คุยกับคุณไอ้ปลง

by วรภ วรภา @9 ส.ค.50 12.53 ( IP : 61...27 ) | Tags : กระดานข่าว

หมี่  ขอใช้พื้นที่หน่อยนะ  คือพี่อยากจะคุยกับคุณไอ้ปลงหน่อยน่ะ  แต่เนื่องจากไม่ได้เป็นสมาชิกบอร์ดไทยไรต์เตอร์และสมัครไม่เป็น(อ่านตัวอักษรไม่ตรงที่กำหนดซะที)  ไม่แน่ใจหรอกว่าคุณไอ้ปลงจะเข้ามาหรือไม่ ไงๆ ใครที่ผ่านทางมาถ้ารู้จักช่วยบอกด้วยละกัน.....

คุณไอ้ปลงครับ ติดใจคำว่า 'เสียดายใจกวี' ที่คุณรำพึงไว้ในบอร์ดจึงอยากจะพูดคุยด้วย อย่าเสียดายเลย  ผมคิดว่าใจกวีที่ว่าน่ะไม่มีอยู่จริงหรอก มันก็ละม้ายกับที่บอกว่าคำนับกวีน่ะแหละ  ไม่มีใครคำนับใครหรอก แต่หากเราเชื่อว่าใจกวีมีจริง  ผมก็อยากถามกลับว่ากรรมการที่เป็นกวีด้วยมีใจกวีเรอะเปล่า  ผมยืนยันได้ประการหนึ่ง(แม้จะไม่มีคนเชื่อ  อย่างน้อยผมก็ไม่ละอายในสิ่งที่ทำเพราะมั่นใจว่าได้ทำอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส) ว่านี่ไม่ใช่กรณี 'ขี้แพ้ชวนตี' (มีเพื่อนกวีบางคนโทรเตือนว่าระวังจะโดนข้อหานี้  แต่ผมบอกว่าผมยืนยันตัวเอง) แต่เป็นเพราะเราเห็นและรู้สึกถึงเงื่อนปมบางอย่างที่เข้าใจว่าไม่ถูกต้อง เราจึงพยายามตั้งคำถาม หลายปีที่ผ่าน  มีเสียงด่าว่าทั้งทางหนังสือพิมพ์ ทั้งทางเน็ต  แต่หาคนรับผิดชอบการด่าไม่ได้  ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาตั้งคำถามอย่างจริงจังเพราะกลัวจะเป็นขี้แพ้ชวนตีเหมือนคุณว่า  บางคนก็กลัวว่าจะผิดใจกัน  บางคนก็กลัวว่ากรรมการจะหมายหัวส่งผลถึงอนาคต  ต่างก็บ่นกันข้างนอกเวที ปีแล้วปีเล่า พวกผมโง่จนไม่รู้ว่าทำไปแล้วจะโดนข้อหาพวกนี้หรือ ทั้งกานติ  ทั้งวิสุทธิ์ ทั้งผมและเพื่อนพ้องอีกหลายๆ คนใช่ว่าจะไม่เคยตกรอบ  เราตกรอบกันมาคนละหลายๆ ครั้งแล้ว  แต่ทุกครั้งเรายินดีเพราะเราไม่พบเงื่อนงำคาใจ ในส่วนของกวี เราเชื่อว่าไม่ได้เป็นความผิดของกวี  ผมเข้ามาเล่นที่บ้านของหมี่เพราะหมี่เป็นน้องรักคนหนึ่ง  ส่วนตัวยินดีกับหมี่และลุ้นหวังให้หมี่ได้ครั้งนี้ ผมสนิทกับศิริวรและลุ้นให้ศิริวรได้ แต่ก็คิดว่าคนละส่วนกัน เราตกลงกันว่าจะเปิดเผยชื่อ(ที่มีตัวตนในโลกความจริง)เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ(เราไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนเห็นด้วยกับเราทุกคน  เราไม่รู้หรือว่าเราจะโดนอะไรจากบุคคลที่เห็นต่างจากเรา)  เราไม่ชอบแบบที่ด่าพล่ามทางเน็ตแต่ไม่กล้าปรากฏตัว  ได้แต่ใช้ชื่อแฝง แล้วแอบเร้นตามซอกมุม  เราไม่ชอบดักตีหัวเพื่อน ฉะนั้น  หากเราข้องใจ  สงสัย  และเรียกหาความถูกต้องยุติธรรมแล้วเราจะสูญเสียใจกวีไปอย่างคุณว่าเราก็ยอม(ผมว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะถกถึงประเด็นใจกวี-ใจกวีต้องยอมนิ่งในทุกกรณีหรือ)  เราจะถูกประณามว่าขี้แพ้ชวนตี องุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน เราก็ยอม ซึ่งทั้งหมด  กรรมการเองก็มีสิทธิที่จะตอบเรา  และถ้าจะเกลียดเราก็จะได้เกลียดถูกคน ผมมีประเด็นที่จะชี้แจงอีกเยอะ แต่สงวนสำหรับเขียนบทความสักชิ้น จึงขอแจงคุณแต่เพียงนี้

อ้อ...ผมชอบนามแฝงของคุณนะ  ไอ้ปลง  บอกให้รู้และเตือนสติถึงการสังวร  ชอบคำนิยามของคุณยิ่งกว่า 'ปลงซะก่อนที่จะปลดปลง' บอกให้เห็นถึงการสำรวมสติมั่น แต่.....ผมคิดว่า ปลง  ไม่ได้แปลว่า  ยอมแพ้ทุกอย่าง....ใช่ไหม?

