ผมจำคุณได้!
ผมจำคุณได้!
ผมจำคุณได้ - วีรชน
นับแสนคนบนถนนใหญ่
คุณกู่เพรียกร้องหาประชาธิปไตย
ก่นด่าขับไล่เผด็จการ
วันนั้นผมอายุห้าขวบ
เล่นม้าควบไปมาอยู่หน้าบ้าน
แม่บอกว่าวันดอกไม้บาน
มาถึงแล้วก่อนกาล มาถึงแล้ว
แม่ร้องเพลงไม่เป็น ไม่เป็นไร
หอบดอกไม้หลายช่อไปต่อแถว
กระเตงผมเข้าร่วมขบวนแนว
ในแววตาแม่ปีตินัก
คุณเรียกแม่ผมว่าพี่สาว
บอกถึงคราวต้องแลกต้องแตกหัก
เราจะฝ่าข้ามไปโดยไม่พัก
สู้ไม่ถอยแม้สักเพียงครึ่งเท้า
คุณเรียกยายข้างบ้านผมว่าแม่
เราชนะแล้วแน่แล้วแม่เจ้า
ปืนก็ปืนจะรื้อด้วยมือเรา
รวมกันเข้าท่าวทบไปรบมัน
ใช่ครับ เผด็จการต้องโค่นล้ม
จึ่งคมกระสุนแรกที่แหวกลั่น
แม่เพื่อนผมคนหนึ่งเลยดึงดัน
เอากายกั้นร่างพรุนกระสุนคม
แม่แล้วแม่เล่าที่ท่าวทบ
เป็นศพแล้วศพเล่าพะเนินถม
มีคนตายจริงจริงถูกยิงล้ม
นอนจมเอือดเอือดกับเลือดตัว
เผด็จการเข่าฆ่าประชาชน!
ถนนมีศพอยู่จบทั่ว
แข่งกับเสียงปืนจริงที่ยิงรัว
คุณตะโกนไม่กลัวเผด็จการ!
แม่กอดผมตัวสั่นอยู่งันงก
ทั้งตันตื้นทั้งตื่นตกอยากกลับบ้าน
แม่เห็นคนฆ่าคนอยู่ลนลาน
แม่ร้องไห้ร้าวรานสงสารคุณ
แล้วสามปีต่อมาผมแปดขวบ
จากม้าควบเปลี่ยนมาเป็นม้าหมุน
เห็นภาพตำตาความทารุณ
อันโหดเหี้ยมสถุลอยู่วุ่นวาย
ผมยังขนหัวลุกมาทุกวัน
แปดขวบขณะนั้นผมขวัญหาย
ธรรมศาสตร์ยับช้ำถูกทำลาย
ผมฝันร้ายวายวอดตลอดมา
แม่กอดผมร้องไห้พร้อมไปด้วย
บอกขุนทองขนสวยจะเข้าป่า
สู้กับปืนต้องมีปืนมายืนท้า
จวบจนฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ผมจำคุณได้ดี วีรชน
อีกหนเจอกันในวันใหม่
สามสิบปีเนิ่นนานเลยผ่านไป
ใครลืมใครไม่รู้ คิดดูเอง
..........................................
...........................................
เจ้าขุนทองกลับมาจากฟ้าไกล
คุณยังจำเราได้? - หรือไม่จำ?
...............................................
...............................................
ไม่รู้ฟ้าวันนี้สีอะไร
แต่คุณได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน!
๒๒ มิถุน ๒๕๔๗