เ พื่ อ น รั ก . . .
เพื่อนรัก
เพื่อนรัก-
คืนฝนหนักฟ้ามืดเป็นพืดแผ่น
ย่อมเหน็บร้าวหนาวสิ้นทั้งดินแดน
แห่งล้านแสนดวงเก็จของเม็ดน้ำ
ที่โถมเทลงมาเป็นห่าริน
มืดสิ้นทั้งวันไปยันค่ำ
มันเหน็บหนาวเพียงไรจงให้จำ
มันมืดงำเพียงไรจงให้รู้
ว่าเหน็บหนาวเพียงนี้หนอชีวิต
ทั้งมืดทิศทางเส้นก็เห็นอยู่
เป็นความมืดยืดยาวฝนกราวกรู
กว่าตรู่อุ่นอ้าวของเช้ามา
ภายใต้แรงกดทับอันซับซ้อน
ภาพหลอนหลอกล้ออยู่ต่อหน้า
เราศรัทธาคนละต่างศรัทธา
ตาเราจึงต่อตาจ้องตากัน
กับเสียงกัมปนาทที่ฟาดเปรี้ยง
เป็นเสียงสะท้านสะเทือนอันเลื่อนลั่น
เราสะดุ้งสุดตัวในชั่วนั้น
ตะลึงพรึงพรั่นคางสั่นรัว
เธอเชื่อสิ่งพึ่งในหนึ่งอย่าง
แล้วแยกทางเดินรุดไปสุดขั้ว
ฉันเชื่ออีกหนึ่งสิ่งพึ่งตัว
ก็หันหัวกลับหลังแยกทางไป
เราจึงยืนบนฟากคนละฝั่ง
ความเกลียดชังไหลหลาก-มาจากไหน?
กับความเชื่อเราเชื่อเต็มเนื้อใจ
จึงไม่เหลือทางอันว่างเว้น
ให้เราหรือใครสักเพียงคน
แยกตนแต่เนิ่นมาเดินเล่น
เราปะทุปะทะเปิดประเด็น
พร้อมจะเข่นฆ่าเพื่อความเชื่อตน
เพื่อนรัก-
มีดเราปักเชือดแล่งเลือดแดงข้น
ในคืนหนาวยาวยืดแสนมืดมน
เราก่นด่ากันอยู่นานยาว
เพื่อนรัก-
ฝนหนักฟ้ามืดนี้ชืดหนาว
เราจ้วงแทงฉีกเชือดจนเลือดคาว
เพื่อตายอย่างปวดร้าวไม่เข้าใจ!
ดูสิ-คืนนี้ไม่มีดาว
และอุ่นอ้าวเช้าใหม่ยังไม่มา
มติชนสุดสัปดาห์ กันยายน 2552