Comment #21
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 17.13 ip : 203...251

ผมขออนุญาตต่อประเด็นในแถลงการณ์นะครับ ว่าคิดเห็นอย่างไร

สำหรับประเด็นประเด็นที่แถลงการณ์ของพี่บอกว่า คณะกรรมการไม่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง
ผมคิดว่ามันก็เป็นปัญหาเดียวกันกับการผูกขาดนั่นแหละ

ถึงทีี่ี่สุดหากแต่ละปีเราได้กรรมการที่ไม่มีคุณภาพจริง ๆ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กรรมการเองล้วน ๆ (อย่างที่พี่พยายามพุ่งปลายหอกเข้าใส่เป็นราย ๆ)
หรือหากพี่พินิจหรือพี่พิเชฐจะไม่มีคุณภาพ ไม่ได้รับการยอมรับจริงตามแถลงการณ์
มันก้ไม่ได้เป็นความผิดหรือบกพร่องของกรรมการทั้งสองเพียงลำพัง
พี่ย่อมรู้ว่าเมื่อปัญหา (ทุกข์) ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่ย่อมมีสาเหตุ (สมุทัย)
มาจากไหนก็ต้องไปไล่แก้ตรงนั้น

กรรมการทั้งสองคนคงไม่ได้เสนอตัวเองเข้าไปเป็นกรรมการซีไรต์
แต่เป็นเพราะได้รับการคัดเลือกและมอบหมายจากสมาคมนักเขียนฯ หรือสมาคมภาษาให้เข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าว

ซึ่งถ้าเห็นว่าการได้มาซึ่งกรรมการซีไรต์ด้วยวิธีการที่เป็นมาเช่นนี้ ทำให้ได้กรรมการที่ไม่เก่งจริง เจ๋งจริงตามความรู้สึกพี่
ผมคิดว่าถ้าพี่ออกมาเสนอให้แก้กติกาซีไรต์ตรงจุดนี้
หรือไปเสนอให้สองสมาคมใช้วิธีการสรรหากรรมการใหม่
น่าจะถูกจุดและดูเป็นอารยะกว่าเยอะ
และผมจะเห็นคล้อยตามว่า พี่มีกุศลเจตนาที่ดีต่อรางวัลซีไรต์ หรือต่อวงการวรรณกรรมจริง ๆ

มากกว่าที่พี่จะมุ่งมาแฉกรรมการกันเป็นราย ๆ ว่าพี่พินิจ "ด้อยคุณภาพ" อย่างไร ๆ

ซึ่งผมเห็นว่าคนที่รักใคร่ รู้จักและนับถือกัน(เท่าที่ผมสัมผัสนะครับ)ไม่พึงกระทำกันเช่นนี้ ผมในฐานะที่รู้จักพี่ ๆ ทั้งสองฝ่ายผมเจ็บปวดนะครับ และคาดไม่ถึง

แท้ที่จริงเรื่องที่พี่ทั้งสองเข้าไปเป็นกรรมการและตัดสินออกมาเช่นนี้ แทบไม่เกี่ยวกับประเด็นจริยธรรม คุณธรรมอะไรเลย ด้วยเหตุที่ผมว่ามาข้างต้น

แต่เนื้อความและนัยแฝงในแถลงการณ์นั้น ผมว่าค่อนข้างเกี่ยวอย่างสำคัญ การที่คนเคยรักกันรู้จักกันนับถือเป็นน้องพี่กันมาทำร้ายกันด้วยเหตุผลที่อ่อน
แต่ได้อ้างสิ่งที่ใหญ่และมีน้ำหนักมากคือ เรื่องความถูกต้องชอบธรรม การรักษารางวัลซีไรต์
การปกปักรักษาวงการวรรณกรรม วงการเรียนรู้ด้านปัญญาของประเทศ ฯลฯ มาเป็นฉากบัง
(ต้องขออภัยที่ผม "เลือก" เชื่อเช่นนี้ มันคงเช่นเดียวกับที่พี่เลือกเชื่อแล้วว่ากรรมการบางรายอคติ อยุติธรรม กับพี่ ๆ กับผู้ส่งงานเข้าประกวดคนอื่น ๆ)
ทั้งหมดนี่คือความเศร้าใจของผม...


หรือการพลีชีพ พลีชื่อพี่ ๆ เพื่อน ๆ สักคนสองคน เพื่อความวัฒนาสถาพรของ "รางวัลซีไรต์" จะเป็นเรื่องที่คุ้มค่าแล้ว พี่ย่อมรู้ใช่ไหมครับว่า "รางวัลซีไรต์" ไม่ใช่ "ทั้งหมด" ของ "วรรณกรรม"

Comment #22
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 17.14 ip : 203...251

และรางวัลซีไรต์ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต

Comment #23
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 17.20 ip : 203...251

สาเหตุหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ดังกล่าว เพราะมันมีนัยแฝงที่มุ่งทำลายทำร้ายกรรมการบางราย (มากเกินไป) โดยอาจมาจาก "อารมณ์" เคียดแค้นชิงชังเป็นส่วนตัวหรือเป็นส่วนรวม (ผมไม่รู)

เห็นได้จากข้อมูลที่พูดถึงพี่พินิจ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนอย่างมาก
เหมือนเร่งร้อนจนกระทั่งละเลยการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง ยิ่งเป็นข้อมูลที่มุ่งดิสเครดิตบุคคลอื่น ผมว่าไม่ว่าใครก็ควรตระหนักให้มาก เพราะนี่เป็นเรื่องของ "ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์" ที่ไม่ควรด่วนสรุปเอาโดยอารมณ์อคติอย่างใดอย่างหนึ่ง

ในแถลงการณ์ระบุว่า "พินิจ นิลรัตน์...ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการรางวัลซีไรต์มาหลายสมัย ตัดสินผลงานทุกประเภท ทั้งกวีนิพนธ์ เรื่องสั้น นวนิยาย..."

ข้อเท็จจริงคือพี่พินิจเพิ่งเป็นกรรมการเมื่อปีที่แล้วนี่เอง และครั้งนี้คือครั้งที่ 2 (อะไรทำให้พี่ ๆ ละเลยข้อเท็จจริงไปได้ขนาดนี้)

ประการต่อมาแถลงการณ์ระบุว่า "พินิจ นิลรัตน์ เป็นกรรมการสมาคมนักเขียนฯ แต่ไม่เคยมีงานเขียนใด ๆ ที่ได้รับการยอมรับ
นอกจากเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ลงในคอลัมน์ซุบซิบวรรณกรรมของหนังสือพิมพ์รายวันเท่านั้น แต่กลับได้รับการแต่งตั้ง..."

