ลุกเป็นไฟ!
๑.
จึงเกิดการลุกฮือจับมือกัน
ของชนชั้นคนจนผู้หม่นไหม้
จารึกเป็นหมายเหตุประเทศไทย
จดไว้ในนามของความทุกข์
ผู้ยากไร้ทั้งสิ้นแผ่นดินนี้
ตาปีทุกข์ถั่งอยู่อั่งอุก
ซีดเซียวอกตรมล้มลุก
ทุรยุคดักดานนับนานปี
ร้องขอเท่าใดเคยได้ยิน!
เสียงแค้นของแผ่นดินทุกถิ่นที่
ยิ่งนานเนิ่นนับยิ่งทับทวี
ไยดีแยแส-ไม่แม้น้อย
เสียงหึ่งผึ้งป่ายังน่ากลัว
นี่เสียงหัวเราะแค้นหรือจะค่อย
เป็นเสียงก่น ร้องขอ รอคอย
ให้ถอยออกไป-ไม่ได้แล้ว
มันกำลังก้องกึกอยู่ครึกโครม
และยิ่งโหมเสียงขับเป็นทัพแถว
ดูนั่น-ดวงตานั้นจ้าแวว
แกร่งกร้านและกล้าแกร้วเกินแววใด
เป็นนาทีเผชิญหน้า-สบตากัน
ใครจริงใครพรั่น-เดี๋ยวรู้ได้
คนที่ชนักปักไว้
ย่อมหวั่นย่อมไหวถอนสายตา
นี่เสียงหัวเราะแค้นก่นแค่นเสียง
มิใช่เพียงเสียงหึ่งของผึ้งป่า
อกที่แบกทุกข์แล้วบุกมา
บอกว่าคนจนไม่ทนแล้ว!
๒.
เห็นไหม-การลุกฮือจับมือกัน
ของชนชั้นคนจนที่ต่อแถว
ต่อเนื่องเนืองอัดขนัดแนว
มันจะแผ่วเสียงจางได้อย่างไร
ถึงไม่ลุกเป็นไฟก็ไม่ต่าง
เพราะลางหายนะเคลื่อนมาใกล้
อย่าให้เรียวลิ้นตัดสินใจ
มันจะลุกเป็นไฟแล้วไหม้ตน
................................
...............................
เมื่อคนจนก่นกล้าขึ้นคราใด
ถ้าต้องลุกเป็นไฟก็จำเป็น!
รวมบทกวี-เรื่องสั้น สิ้นด้ายสิ้นบายศรี