น้ำชาโต๊ะหน้าบ้าน
น้ำชาโต๊ะหน้าบ้าน
๑).
เชิญเถิด-ผู้หลงทางอยู่กลางเมือง
โปรดปลดเปลื้องสัมภาระออกจากบ่า
หลบแดดร้อนแรงร้ายสู่ชายคา
จิบน้ำชาโต๊ะหน้าบ้านเรือนชานนี้
ชาดีมีไว้เพื่อรับรอง
ผู้เศร้าหมองหม่นทุกข์จากทุกที่
และฟังเถิดเสียงรถยนต์ต่างดนตรี
ยามสุรีย์แผดสายเมื่อบ่ายคล้อย
ท่านมาจากแหล่งใด-ไม่ต้องการทราบ
แม้กรรมสาปบาปนำท่านตามต้อย
เหงื่อชโลมโซมเนื้อเป็นเกลือพร้อย
ก็รู้รอยเหนื่อยยากท่านบากมา
๒).
สหาย-ถนนสายนี้ยังทอดไกล
ลมอ้าวจะผ่าวไอเกรียมใบหน้า
ทุกสิ่งท่านเป็นมนุษย์-ใช่ตุ๊กตา
เนื้อหนังมังสา-ลมหายใจ
ท่านเลวดีอย่างไรหรือใครรู้?
ได้มองหน้าเพียงครู่หรือรู้ได้
ท่านอาจเลวชั่วช้าเกินกว่าใคร
เช่นที่อาจซื่อใสเหมือนนัยน์ตา
ข้าพเจ้าเป็นคนเมือง-อยู่ในเมือง
กลางตึกเขื่องรับแขกผู้แปลกหน้า
บุคคลผู้ก่อนท่านจะผ่านมา
จิบน้ำชาก่อนท่านแล้วผ่านไป
เขาเหนื่อยกลางแดดเข็ญเหมือนเช่นท่าน
ทั้งร้อนผลาญรานแผดจากแดดไหม้
ดวงตาเขาเศร้าลอย-คล้อยไกล
สู่ไหน?-ข้าพเจ้าย่อมไม่รู้
๓).
ข้าพเจ้ามีหน้าที่รินน้ำชา
และเติมน้ำต้มกาคอยท่าอยู่
เบื้องหลังมีอีกมากที่กรากกรู
เขาเหล่าผู้แสวงหาชะตากรรม
นั่งสิ-จิบน้ำชาโต๊ะหน้าบ้าน
ขยับป้านลายดอก-หงายจอกคว่ำ
จิบชาหอมเลิศรสให้หมดคำ
หวังท่านปลื้มดื่มด่ำรสน้ำชา
ฟังสิ-เสียงรถยนต์ต่างดนตรี
ยามสุรีย์แผดสายเมื่อบ่ายกล้า
เมืองก็ย่อมเป็นเมือง-ธรรมดา
แสวงหาสิ่งใดจากในเมือง?
บนถนนสายยาวท่านก้าวเดิน
เหนื่อยเหลือเกินอกครึ้มจนซึมเซื่อง
ระยับแดดแผดพรายระคายเคือง
ระยับเรืองเม็ดเหงื่อผุดเนื้อมัน
ท่านจะเป็นคนเลวหรือคนดี
ผุดมาจากอเวจีหรือจุติจากสวรรค์
แต่เบื้องหน้าข้าพเจ้า-ค่าเท่ากัน
มนุษย์ผู้มีฝันอันงามงด
ชาดีข้าพเจ้ามีไว้รับรอง
แม้จะพร่องขอดไป-ก็ใช่หมด
พักก่อน-หากความฝันท่านรันทด
เพื่อเติมรสความฝันจากป้านชา
๔).
เชิญเถิด-ผู้หลงทางอยู่กลางเมือง
พักเท้าอันเปล่าเปลือง-นั่งเบื้องหน้า
แหละเมื่อความว้าเหว่ได้เวลา
สู่ชะตากรรมท่าน-มิค้านเลย
รางวัลชมเชยจากสมาคมหนังสือและภาษา ปีใดไม่ได้บันทึกช่วยจำไว้
ดอกเบี้ยการเมือง