ซึ่งข้อความดังกล่าวผมถือว่าเป็นการเลือกใช้ข้อมูลเพื่อดิสเครดิตตัวบุคคลเป็นการเฉพาะ
ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามคนร่างแถลงการณ์ คงลืมไปว่าครั้งหนึ่ง บทกวี "กูคือคอลัมนิสต์" ของ พินิจ นิลรัตน์ (ในนาม นิด ระโนด)
เคยได้รับยกย่องจากสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย (แต่เอาเถอะมันอาจจะค่าน้อยไม่เพียงพอในการสะท้อนการได้รับความยอมรับในทัศนะของพี่)

นอกจากเป็นคอลัมนิสต์แล้ว ครั้งหนึ่ง(เมื่อไม่นานนี้เอง-พี่คงยังไม่ลืม) พี่พินิจเคยเป็นบรรณาธิการคัดสรรเรื่องสั้นและบทกวี ที่นสพ.ฐานสัปดาหวิจารณ์ และ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ (ชาวกรุง) อะไรเล่าทำให้พี่ ๆ ลืมรายละเอียดที่สำคัญเช่นนี้

พี่พินิจเคยเป็นบรรณาธิการ และเป็นอยู่หลายปี พี่อาจกล่าวอ้างได้ต่อว่า ก็ "เป็นบรรณาธิการที่ไม่เหมาะสม ไม่มีคุณภาพ" แต่ผมก็เห็นพี่พินิจคัดงานที่มีคุณภาพของพี่วรภ ของพี่กานติ และคนอื่น ๆ ลงตีพิมพ์ให้ผมและประชาคมวรรรกรรมได้เสพอยู่เสมอ ๆ

โกฮงเทรนเนอร์ยอดแชมป์โลกอย่างเขาทราย เขาก็ไม่เคยชกมวย กรรมการให้คะแนนนักมวยไม่น้อยก็ไม่เคยชกมวย

ประเด็นคือความสามารถในการจำแนกแยกแยะได้ต่างหากว่าออกหมัดอย่างใดจะเข้าเป้า และเข้าตากรรมการ

เช่นเดียวกัน ผมคิดว่าคุณสมบัติของกรรมการซีไรต์คือความสามารถในการจำแนก "งานที่ดี" ออกจาก "งานที่ดีน้อยกว่า" หรือกระทั่ง"งานดาด ๆ"

ซึ่งย่อมเลี่ยงไม่พ้นมาตรฐาน รสนิยม และอคติ (ชอบไม่ชอบงานประเภทนั้นๆ) ส่วนตัว

และจากเนื้อความในแถลงการณ์ที่ว่า "แม้ผลงานบางเล่มที่เข้ารอบจะเป็นผลงานที่มีคุณภาพ..." ผมคิดว่าพี่พินิจได้ทำหน้าที่นั้นแล้วตามสมควร พี่จะไม่ยอมยกให้เป็นความดีความชอบของพี่พินิจบ้างเลยหรือครับ
หรือจะใจจืดใจดำยกให้เฉพาะกรรมการคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อถึง

Comment #24
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 17.25 ip : 203...251

ผมยังมีประเด็นสุดท้าย เรื่องการเล่นพรรคเล่นพวก
แต่ขอตัวไปจัดการงานบ้านให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

พี่วรภ พี่กานติ หรือวิสุทธิ์อยากจะชี้แจงตอนนี้
หรือหลังจากผมจบประเด็นในแถลงการณ์ เชิญนะครับ

Comment #25
นางสมทรงรักฟัก (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 19.14 ip : 58...174

ปลง อย่าลืมอีกนามปากกาของพินิจนะ  เวลาเขียนบทกวี นั่นคือ  "ฝุ่นฟ้า ธุลีดิน" เห็นๆ กันมาแต่สมัยรุ่นๆ

พี่วรภคะ ไอ้ปลงมาแบบดุเดือด นางสมทรงขอหลบไปก่อนดีกว่า ไม่อยากกินยำตอนนี้

แต่ก็ยังอยากคุยกับพี่นะคะ  ขอติดไว้ก่อน รอฝุ่นมันหายตลบก่อน อิอิ

Comment #26
จร (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 19.31 ip : 202...11

  คุณพี่ปลงที่รัก  ขอแทรกแทนพี่วรภ หน่อยเถอะ เผอิญเป็นคนหนึ่งที่ได้รับแถลงการณ์นี้เช่นกัน

1) ที่ว่า ถึงทีี่ี่สุดหากแต่ละปีเราได้กรรมการที่ไม่มีคุณภาพจริง ๆ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กรรมการเองล้วน ๆ (อย่างที่พี่พยายามพุ่งปลายหอกเข้าใส่เป็นราย ๆ)
หรือหากพี่พินิจหรือพี่พิเชฐจะไม่มีคุณภาพ ไม่ได้รับการยอมรับจริงตามแถลงการณ์
มันก้ไม่ได้เป็นความผิดหรือบกพร่องของกรรมการทั้งสองเพียงลำพัง
พี่ย่อมรู้ว่าเมื่อปัญหา (ทุกข์) ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่ย่อมมีสาเหตุ (สมุทัย)
มาจากไหนก็ต้องไปไล่แก้ตรงนั้น 

    โถ่ พี่  ผมอ่านแถลงการณ์ที่เขาส่งมาทีแรก ก็ตีความออกแล้วว่า การที่เขาจะชี้ว่าต้นไม้นี้ไม่ดี เขาก็ต้องดูที่ผลที่มันผลิตมาอะสิ  พอเค้าชี้ให้เห็นว่า ผลไม้นะมันเน่า และเน่าอย่างไรมีหนอนซอนกี่ตัว เขาก็จะได้ไปปรับปรุงต้นไม้มันซะใหม่ เพื่อ ปีหน้าจะได้ไม่ผลิผลเน่าอีก เป้าไม่ได้อยู่ผลไม้หรอกเพ่  เพราะผลไม้มันเน่าอยู่แล้ว แล้วจะไปเอาอะไรกะมันละ  เป้านะอยู่ที่ต้น มันอยู่ที่ต้น อยู่ที่เหตุนั้นแหละ ลองอ่านแล้ว "ตีความข้อเขียนที่แฝงอยู่ใหม่นะคุณพี่ปลง"

2) ซึ่งข้อความดังกล่าวผมถือว่าเป็นการเลือกใช้ข้อมูลเพื่อดิสเครดิตตัวบุคคลเป็นการเฉพาะ
ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามคนร่างแถลงการณ์ คงลืมไปว่าครั้งหนึ่ง บทกวี "กูคือคอลัมนิสต์" ของ พินิจ นิลรัตน์ (ในนาม นิด ระโนด)
เคยได้รับยกย่องจากสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย
    ....นอกจากเป็นคอลัมนิสต์แล้ว ครั้งหนึ่ง(เมื่อไม่นานนี้เอง-พี่คงยังไม่ลืม) พี่พินิจเคยเป็นบรรณาธิการคัดสรรเรื่องสั้นและบทกวี ที่นสพ.ฐานสัปดาหวิจารณ์ และ หนังสือพิมพ์สยาม   งึมๆ ขอบคุณที่เฉลยคุณสมบัติกรรมการท่านนี้มาให้เสร็จสรรพเลย  ผมว่านะถ้าทำเพียงแค่นี้แล้วได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการระดับอาเชี่ยนเช่นนี้ สยามประเทศนี้คงมีกรรมการระดับนี้เดินชนกันเกลื่อน เมืองแล้วอะ 

