คำนำสำนักพิมพ์
คำนำสำนักพิมพ์
มนตรี ศรียงค์ เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ล่าสุดที่ต่อแถว-แหก
แถวมาทางกาพย์กลอน จะด้วยกาพย์กลอนเป็นพลังปัญญาทางสังคม หรือกาพย์กลอนเป็นส่วนหนึ่งของวรรณคดี และวรรณคดีเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะ
หรือจะด้วยเหตุผลทางทฤษฎีใดก็ตาม แต่กาพย์กลอน
หรือสายธารกวีนิพนธ์ไทย ได้ทำให้คนหนุ่มสาวหลายๆรุ่นมีวิถีทางในการเลือก แล้วสำแดงออกถึงพลังความรู้สึกนึกคิด ผ่านสู่สายตาสาธารณชน ด้วยการเปล่งเสียงและเลือกเฟ้นถ้อยคำ ที่มิเพียงจะร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบ เป็นฉันทลักษณวิทยาเท่านั้น หากทว่าจักต้องสำแดงออกถึงเนื้อหาให้ปรากฏถึงชีวทัศน์-โลกทัศน์ ซึ่งกวีแต่ละคนย่อมมีอยู่ในเนื้องานของตน
ส่วนจะมีมากหรือมีน้อยนั้นคงขึ้นอยู่กับ มุมมองจาก
สายตาอันพึงเห็น ประกอบด้วย ฝีมือประสบการณ์จากการฝึกฝนในเชิงกาพย์กลอน อีกทั้งการยืนระยะเวลา ก็เป็นเครื่องพิสูจน์วัดไปพร้อมๆกับการให้ค่าหรือเห็นค่าจากสายตาของผู้อ่าน
แน่นอน นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครสักคนจะก้าวผ่าน
ระยะผ่าน แล้วขึ้นไปยืนเด่นอยู่หัวแถว
กวีหนุ่มรุ่นใหม่ในห้วงทศวรรษหลัง มิใช่มีแต่ มนตรี
ศรียงค์ เพียงเท่านั้น ยังมีใครต่อใครอีกหลายคนที่มีความเพียรพยายามในการสำแดงออกถึงชีวทัศน์และโลกทัศน์ของพวกเขา-ผ่านไปยังผู้อ่านตามหน้านิตยสาร
บ้างบางคนก็ฟูมฟายอยู่กับสายลมแสงแดดนั่นแล้ว
บ้างบางคนก็ก่นด่า-สบถพึมพำเอากับสังคมยุคสมัยของ
เขาเอง
บ้างบางคนก็น่าจะตายไปในทันทีที่เขาไม่แจ่มชัดว่าเขียน
บทกวีไปทำไม และเพื่ออะไร
จะอย่างไรก็ตาม จะด้วยเนื้อหาและรูปแบบใดก็ตาม
พวกเขาล้วนเป็นคนหนุ่มอันควรชื่นชมและศรัทธา ควรให้กำลังใจ เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็น่าจะได้คำตอบร่วมกันว่า นี่คือสายธารกวีนิพนธ์ไทย นี่คือรากเหง้าทางกาพย์กลอนในยุคสมัยที่เศรษฐกิจไทยไม่เป็นไท
ดอกฝัน:ฤดูฝนที่แสนธรรมดา ของ มนตรี ศรียงค์
เป็นการคัดสรรจากบทกวีเป็นจำนวนมากชิ้นที่ผ่านการตีพิมพ์ตามหน้านิตยสาร มากชิ้นเป็นพิเศษที่ อาทิตย์ข่าวพิเศษ ของ นายพรานผี และเมื่อมีการรวมเป็นเล่มโดยแพรวสำนักพิมพ์ จึงขอฝากไว้ในสายตาของผู้อ่าน
แพรวสำนักพิมพ์
เมษายน ๒๕๔๑