Contents
ข้าแบมืออันเปลือยเปล่านั่นคือภาพเมืองร้างกับซุ้มประตูมหึมากำแพงฉาบปูนที่ลอกล่อนเหลือแต่อิฐเปลือยเปล่าหนาวเหน็บในสายลมกับหุ่นไล่กาในอาภรณ์งามสง่าและซากเนื้อหนังติดกระดูกของหญิงชรานางหนึ่งนั่งคุดคู้ในชุดไว้ทุกข์สีดำวงหน้าใต้ผ้าคลุมผมรอยยิ้มของนางเจือไว้ด้วยความเมตตาซึ่งผุดพรายจากขุมนร
ถ้าใครมองดวงจันทร์เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาจะเห็นดาวดวงนึงสุกสว่างอยู่ใกล้ ๆเพิ่งรู้ว่านั่นคือดาวพฤหัส ที่ช่วงนี้โคจรเข้าใกล้กับดวงจันทร์ แต่คืนนี้คงจะห่างออกไปหน่อยแล้วล่ะไม่มีฝืมือถ่ายรูป เลยเอาดวงจันทร์เหนือฟ้านครอลัมภางค์มาอวดไม่ได้แต่ฟ้าไม่มีขอบกั้น ดวงจันทร์ก็คือดวงเดีย
คิดถึงมาก จนถึงมากที่สุด
บางที .. การต้องทำใจให้ยอมรับว่าตัวเองแก่แล้ว ก็เป็นความทรมานใจชนิดหนึ่งภาพของการใช้ชีวิตโลดโผนโจนทะยานแบกเป้เดินป่า ห้อยแขวนตัวอยู่บนหน้าผาสูงชันดูเหมือนจะเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันวานมันช่างเด่นชัดในมโนสำนึกกระไรปานนั้น ...มันช่างเจิดจ้าในความทรงจำ .. กระไรปานนั้นความทรงจำที่เหมือนภาพถ่า
เสี้ยวเศร้า1เหม่อมองจันทร์เสี้ยวสีหมองหม่น ดูหม่นหมองเมฆดำค่อยเคลื่อนกลืนกินจันทร์เจ้าดวงดาวดวงเล็กดวงน้อยเกลื่อนฟ้าพาดไปตามทางช้างเผือก2ไฟสีส้มข้างถนนเจิดจ้าร้อนแรงรุ่มร้อนยืนเรียงต้นตรงสี่แยกกลบแสงจันทร์เจ้าเจ้าจันทร์
ภรรยาของผม กดปุ่มวางหูโทรศัพท์มือถือก่อนจะหันหน้ามาบอกผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ" พี่ตุ๊ย ... เสียแล้ว "พี่สาวท่านนี้ รู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวผมเป็นอย่างดีความที่คุณแม่ของพี่ตุ๊ย เป็นผู้ที่ช่วยเลี้ยงดูลูกชายของเรามาตั้งแต่ยังเล็ก ถึงแม้จะไม่ใช่ญาติแท้ ๆ แต่ด้วยความผูกพันแบบสังคมชนบท ที่คนบ้
คราวที่ฉันอยู่ชั้นประถม ประมาณนั้น แม้ว่าอายุก็ประมาณนี้แล้ว (ทุกอย่างประมาณ)ยังไม่สามารถลืมไปได้เลยกับเหตุการณ์นั้น ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นซ้ำอีกเลยจนทุกวันนี้ เหมือนเป็นความทรงจำที่หวงแหนจนไม่อยากให้หายไปจากใจวิชาภาษาอังกฤษคาบสุดท้ายของการเรียนในวันนั้น ซิสเตอร์ มารีอา สั่งให้นัก