หลับตาเถิดเธอ...
หลับตาเถิดเธอ
๑).
เธอดูสิ-โลกปลายฤดูร้อน
ฟ้าบางตอนเดือดพลุ่งช่วงรุ่งสาง
แดงนั้นสาดแสงข้นลงหนทาง
แต่ตีนฟ้าเบื้องล่างรางรางมา
แผดเผาหยาดน้ำค้างระเหยเหิด
ไล่เปิดฉากโลกทั้งอกหล้า
จึงภาพหนึ่งซากซ้ำก็ตำตา
หนึ่งศพอนาถาที่ท่ารถ
๒).
เธอดูสิ-โลกต้นฤดูฝน
เค้าหม่นทะมึนมาได้ปรากฏ
ในเงื้อมงำง้ำนั้นมันหลั่นลด
กางบดบังปิดจนมิดฟ้า
ให้มืดมนอนธกาลอยู่นานวัน
โลกมีแต่หวาดหวั่นขวัญผวา
จึงนามหนึ่งนามธรรมดา
ก็โพลงตาฟุบดินเมื่อสิ้นนาม
๓).
เธอดูสิ-โลกรุ่งเหมือนมุงมืด
แดงพืดเป็นเถือกอยู่เทือกท่าม
ศพนั้นดวงตาพยายาม
บอกความบางอย่างแห่งลางร้าย
จึงเมฆรูปร่างอันพิลึก
แน่นปึกดึกดำทั้งคว่ำหงาย
เสียดขบแล้วลากเส้นเป็นประกาย
ก็ผ่าเปรี้ยงวอดวายด้วยไฟฟ้า
๔).
เธอดูสิ-หนึ่งศพยามอรุณ
รอยกลิ้งหลุนนั้นเห็นมิเป็นท่า
ดาวสุดท้ายหรี่หรุบแล้ววูบลา
รับเช้าด้วยทาสีเลือดแดง
แดงนั้นสาดแสงคาวทั่วด้าวถิ่น
แผ่นดินเหม็นคาวทั่วด้าวแหล่ง
วันนี้ดวงตาราคาแพง
นอนโพลงแอ้งแม้งอยู่แทบเท้า
๕).
หลับตาเถิด-คนตายเขามองมา
หากเธอมิกล้าสู้ตาเขา
ลางร้ายบางลางอันบางเบา
คงตั้งเค้าแดงเถือกไปอีกนาน
๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗
แด่ เจริญ วัดอักษร นักสู้ผู้พลีแล้วแห่งบ่อนอก ประจวบคีรีขันธ์
Relate topics