3)  กรรมการทั้งสองคนคงไม่ได้เสนอตัวเองเข้าไปเป็นกรรมการซีไรต์
แต่เป็นเพราะได้รับการคัดเลือกและมอบหมายจากสมาคมนักเขียนฯ หรือสมาคมภาษาให้เข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าว
  เออๆ พี่ปลงคับ การไม่ได้เสนอตัวเอง ไม่ใช่ไม่อยากเป็นนี้ครับ    ถ้าไม่อยากเป็นแล้วทำไมไม่ถอนตัวละ อืมม ก็ถ้าไม่ถอนตัวก็ต้องยอมรับการตรวจสอบจากสาธารณะอะครับ

4) โกฮงเทรนเนอร์ยอดแชมป์โลกอย่างเขาทราย เขาก็ไม่เคยชกมวย กรรมการให้คะแนนนักมวยไม่น้อยก็ไม่เคยชกมวย

ประเด็นคือความสามารถในการจำแนกแยกแยะได้ต่างหากว่าออกหมัดอย่างใดจะเข้าเป้า และเข้าตากรรมการ
อ่า  พี่ปลงครับ เค้าไม่ได้บอกว่าให้กรรมการเขียนกวีนิพนธ์นี้ครับ(ถ้ามีก็ดี)  การเป็นกรรมการไม่ต้องเขียนกวีเป็น แต่ให้ เข้าถึง นะครับ การจะรู้ว่าเข้าถึงไม่เข้าถึง ก็ต้องมีงาน วิจารณ์กวีนิพนธ์เผยแพร่เป็นลายลักษณ์ สิครับ  พี่ยกให้ผมดูสักชิ้นสิครับจะขอบคุณยิ่ง

5)  เช่นเดียวกัน ผมคิดว่าคุณสมบัติของกรรมการซีไรต์คือความสามารถในการจำแนก "งานที่ดี" ออกจาก "งานที่ดีน้อยกว่า" หรือกระทั่ง"งานดาด ๆ"ซึ่งย่อมเลี่ยงไม่พ้นมาตรฐาน รสนิยม และอคติ (ชอบไม่ชอบงานประเภทนั้นๆ) ส่วนตัว
อ่า อืมมมม ตอนแรกผมนึกว่าพี่ระดับเซียนวรรณกรรมวิจารณ์อะ  แต่คงลืมจริยธรรมของนักวิจารณ์/นักวิชาการที่ว่า  การเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรม หรือนักวิชาการที่คัดงานวรรณกรรมนั้น ต้องไม่เอาอคติส่วนตัวมาเป็นอันขาด!  เพราะการวิจารณ์ต้องขึ้นอยู่กับตัวงานเท่านั้น  ดังนั้นหากใครวิจารณ์โดยใช้อคติส่วนตัว ก็จงหลุดวงโคจรนักวิชาการไปเสียเถอะครับ อย่านำความรู้สึกชอบไม่ชอบส่วนตัวมาเป็นบาปเลยแก่เยาวชนเลย

6) ผมคิดว่าพี่พินิจได้ทำหน้าที่นั้นแล้วตามสมควร พี่จะไม่ยอมยกให้เป็นความดีความชอบของพี่พินิจบ้างเลยหรือครับ
หรือจะใจจืดใจดำยกให้เฉพาะกรรมการคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อถึง

ผมก็คิดว่าได้ทำหน้าที่แล้วตามควรเช่นกันครับพี่

Comment #27
จร (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 19.39 ip : 202...11

งึมม เกือบลืมอะ.. สองสมัยนี้ไม่ใช่สมัยเดียวนะ และคิดว่าสมัยหน้าก็จะเข้าสมัยที่สามแล้ว ทำเฮตทริก เรียกว่า หลายสมัยได้มั้ยครับพี่ปลง

Comment #28
จร (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 20.01 ip : 202...11

เดี๋ยวผมยังมีประเด็นสุดท้าย เรื่องการเล่นพรรคเล่นพวก
แต่ขอตัวไปจัดการงานบ้านให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

พี่วรภ พี่กานติ หรือวิสุทธิ์อยากจะชี้แจงตอนนี้
หรือหลังจากผมจบประเด็นในแถลงการณ์
เชิญนะครับ

มีประเด็นสุดท้ายอีกเหรอ... งึม ผมไม่ใช่ พี่กานติ  ไม่ใช่ พี่วรภ หรือวิสุทธิ์
ขอร่วมแจมด้วยคนสิ  ได้มั้ยละ รออยู่อะ  แต่เดี๋ยวกิ้กนัดไปเที่ยวกันอะ  รอเรากลับจากผับก่อนได้มั้ยอะแล้วจะมาคุยให้ฟัง เรื่องเล่นพรรคเล่นพวกนี้  โอ๊ยยย ..ใครบ้างไม่มีพวก เนอะ

Comment #29
Posted @11 ส.ค.50 21.07 ip : 125...173

โต้ตอบกันเอาแต่ประเด็นนะครับทุกท่าน

เอาเหตุและผลมาคุยกัน


อย่างที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้น  ว่านี่เป็นประเด็นร้อนและเปราะบาง

ยังไงเสียก็กรุณาอย่าใช้คำเสียดสีเหน็บแนมต่อกันนะครับ


ขอความร่วมมือทั้งผู้เห็นด้วยกับผู้ไม่เห็นด้วยในแถลงการณ์นะครับ

ขอบคุณครับ

Comment #30
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 21.19 ip : 124...209

คุณจร...

ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ผมมุ่งที่จะพูดถึงแถลงการณ์ที่ผมได้รับ
โดยสื่อสารไปถึงพี่กานติ พี่วรภ และวิสุทธิ์ เพื่อนของผม ขออภัยหากดูเหมือนไม่ค่อยให้ความสนใจกับคุณหรือคนอื่น ๆ มากนัก คุณลงทุนร่ายมาซะยาวเป็นขบวนรถไฟสายใต้ เก็บทุกเม็ดเหมือนกันนะ อิอิ

บัดนี้ ผมยังให้น้ำหนักคุณเป็นคนนอกวงอยู่ แต่ไม่ได้รังเกียจเดียจฉันท์ที่จะเข้าร่วมวง
เพราะนี่ถือเป็นพื้นที่เปิด

เพียงแต่สงสัยว่าในเมื่อคุณบอกว่าได้รับแถลงการณ์ด้วยเหมือนกัน
แทนที่คุณจะบอกว่าคุณเห็นด้วยกับแถลงการณ์อย่างไร
คุณเลือกที่จะโต้แย้งทันควันในประเด็นต่าง...แต่ไม่ใช่ปัญหา ผมจะพยายามสนองคุณเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมเพียงตั้งข้อสังเกต...

