เมา
เมา
๑).
อา-ใครน่ะใครสิใฝ่สิฝัน
ดาริกะจันทร์
อันกระจะตา
อา-มือน่ะมือจะรื้อนภา
โออหังการ์
อาและก็อือม
ฉ่ำเมรยสุร ฤ ปรือ-
จินตกระพือ
ตือบะกระเด็น
ซดเมรยสุรกระเซ็น
เรอสิก็เหม็น
เอ็นสิก็โปน
เอ็นคอตะเบ็งบ๊ะเอ็งตะโกน
โว้ยกูสิโผน
โพ้นกูสิผิน
เยี่ยงนกสกุณบิน-จะบิน
ผืนธรณิน
ตีนกูมิควร
โลกกาล้วนมีโลกียตรวน
กระอักกระพรวน
กระอ่วนกระดึง
โลกุตรสิวะจะพึง
มึงและ ฤ มึง
เห็นมิประสงค์?
กู-มรดกอิริยพงศ์
นี่สิวะหงส์
วงษ์ศิลปี
ดารดาษชนบนปฐพี
ค่า ฤ จะมี-
ขี้ศิลปิน
ปรัชญาอมฤตเถอะนิจสิน
นิตยริน
กินสิวะเกลอ!
๒).
ใคร-แก้วกระแทกกระทั้นกะเล่อ-
กะล่าและเรอ
กะเทาะกระเพาะ
ใคร-ใครวะเอ่ยจะเย้ยจะเยาะ
หัวดิกดิกเพราะ
หัวเราะคะคิก
กูเพียงธุลีองคุลิขลิก
กู ฤ จะพลิก
โลกตะละมุม
อำพันปรัชญาปัญญาชอุ่ม
กูสิวะกลุ้ม
งงสิวะคำ
เมามากนิเกลออ๊ะเรออ๊ะรำ
โลกุตร์ธรรม
โอ้ ณ สุรา
อ้วกมึงสหายละคายระตา
กูสิระอา
เช็ด บ่ มิจาง
นิพพานหะมึงแน่ะหึ่งมิสร่าง
อ้วกสิกูล้าง
กรรมสิกูโกย
อา-เมาอึ๊กเมาเมาชิบหายโว้ย
เมาวจิโวย
โหย-ศิลปิน!
อาทิตย์ข่าวพิเศษ
เขียนในขณะกำลังเมา และคิดอะไรเรื่อยๆไปตามประสา ประมาณปี ๒๕๓๖-๒๕๓๘ จำปีแน่ชัดไม่ได่้ นายพรานผีที่คุมคอลัมน์วาทกวี เอ่ยว่านี่คือฉันท์สุราเมรยฉันท์(ฮา)
เป็นชิ้นงานไม่ดี แต่ก็เอามาลงด้วย ไหนๆก็ไหนๆน่ะ