตากระด้างและเนื้อเสียงทองแดงโฮกฮากไหมหนอ? จึงทำให้เงาทอดตกของข้าพเจ้าดูเหมือนความดำมืดในวันสุริยคราส หลายครั้งหลายคราวมากราวมากเรื่อง ตัวตนของข้าพเจ้าเป็นไปตามการปะทะปะพบที่คนอื่นจ้องจับมา สิ่งเดียวที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ- ทำไมข้าพเจ้าจึงหวั่นไหวต่อสายตาและเสียงเหล่านั้นด้วย? มันขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับบุคลิกที่ใครๆรู้จัก และน่าเศร้าที่ใครๆไม่เคยรับรู้ลึกๆของข้าพเจ้าเลย
ข้าพเจ้านอนจ้องเพดานในความมืด แล้วโหยหาทาง
ช้างเผือกอันเลื่อมระยับ
๔).
ข้าพเจ้ายังคงแหงนคอมองท้องฟ้าในยามดึกดื่น เบิก
ดวงตาโพลงเพื่อหาพิกัดของทางช้างเผือก มันต้องอยู่ในตำแหน่งไหนสักแห่ง ในองศาที่คอแหงนขึ้นมองฟ้านี่แหละ เด็กน้อยคนหนึ่งของเมื่อวานกำลังเดินทางเข้ามาใกล้ เขาไม่ใช่เจ้าชายขี่ม้ามีปีก เป็นเด็กที่ข้าพเจ้าคุ้นหน้ายิ่งนัก ผิดก็แต่ดวงตาและน้ำเสียงอันอ่อนโยนไร้เดียงสา เด็กเดินมาตาแดงก่ำ มือป้ายหยาดน้ำตาในคืนที่ผีพุ่งไต้ร่วงลงครั้งแล้วครั้งเล่า ละล่ำละลักบอกข้าพเจ้าว่าเขาเกลียดกาลิเลโอ..
๕).
แม่ลูบหัวข้าพเจ้าบอกว่าไม่มีหรอกเจ้าชายหรือม้าขาวมีปีก
วิชาวิทยาศาสตร์ที่ได้เรียนมาก็บอกข้าพเจ้าเช่นนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกับทางช้างเผือกของเรา? ใครกำลังโกหกใคร?
ยิ่งเติบใหญ่ - ทางช้างเผือกอันสวยงามนั้น ดูเหมือนมันยิ่ง
ไกลห่างออกไปจากผิวโลกใบนี้เข้าทุกที ขณะที่จ้องมองทางช้างเผือกอันสวยงามบนเพดานห้องในความมืดนั้น ข้าพเจ้าได้ตั้งคำถามถึงการพังทลายของมันว่าจะเป็นไปได้ไหม?
เด็กน้อยคนนั้นจ้องข้าพเจ้าเขม็ง ด้วยดวงตาที่เปลี่ยนแวว
กระด้างคลอหยดน้ำปริ่ม พูดเสียงกระซิบตามไรฟันว่า- เขาเกลียดกาลิเลโอ...
๖).
เหมือนเหมือนทางช้างเผือกในห้วงอวกาศว้างเวิ้งนั้นร่วง
กราวลงมาบนหัว ข้าพเจ้าฟุบหน้ากับหมอน การพังทลายของทางช้างเผือกได้ทำลายบุคลิกแข็งกร้าวและดวงตากระด้างของข้าพเจ้าอย่างสิ้นเชิง แล้วเด็กน้อยคนนั้นก็กอดข้าพเจ้าร้องไห้ไปด้วยกัน ในห้องมืดมิดที่เพดานเริ่มปรากฏดวงดาวล้านล้านดวงเรียงเป็นเส้นแสงยาวเฟื้อย เป็นทางช้างเผือกอันสวยงาม
เจ้าชายพระองค์หนึ่งขี่ม้าปีกขาวทะยานมาแต่ไกล..
๒๑ พฤษภ ๒๕๔๙ มนตรี ศรียงค์ meeped@hotmail.com www.softganz.com/meeped/index.php
หมี่เป็ดสำนักพิมพ์
แด่- เจ้าหญิงริมหน้าต่างที่สวมมงกุฎดอกแก้วจากทางช้างเผือก
ขอบคุณ : สุเพ็ญญา ชวดุรงค์ ครูตลอดกาล นายพรานผี และทุกมือที่กอบเก็บชิ้นส่วนทางช้างเผือกมาปะติดปะต่อ