รอให้ผมจบประเด็นสุดท้ายของแถลงการณ์ก่อนนะ ใจเย็น ๆ

Comment #31
วรภ วรภา (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 22.37 ip : 61...6

ใช่....ใจเย็นๆ นะน้องๆ ทั้งหลาย หมี่เอ๊ยหมี่  ขออำภัยด้วยจริงๆ พี่เจตนาคุยกับน้องไอ้ปลงด้วยความสมานฉันท์ แลกเปลี่ยนมุมมองและวิธีคิดกันด้วยดี  พี่ไม่รู้จะไปที่ไหน เพราะเล่นเน็ตได้แค่นี้จริง  ครั้นจะไปลงบล็อดคนอื่นก็เกรงใจเค้า  ไงๆ หมี่ก็ทนๆ เอาหน่อยเนาะ

น้องๆ ครับ เราแค่เห็นต่างมุมกัน  กับน้องไอ้ปลง แม้พี่จะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่พี่รู้สึกได้ว่าคงเป็นน้องคนหนึ่งที่พี่สนิทสนมด้วย  เพียงแต่บังเอิญว่าน้องเค้าเป็นห่วงพินิจและพิเชฐ เมื่อมีอะไรมากระทบกระทั่งในแง่ที่น้องเค้าข้องใจเค้าก็ถามกลับ  เท่านั้นเอง ทุกท่านครับ  ผมคิดว่านี่เป็นประเด็นสาธารณะ  ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ขอร้องแค่ว่าใจเย็นๆ  ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จา อย่าใช้อารมณ์  เกรงใจหมี่เค้า มาอาศัยบ้านเค้าแล้ว ทำบ้านเค้าวุ่นวาย  เดี๋ยวหมี่เค้าก็อัปเปหิพี่เท่านั้นเอง

Comment #32
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 22.45 ip : 203...251

สำหรับเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวก
ผมคิดว่านี่เป็นประเด็นที่ "ชวนเชื่อ" ได้มากที่สุดประเด็นหนึ่ง
เพราะรูปการณ์ภายนอก "เหมือนจะ" เป็นเช่นนั้น

แต่การระบุว่า "การเป็นกรรมการของบุคคลทั้งสองทำให้งานของสมาชิกกลุ่มหน้ารามด้วยกันเข้ารอบมาถึง 4 เล่ม คิดเป็น 50 % ของทั้งหมด" น่าจะคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงไปเล็กน้อยนะครับ

แถลงการณ์เลือกจะหยิบข้อมูลที่มิสเตอร์คิวซี ระบุว่า กุดจี่ พรชัย แสนยะมูล เป็นหนึ่งในกวีหน้ารามด้วย
อาจเพื่อต้องการเพิ่มน้ำหนักของข้อกล่าวหา  ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นดังนั้น
ซึ่งผมคิดว่าพี่วรภอาจไม่ทราบ แต่ผมเชื่อว่าพี่กานติกับวิสุทธิ์น่าจะรู้ดี...

แต่เอาเถอะไม่ว่าจะเข้า 3 หรือ 4 เล่ม ถึง 50 % หรือไม่ถึง 50 % ประเด็นไม่อยู่ตรงนั้น ประเด็นสำคัญก็คืองานที่เข้ามา แม้ว่าจะเล่มเดียวก็เถอะ
มาจากการเล่นพรรคเล่นพวก "จริง" หรือเปล่า ต่างหาก

ผมคิดว่ามันไม่น่าจะมีการเล่นพรรคเล่นพวกอะไรหรอกครับ คิดกันไปเอง เพราะถ้าเล่นพวกจริง พี่กานติ พี่วรภ วิสุทธิ์ พี่พิทักษ์...ครูไก่ รมณา โรชา ฯลฯ เหล่านี้ก็ต้องพากันเข้ารอบทั้งหมด เพราะถือเป็นพวกของพี่พินิจ พี่พิเชฐ เหมือน ๆ กัน

โดยเฉพาะพี่พิทักษ์กับวิสุทธิ์ก็เคยอยู่หน้าราม เคยเดินตามหลังพี่พินิจมาเหมือนกัน (ว่าไปแล้วพี่พินิจสนิทกับวิสุทธิ์มากกว่าอังคารที่เข้ารอบมาด้วยซ้ำ)

พี่กานติ กับพี่วรภ หรือครูไก่ ก็เคยเวียนมาเวียนไปละแวกหน้าราม เคยมานอนค้างบ้านกรรมการคนโน้นคนนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด... เคยอนุเคราะห์เกื้อกูลกันอยู่นับครั้งไม่ถ้วน
พูดได้ว่าเคยกินข้าวหม้อเดียวกันมาแล้วด้วยซ้ำ วงการกวี โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ มันกว้างมากนักหรือครับ

เรามีสิทธิ์ที่จะไม่นับใครเป็นพวกอีกหรือครับ ? ...

เราพูดถึงกวีตายแล้วกันอยู่ใช่ไหมครับ
เราพูดถึงคนรุ่นใหม่ไม่อ่านบทกวีกันอยู่ใช่ไหมครับ แล้วเราจะหันหน้ากันคนละทาง สร้างดาวกันคนละดวง ช่วงชิงไปสู่สวรรค์กันทำไมล่ะครับ

ผมคิดว่ากลุ่มก้อนต่าง ๆ ทางวรรณกรรมทั้งหมด เรามี เราแยก เราจำแนกเพื่อจำได้หมายรู้ และความจำเป็นเรื่องพื้นที่ แต่ไม่ใช่ไปยึดมั่นถือมั่นเป็นพวกเขาพวกเรา จนกระทั่งเผลอลืมเป้าหมายแท้จริงของการสร้างสรรค์งานศิลปะ หรือเผลอทึกทักวิจารณญาณที่บริสุทธิ์ของกรรมการให้เป็นไปอย่างที่เราคิดว่าน่าจะเป็น...

