นักประดาน้ำ
นั ก ป ร ะ ด า น้ำ
เธอก็รู้-ฤดูฝน
เวียนวนซ้ำแล้วก็ซ้ำเล่า
สิ้นแล้งสิ้นร้อนได้ผ่อนเพลา
แล้วฝนก็ผ่านเข้าก่อนหนาวมา
เธอก็เห็น-เมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน
ซ้อนซ้อนชั้นชั้นจนหนั่นหนา
ลมเย็นแรงจัดก็พัดพา
แสงแลบแสงผ่าก็วิบวิบ
เห็นก็เห็นรู้กันรู้กันอยู่นี่
ยังหวังหรือฟ้าสีทองคลี่ขลิบ
โน่นน้ำท่วมเนิ่นนับไปลับลิบ
ร้อยสิบพันหมื่นแสนล้านครัว
มันคือความทุกข์ตรมอันขมขื่น
ครอบคลุมพื้นที่ถ้วนทุกส่วนทั่ว
มิใช่เรื่องกลัวหรือไม่กลัว
การเอาหัวหลบฝนให้พ้นฟ้า
แต่เธอต้องจำเป็นไม่เป็นหวัด
เพื่อการคัดหาค้นซึ่งคนกล้า
แข็งแรงสุดเท่าที่เคยมีมา
โผนไปเป็นเหมือนปลา-ประดาน้ำ
เพื่องมหาคนที่มีชีวิต
ภารกิจหนักหน่วงเช้าล่วงค่ำ
ไร้ชื่อจารลงให้ทรงจำ
เงียบเงียบเหมือนดำลงน้ำลึก
เห็นก็เห็นรู้ก็รู้-ฤดูฝน
กว่าผ่านพ้นเมฆมืดเป็นพืดปึก
หมายความว่าราตรีต้องมีพรึก
และดึกนั้นนี้ต้องมีดาว
มันเป็นภารกิจชนิดหนัก
ใจเสาะเปราะบางนักก็อย่าห้าว
เพราะการดำลงไปหลายหลายคราว
นั้นคือการพุ่งหลาวสู่ความตาย
จำไว้-ยอดนักประดาน้ำ
จะดิ่งดำพุ่งหลาวต้องเป้าหมาย
ภารกิจเธอมันอันตราย
ง่ายง่ายเงียบเงียบ-แต่เฉียบพลัน!
....................................
.
ตากฝนหาฟ้าทองอันผ่องพราย
ถ้าเธอเป็นหวัดตาย-ก็อายคน!
๑ พิจิก ๒๕๔๙