กล่อมหอกวี
กล่อมหอกวี
๑).
จรดจิตกวีไปชุมนุม
เหนือลุ่มแม่กลองทั้งสองฝั่ง
สะกดจิตเสร็จสรรพเพื่อรับฟัง
แม่กลองหลั่งคำพรเป็นกลอนมา
๒).
ศรีศรีศุภฤกษ์-มหามงคล
ไผ่หนึ่งต้นหยัดพื้นยืนสง่า
สีปล้องตะละปล้องดั่งทองทา
ตัดเป็นบ้องกัญชาก็น่าชม
นี่เป็นไผ่เหยียดยอดขึ้นกอดเมฆ
ลมวิเวกเดือนยี่มาคลี่ห่ม
หนาวก็เสียดใบคายอันรายคม
ให้ระงมใบร้าวว่าหนาวแท้
เสียดาย ศรคีรี อายุสั้น
มิงั้นเป็นวานช่วยงานแน่
ให้ มนต์รักแม่กลอง ดังก้องแคว
เซ็งแซ่โห่ร้องต่างกลองยาว
มาละวามาละเหวยลูกเขยกวี
บายศรีเป็ดสับรับเจ้าบ่าว
เสียงปังตอเข่นเขียงเป็นเสียงกราว
ต่างซาวด์กล่อมหออัมพวา
(เอ้าโห่---------------ฮิ้ว ..
ใครมีหมั่นโถวมาแลกขาหมู
ใครมีเต้าหู้มาแลกเต้าเจี้ยว
ใครมีไผ่เขียวมาแลกใบชา ตะละลา
หุย ..ฮา
โห่ ..ฮิ้ว)
๓).
ยินดีปรีดากับกวี
พิธีภิรมย์นี้สมหน้า
ดอกรักบานสะพรั่งพรึบหลังคา
ฟากฝาเพดานให้ทานทน
ให้ชื่นฉ่ำราวแช่น้ำแม่กลอง
ลมแตะแดดต้องอย่าหมองหม่น
ใบมะพร้าวกราวหึ่งอยู่อึงอล
ให้ต่างพระพุทธมนต์เจริญพร
ศรีศรีศุภฤกษ์-มหามงคล
ไผ่หนึ่งต้นหน่อยหนอแตกหน่ออ่อน
แม่กลองขึ้นเต็มฝั่งเพื่อหลั่งกลอน
กล่อมหมอนกล่อมฟูกกล่อมลูกบาง!
มติชนสุดสัปดาห์
แด่-พิธีมงคลสมรสของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที สหกวีผู้มิเคยฉุดลงในทางต่ำ