อย่างไรก็ตามพี่พินิจกับพี่พิเชฐจะเล่นพวก ผลักดัน(ลากถูลู่ถูกัง) งานของกวีหน้ารามเข้ามาท่าไหนอย่างไร ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรดาดเดาเองตามรูปการณ์ แต่กรณีนี้มีพยานบุคคล คือกรรมการที่เหลืออีก 5 ท่าน เป็นผู้ให้ข้อมูลได้

ขอให้สื่อมวลชนลองไปซักไซ้ไล่เลียงกรรมการที่เหลือ หรือใครที่สนิทกับกรรมการที่เหลือ (เห็นไหมไม่พ้นเรื่องพวกอีก)
ลองไปแคะไค้ดูทีเถิดว่าพี่พินิจกับพี่พิเชฐ ทำหน้าที่เอียงกระเท่เร่ไม่ดีไม่งามอย่างไรบ้างในที่ประชุม หรือว่าไม่เลย การสนิทกับกวีบางคนเป็นการส่วนตัว ทำให้กวีคนนั้นเสียโอกาสในการสนับสนุนในที่ประชุมด้วยซ้ำ
เพราะเกร็งและเกรงกับการที่จะถุกมองจากกรรมการคนอื่น ๆ ว่าตัวเองกำลังจะเอา "พวก" เข้ามา

พี่อาจคิดว่าลำบากขนาดนั้น ทำไมถึงต้องเป็น ไหงไม่ลาออก หรือปฏิเสธตั้งแต่แรก ผมเชื่อว่าภายใต้สถานการณ์เหล่านั้นเราแยกแยะได้ เราสามารถทำในสิ่งที่เรานับถือตัวเองได้ (เหมือนที่พี่เลือกออกแถลงการณ์ โดยยืนยันว่ายังนับถือตัวเองได้ ไม่ละอายเพราะถือว่าบริสุทธิ์ใจ โปร่งใสพอ)

เพื่อนกวีบางคนของผม (ซึ่งสนิทมากๆ) และผมนับถือในฝีมือมาตลอด บางครั้งผมยังกล้าบอกเขาเลยว่า ชิ้นนี้ไม่ดี (ว่ะ)

หลักเดียวกัน ถ้าผมต้องไปนั่งเป็นกรรมการ และต้องอ่านบทกวีรวมเล่มของเพื่อนสักเล่ม
ถ้า "ไม่ดี" ผมก็ต้องบอกว่า "ไม่ค่อยดี" ถ้าอ่านแล้วดี แล้วรู้สึกชอบ ผมก็ต้องรำพึงว่า เออ...เล่มนี้ชอบว่ะ ดีกว่าเล่มที่แล้วของมันตั้งเยอะ
และถ้าจะต้องไปพูดกับเพื่อนคนนั้นต่อ หากเขารู้ว่าผมเป็นกรรมการซีไรต์(แต่ส่วนใหญ่จะไม่รู้จนวันประกาศผล) ผมจะบอกเขาว่า แต่งานเอ็งจะดีพอกับการเข้ารอบหรือไม่ มันต้องประเมินเชิงเปรียบเทียบกับเล่มอื่น ๆ ด้วยว่ะ และก็จะต้องฟังทัศนะหรือรสนิยมกรรมการคนอื่น ๆ ด้วย กูไม่ได้ตัดสินคนเดียวนะโว้ย... มึงอย่าคาดหวังว่ากูจะช่วยอะไรมึงได้ กูต้องเป็นกลาง ๆ เวลาเขาพูดถึงมึงกูแทบจะงดออกเสียง แต่ยังไงกูก็ไม่แสดงสปิริตลาออก เพราะคนที่เสียประโยชน์คือมึง (ที่เป็นเพื่อนกู) ไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้ากูลาออกกรรมการอีก 4 คนก็ต้องลาออกด้วยดิวะ เพราะคนส่งมาเกือบ 100 คน จะไม่ให้กรรมการแต่ละคนรู้จักกวีสักคนสองคนบ้างเลยรึ เอ็งว่าวงการนี้มันกว้างนักหรือวะ...

ทำนองนี้...

(ที่ร่ายมาทั้งหมดผมคิดถึงอีกทางที่เป็นไปได้ และไม่ได้ส่อว่าผมโยนหินถามทางจะเป็นกรรมการซีไรต์กับเขาด้วยนะครับ

ผมยังไม่มีหนังสือสักเล่ม ไม่เคยมีบทวิจารณ์กวีนิพนธ์เผยแพร่เลยสักชิ้น และไม่เคยคิดจะเป็น...ผมแค่ยกตัวอย่างให้พี่ฟังเท่านั้น)


ผมคิดว่านี่คือแนวทางที่แม้จะเป็นพวก แต่ไม่เล่นพรรคเล่นพวก และเป็นไปได้ในโลกแห่งความเป็นจริง

เพียงแต่อาจตรงข้ามกับความคิดความเชื่อของพวกพี่ ๆ ที่มีต่อกรรมการซีไรต์ปีนี้เท่านั้น

ทั้งหมดนี้เป็นอันจบความคิดความรู้สึกที่ผมมีต่อแถลงการณ์ดังกล่าว และเป็นสิ่งที่ผมต้องการบอกให้พี่วรภ พี่กานติและวิสุทธิ์ทราบ ซึ่งมันไม่ได้เป็นเพียงจดหมายน้อยที่เขียนด้วยลายมือผมตามที่ตั้งใจเสียแล้ว


ถึงตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องของหมู่เราแค่ไม่กี่คนแล้วล่ะครับ แต่เป็นเรื่องของประชาคมวรรณกรรมทั้งประเทศกำลังจับตามอง

ส่วนเขาจะพิจารณาความเห็นของพี่ ความเห็นของผม หรือความเห็นของคนอื่น ๆประการใด
ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณาตามมาตรฐาน รสนิยม และอคติของตน ๆ

ท้ายนี้
หากที่ผ่านมาผมพูดตรง พูดแรงหรือหนักไปบ้าง ผมต้องขอโทษ
และขอพี่วรภ พี่กานติ และวิสุทธิ์ ได้โปรดให้อภัยน้อง ๆ และเพื่อนอย่างผม
ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันคงอยู่ในประเด็นตามแถลงการณ์
และพี่คงเปิดกว้างที่จะให้ผมเห็นต่างออกไป

โดยที่ยังคงนับถือเป็นพี่น้องร่วมวงวรรณได้อยู่


ด้วยรักและนับถือ

ไอ้ปลง

Comment #33
ไอ้ปลง (Not Member)
Posted @12 ส.ค.50 0.04 ip : 203...251

สำหรับคุณจร

จากท่าทีการแสดงความเห็นของคุณใน ความเห็นที่ 27 ผมคิดว่าจะเป็นปัญหาพอสมควรในการแลกเปลี่ยนความคิดระยะยาว

