เทวรำพึง
เทวรำพึง
๑).
๐ เอ๊ะนี่เกิดอาเพทเหตุอันใด
ศาลกูเป็นไฉนจึงไหวถี่
แล้วหัวหมูใครวะ-ถวายฟรี
เหล้ามีโซดาพร้อมให้ย้อมใจ
เออดีโว้ย-ใครวะกตัญญู
ทั้งปลาปูหมูเห็ดแลเป็ดไก่
นั่นธูปเทียนข้าวตอกอีกดอกไม้
ทั้งแป้งร่ำน้ำอบไทยพร้อมใส่พาน
และนางรำร่ายรำอยู่เบื้องหน้า
เปลื้องผ้าตั้งจิตอธิษฐาน
เจ้าคะเจ้าขาจงบันดาล
อกกูสั่นสะท้านอึงคะนึง
รำอะไรรำเถิดอย่าเปิดผ้า
อนิจจาอนาจาร-สันดานทะลึ่ง
ผีสางแตกฮือเสียงอื้ออึง
เทวาตกตะลึงจะขึ้งเคือง
รำอะไรรำเถิดหน้าผ้าอย่าเปิด
รำอะไรรำเถิดอย่ามากเรื่อง
ตบะที่แกร่งกร้าวจะเปล่าเปลือง
ดูกร-เจ้าเนื้อเหลืองผ่องอำไพ
๒).
๐ ตัวกูเป็นเทพยดา
คุ้มครองทั้งพาราเจ้าเมืองไพร่
แม้มิใช่เทพดาวดึงส์ซึ่งอยู่ไกล
แต่กูก็ยิ่งใหญ่ในอิทธิฤทธิ์
บังอาจมาอุบาทว์ต่อหน้าเทพ
ให้กูเสพกลากเกลื้อนแลเรื้อนหิด
เอาหมูไก่เหล้ายามาอามิส
หมายให้กูเนรมิตนิมิตมึง
เช่นนี้แหละเหวยประเทศชาติ
จึงเหลื่อนกลาดด้วยขี้ซะเหม็นหึ่ง
เผ่าพยาธิชุกชุมก็รุมรึ้ง
ห่าป่วงก็หวงหึงเข้าทึ้งรุม
เช่นนี้แหละหนอสัตว์ผู้ยาก
ทั้งกาฝากทากเหี้ยมาเกาะกลุ่ม
ขึ้นบัลลังก์นั่งเทียนบังเหียนกุม
เยาวชนสาวหนุ่มก็กลุ้มใจ
เช่นนี้แหละหนอเป็นเช่นนี้
ประวัติศาสตร์ที่มีจึงป่วยไข้
แผ่นดินจึงดาลเข็ญลุกเป็นไฟ
โคตรเหง้าเผ่าอะไรก็ไม่รู้
เป็นเช่นนี้แหละหนอเป็นเช่นนี้
ลูกหลานจึงอัปรีย์-ที่เห็นอยู่
สังคมเลวเพราะคนดีมิเหลียวดู
มุดหัวเงียบในรูเพียงผู้เดียว
หนุ่มสาวผู้เร่าร้อนก็นอนหลับ
ไอ้แก่ตัณหากลับเล่นหวาดเสียว
ชักม้าชมเมืองกันกราวเกรียว
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน-อันธพาล
๓).
๐ โอ้อกกูหนอเทพยดา
ต้องเสวยน้ำตาต่างอาหาร
หดหู่ทดท้อทรมาน
อยากชำแรกแทรกบาดาลด้วยอับอาย
จำต้องคว้าเหล้าบันเทาทุกข์
คว้ากับแกล้มมาปลอบปลุกที่ขวัญหาย
บ้านเมืองนี้มืดบอดใกล้วอดวาย
หากที่พึ่งสุดท้ายคือตัวกู
อาทิตย์ข่าวพิเศษ