บะหมี่ก้อนสุดท้าย
บะหมี่ก้อนสุดท้าย
๑).
เหลือบะหมี่ก้อนสุดท้าย
ในร้านขายหมี่เอร็ดเป็ดอร่อย
เที่ยงวันที่ถนนมีฝนปรอย
ยางมะตอยกรุ่นอายเริ่มคายร้อน
เป็นบะหมี่ที่สาวงามโต๊ะสามสั่ง
เธอผู้นั่งดูถนนตากฝนอ่อน
ภวังค์เธอเหม่อโพ้นเมฆฝนฟ้อน
ที่คึกคึกเป็นฟ่อนอยู่ค่อนฟ้า
อีกมินานเมฆดำคงกระหน่ำหนัก
อีกสักพักฟ้าแลบคงแปลบกล้า
แหละเพียงชั่วถอนใจทอดสายตา
ฝนก็บ้าฟ้าก็คลั่งหลั่งทะลัก
เด็กน้อยกอดอกเจ้าเดินเข้าร้าน
หนาวสะท้านฟันกระทบกุกกักกุกกัก
ก่อนจะเอ่ยเผยคำล่ำละลัก
ว่าหมี่เป็ดไม่ผักไม่ชูรส
๒).
มืดเมฆดำงำโลกฝนโบกสาย
สาดซัดป้ายร้านค้าจนพร่าหยด
เด็กน้อยที่หมายซุปจะได้ซด
ก็รู้ว่าบะหมี่หมดเจ้าอดกิน
หนาวนักหนอโลกฝนตกกระหน่ำ
อุ่นแม้น้ำซุปซดก็อดสิ้น
ฉ่ำนักหนอน้ำลายที่พรายลิ้น
ขมไส้จนแทบสิ้นซึ่งวิญญาณ
นอกร้านฝนก็กล้าฟ้าก็กร้าว
เกินจะก้าวเลาะลัดวิ่งตัดผ่าน
ฟ้าแวบวาบลากเส้นอยู่เป็นนาน
กระเพาะอาหารของเจ้าก็เฝ้าครวญ
๓).
โต๊ะสาม
เธอผู้งามก็ผลิแก้มและแย้มสรวล
หอมซุปตุ๋นกรุ่นอบตรลบอวล
หอมนี้ควรเอื้อไอหอมให้นาน
จึงบะหมี่ก้อนสุดท้ายที่ในตู้
ณ ฤดูฝนสายโปรยปรายสาน
เธอเอ่ยมอบเด็กหนาวที่หนาวสะท้าน
ด้วยรอยยิ้มเบ่งบานปานดอกไม้
เป็นดอกไม้ที่งอกผลิดอกสวย
ท่ามมุ่นมวยเมฆหม่นของฝนใหม่
เธอเท้าคางและยิ้มอย่างอิ่มใจ
อิ่มแม้ไม่ได้ลิ้มหรืออิ่มท้อง
๔).
หอมบะหมี่เป็ดตุ๋นถ้วยสุดท้าย
เที่ยงที่สายถนนมีฝนฟ่อง
ฟ้ายังคงก้องกึกคึกคะนอง
บะหมี่ของเด็กน้อยอร่อยจัง
มืดเมฆดำงำโลกฝนโชกถนน
แม้หนาวเหน็บเหลือล้นเมื่อฝนหลั่ง
ต่อฟ้าฟาดโครมครามคำรามดัง
คนก็ยังงดงามด้วยความรัก
อาทิตย์ข่าวพิเศษ