คุณบอกว่า

"สองสมัยนี้ไม่ใช่สมัยเดียวนะ และคิดว่าสมัยหน้าก็จะเข้าสมัยที่สามแล้ว ทำเฮตทริก เรียกว่า หลายสมัยได้มั้ยครับพี่ปลง"
นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้ให้น้ำหนักกับการใช้ข้อมูลที่ผิด การกล่าวหาบุคคลอื่นด้วยข้อมูลที่ผิด ที่ผมพยายามแสดงให้เห็น แต่คุณพยายามละเลยประเด็นเหล่านั้น แล้วมาคาดเดาเอาเองว่า มี 2 แล้วก็ต้องมี 3 (แน่ๆ) ซึ่งแสดงว่า "หลายครั้ง" (เพราะมันมากกว่า 2 แล้วนะ) ซึ่งผมคงอนุญาตให้คุณนับได้ถึง 100 ถึง 1000 ถ้าคุณไม่เหนื่อย แต่ผมออกจะเหนื่อยกับคุณพอสมควร

นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นอภิมหาเศรษฐี (ไม่มีวันจน) ถกเถียงด้วยลำบาก และไม่สนุกเลย

ไหน ๆ เล่นกับการคาดเดาแล้ว ผมอยากให้คุณคิดต่อจาการคาดเดาของผมสักหน่อยว่า หากผลการตัดสินปีนี้ งานของพี่กานติ และพี่วรภ เข้ารอบ แทนที่งานกุดจี่และอุเทน หรืองานศิริวรเล่มใดเล่มหนึ่ง

คุณจรคิดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป... จะออกมารูปนี้หรือไม่...หรือจะออกรูปอื่น

ถ้าหากคุณยอมตอบคำถามข้อนี้ ผมจะยอมแลกเปลี่ยนกับคุณสักพัก โดยเฉพาะการที่คุณแย้งประเด็นต่าง ๆ ของผมไว้ในความเห็นที่ 26

Comment #34
Posted @12 ส.ค.50 0.30 ip : 203...196

แด๋นเข้ามา  แด๋นรู้สึกว่า  งง ครับ คือเท่าที่รู้มา ปีนี้ซีไรต์น่ะ ค่อนข้างมีเสียงท้วงเยอะเหมือนกัน แต่แด๋นคงจะพูด จะคิด จะแสดงความคิดเห็นอะไรๆ ได้ไม่มากหรอกครับ เอาเป็นว่า  แด๋นจะรอดูคำตอบของปัญหานี้นะครับ ว่าสุดท้ายผลที่ออกมาคืออะไรกันแน่ แต่ตอนนี้ แด๋นก็ยังไม่เข้าใจหรอกครับว่า  จะมีซีไรต์ประดับปกหนังสือเพื่อสื่อนัยยะอะไร - คุณค่าของงาน หรือ สัญลักษณ์ของความนิยม

Comment #35
จร (Not Member)
Posted @12 ส.ค.50 10.51 ip : 202...11

สวัสดียามเช้าคุณไอ้พี่ปลง (ตกลงจะเรียก คุณ หรือ พี หรือไอ้กันแน่เนี๊ย มึน )

1) โดยเฉพาะพี่พิทักษ์กับวิสุทธิ์ก็เคยอยู่หน้าราม เคยเดินตามหลังพี่พินิจมาเหมือนกัน (ว่าไปแล้วพี่พินิจสนิทกับวิสุทธิ์มากกว่าอังคารที่เข้ารอบมาด้วยซ้ำ)
------  อืมมม เพิ่งรู้วันนี้เองว่า กรรมการบางคน เคย เดินนำ แล้วให้กวี เดินตาม นี้เอง---
ได้ข่าวว่าวิสุทธิ์กลับมาอยู่บ้านนานแล้วนิ หลังๆนี้ คงไม่ได้ไป เดินตาม แล้วอะจิ

2) ลองไปแคะไค้ดูทีเถิดว่าพี่พินิจกับพี่พิเชฐ ทำหน้าที่เอียงกระเท่เร่ไม่ดีไม่งามอย่างไรบ้างในที่ประชุม หรือว่าไม่เลย การสนิทกับกวีบางคนเป็นการส่วนตัว ทำให้กวีคนนั้นเสียโอกาสในการสนับสนุนในที่ประชุมด้วยซ้ำ
เพราะเกร็งและเกรงกับการที่จะถุกมองจากกรรมการคนอื่น ๆ ว่าตัวเองกำลังจะเอา "พวก" เข้ามา
---- โถ่ พี่ เค้า ทั้งผลักทั้งดัน ขนาดนั้นคนที่เกร็งอะ เป็นกรรมการท่านอื่นนะขอรับ เดียงสาหน่อยนะพี่เรา---

3) [u]หลักเดียวกัน ถ้าผมต้องไปนั่งเป็นกรรมการ และต้องอ่านบทกวีรวมเล่มของเพื่อนสักเล่ม
ถ้า "ไม่ดี" ผมก็ต้องบอกว่า "ไม่ค่อยดี" ถ้าอ่านแล้วดี แล้วรู้สึกชอบ ผมก็ต้องรำพึงว่า เออ...เล่มนี้ชอบว่ะ ดีกว่าเล่มที่แล้วของมันตั้งเยอะ 
  --- ดีแล้วละที่พี่ปลงของเราไม่เป็นกรรมการ เพราะพี่เล่นเอาความ "ชอบ" ไม่ชอบ" เข้ามาตัดสินหนังสือ

4) และถ้าจะต้องไปพูดกับเพื่อนคนนั้นต่อ หากเขารู้ว่าผมเป็นกรรมการซีไรต์(แต่ส่วนใหญ่จะไม่รู้จนวันประกาศผล) ผมจะบอกเขาว่า แต่งานเอ็งจะดีพอกับการเข้ารอบหรือไม่ มันต้องประเมินเชิงเปรียบเทียบกับเล่มอื่น ๆ ด้วยว่ะ และก็จะต้องฟังทัศนะหรือรสนิยมกรรมการคนอื่น ๆ ด้วย กูไม่ได้ตัดสินคนเดียวนะโว้ย...มึงอย่าคาดหวังว่ากูจะช่วยอะไรมึงได้ กูต้องเป็นกลาง ๆ เวลาเขาพูดถึงมึงกูแทบจะงดออกเสียง แต่ยังไงกูก็ไม่แสดงสปิริตลาออก เพราะคนที่เสียประโยชน์คือมึง (ที่เป็นเพื่อนกู) ไม่ใช่ใครที่ไหน[/u]

