ความสุขชั่วปริ๊ด!
ความสุขชั่วปริ๊ด!
มืดครึ้มขรึมคลุ้มเข้าคลุมครอง
ฟ้าหมองดินครวญอยู่หวนโหย
พระสยามเทวาธิราชร่ำและพร่ำโอย
เหวยโหวยอกเมืองก็ระเคืองพลัน
กึ่งพระพุทธกาลมาก็มินานปี
เพียงสี่สิบหกที่ศกผัน
ก็ล้วนแล้วไพร่บ่าวแหละเท่านั้น
อกสั่นขวัญหายแล้วนายเฮย
มันทุกข์ยากปากหมองไปทั่วหน้า
อนิจจาทุกข์ยิ่งเสียจริงเหวย
บาปกรรมปางใดแต่ใดเคย
แม่เวยมันยากลำบากแค้น
อดออมพร้อมเสร็จเม็ดแขม่
ยักแย่ยังชีพขมิบแน่น
กินแกลบกินรำไปตามแกน
เนื้อเหี้ยเนื้อแลนยังอดกิน
ข้าวยากหมากแพงทุกแห่งหน
ตะละคนหน้าซีดเกินดีดดิ้น
กลืนข้าวตะละคำก็ช้ำลิ้น
ฝาดกลิ่นทุกคำกลืนกล้ำคอ
ก็ไทยไพร่ทั้งนั้นแหละนายเวย
แต่ไหนเลยปากหมองต้องร้องขอ
แบกชีวิตอั่งอุกทุกข์ท้อ
จับซอสีสายกล่อมควายฟัง
สุขไปตามประสาคนหน้าซีด
ความสุขชั่วปริ๊ดได้ล้นหลั่ง
ฝ่ามือปูดโปนเอ็นแข็งเป็นตัง
มือยังทำงานได้สบายดี
ความสุขเพียงจิ๊ดเดียวประเดี๋ยวประด๋าว
อยู่ที่มือจะสาวจะเร้าถี่
เร่งมือเถิดคนยากผู้มากมี
ความสุขน้อยนาทีหนอชีวิต
สาวได้สาวเอาเถิดสาวไป
มือใครก็มือใครย่อมไม่ผิด
ต่างคนต่างกรรม-ต่างกำมิด
เพื่อความสุขชั่วปริ๊ด-กระจิ๊ดเดียว
ไทใต้
๕ กุมภ์ ๒๕๔๑