--ย้ำ "เพราะคนที่เสียประโยชน์คือมึง (ที่เป็นเพื่อนกู) ไม่ใช่ใครที่ไหน"    โถ่ พี่ปลง ก็เล่นพวกเป็นด้วย    กรรมการที่ยุติธรรมเค้าไม่นับเพื่อนกับใครหรอกครับตอนตัดสิน  พอตัดสินเสร็จจึงค้อยมาเป็นเพื่อนกันอีกที  ..โถ่ พระเจ้าช่วย กล้วยทอด

5) ผมยังไม่มีหนังสือสักเล่ม ไม่เคยมีบทวิจารณ์กวีนิพนธ์เผยแพร่เลยสักชิ้น และไม่เคยคิดจะเป็น...ผมแค่ยกตัวอย่างให้พี่ฟังเท่านั้น) ---- เฮอๆ ตอนแรกผมเกร็งแทบแย่ นึกว่ากำลังคุยกับ อ.เจตนา นาควัชระ

Comment #36
จร (Not Member)
Posted @12 ส.ค.50 11.03 ip : 202...11

6) แต่คุณพยายามละเลยประเด็นเหล่านั้น แล้วมาคาดเดาเอาเองว่า มี 2 แล้วก็ต้องมี 3 (แน่ๆ) ซึ่งแสดงว่า "หลายครั้ง" (เพราะมันมากกว่า 2 แล้วนะ) ---- ไอ้พี่ปลงที่รัก  คนทำแฮตทริกมีเยอะไปครับ คืนนี้ลุ้นแมนยูนะ อาจมีแฮตทริกอีก    คนอะไร รู้ลึกเรื่องนิยายปีที่แล้ว ปีนี้ก็ยังมาเชี่ยวชาญตัดสินกวีนิพนธ์อีก เฮอๆ  คนเขียนเรื่องสั้นปีหน้าเตรียมตัว  งึมๆ---

7)  ไหน ๆ เล่นกับการคาดเดาแล้ว ผมอยากให้คุณคิดต่อจาการคาดเดาของผมสักหน่อยว่า หากผลการตัดสินปีนี้ งานของพี่กานติ และพี่วรภ เข้ารอบ แทนที่งานกุดจี่และอุเทน หรืองานศิริวรเล่มใดเล่มหนึ่ง คุณจรคิดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป... จะออกมารูปนี้หรือไม่...หรือจะออกรูปอื่น

----จะไปรู้เรอะพี่  บางทีพระเจ้าจอร์จอาจจะรู้ก็ได้ .ไปถามทั่นจิ ผมม๊ะรู้จริงๆ  จะไปคาดเดาทำไมกับสิ่งที่ไม่เกิด เสียสมอง--

8)  ถ้าหากคุณยอมตอบคำถามข้อนี้ ผมจะยอมแลกเปลี่ยนกับคุณสักพัก โดยเฉพาะการที่คุณแย้งประเด็นต่าง ๆ ของผมไว้ในความเห็นที่ 26

---  เป็นพระคุณอย่างสูงที่ พี่ไอ้ปลง (เรียกไปเรียกมา ชักงง ไอ้  กะพี่ นี้ประสมกันได้มั้ยอะ) จะลดตัวลงมาคุยกะผม... แต่ก่อนจะตอบผมพี่ช่วยกลับไปพิจารณษ คห. 26 ของผมก่อนนะครับ.... อรุณสวัส ครับ ไอ้คุณพี่ปลง

Comment #37
ไอ้ปรว (Not Member)
Posted @12 ส.ค.50 11.29 ip : 203...251

ไอ้ปลงครับผม ทำไมลดตัวไปคุยกับเด็กทารก(ข้างบน) ที่โต้แย้งอ้อแอ้อ้อแอ้แบบนั้นเล่า คุณโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ออกมาจากกลุ่มเด็กๆเหล่านั้นเสียเถอะ เสียสมองเปลืองปัญญา กลับมาอ่านThe Postmodern Condition: A Report on Knowledge ของ
Jean-Francois Lyotard กันดีกว่า

Comment #38
ไอ้เปรว (Not Member)
Posted @12 ส.ค.50 11.34 ip : 203...251

อ้อ
ต้องบอกว่ามาทบทวนหนังสือของ Lyotard กันใหม่ดีกว่า ลงชื่อ ไอ้เปรวนะไม่ใช่ไอ้ปรว

Comment #39
คนกลาง (Not Member)
Posted @12 ส.ค.50 12.25 ip : 203...11

9d] คนกลางกำลังพิจารณาอยู่ว่า  คุณได้ปลงทำหน้าที่ทนายแก้ต่างให้กับบริษัทกวีหน้าราม  ทุกประเด็นทุกประการ  สมเป็นนิติกรที่ดี  มีอนาคต       คุณวรภ พยายามชี้แจงถึงความเชื่อ  เหตุผล  และการคาดคะเนของตน  รวมทั้งประจักษ์พยานที่มีอยู่ในมือ       คุณจร  คือ ตัวป่วนที่ทำหน้าที่ตัวป่วนได้ดี  สมหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย       คือยืนอยู่คนละจุด  เห็นกันคนละอย่าง  ทนายหนห้าหออย่างคุรไอ้ปลงคงยากจะมองทะลุไปในอีกมิติหนึ่ง  ก็มิติที่คุณวรภมองเห็น       เดินกันคนะลทาง  สร้างดาวกันคนละดวงเถิดครับ  กระพ้ม

Comment #40
Posted @12 ส.ค.50 16.14 ip : 125...199

คุณจรครับ-

ผมได้ขอร้องแล้วว่ากรุณาอย่าใช้ถ้อยคำเสียดสีเหน็บแนม

กรุณประพฤติปฏิบัติตามคำขอร้องของผมได้ไหม?


ผมได้บอกแล้วว่าขอให้แสดงความเห็นกันด้วยเหตุและผล เพราะมันเป็นประเด็นร้อนและเปราะบาง


ถ้าทำไม่ได้ กรุณาอยู่นิ่งๆข้างนอกนะครับ

รวมไปถึงคนอื่นด้วย ถ้าคิดจะป่วนกระทู้นี้ กรุณาคิดให้หนัก คิดให้ดี

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 24 user(s)

User count is 2440269 person(s) and 10242211 hit(s) since 26 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).