ชายขี้เมาแห่งละม้ายสงเคราะห์
ชายขี้เมาแห่งละม้ายสงเคราะห์
๑).
ตื่นมาอย่างงงงุนอย่างรุนแรง
ลำคอแห้งผงผาก - สากผุย
สมองบดจนร่วนจนซ่วนซุย
เกินคุ้ยเกินคืนความทรงจำ
แอลกอฮอร์ยังเต้นในเส้นเลือด
ปุดเดือดดีกรีมิเป็นส่ำ
ความเมายังค้างเติ่งยังเจิ่งงำ
ผลการกรำราตรี - ดีกรีแรง
ข้าพเจ้าลุกมาเพื่ออาเจียน
คลื่นเหียนสำรอกขยอกแขยง
ความสุขวูบวาบที่กลับแว้ง
สำแดงฤทธิ์แล้วขณะนี้ !
๒).
ใครนำคนเมากลับเข้าบ้าน ?
จากภาวะอลหม่านเมื่อวานนี่
กลางฝูงชนแปลกหน้าของราตรี
บาทวิถีเขรอะเปื้อนด้วยเรือนเท้า
ข้าพเจ้าดื่มและหัวเราะ
กลบเสียงเปราะแตกหักของความเศร้า
ข้าพเจ้าผ่านค่ำด้วยความเมา
เพื่อตื่นเช้ารอค่ำด้วยความทน
แก้วแล้วแก้วเล่า - ซ้ำอีกแก้ว
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า - ความเหงาหม่น
เสียงหัวเราะขมขื่นสะอื้นปน
หยาดน้ำตารินหล่นบนหัวใจ
ท่านไม่เข้าใจหรอก - ไม่มีวัน !
ชีวิตอันดิบกึ่ง - อีกครึ่งไหม้
เราต่างมีที่มา - ต่างที่ไป
เจอกันในมิติมิติเดียว
ท่านจ้องลึกดวงตาข้าพเจ้า
ท่านเห็นชายขี้เมาผู้เปล่าเปลี่ยว
ฝืนยิ้มเบี้ยวบิดหน้าซีดเซียว
กลิ่นเรอเหม็นเปรี้ยวปนกลิ่นตัว
ท่านจ้องลึกดวงตาข้าพเจ้า
ท่านเห็นเงาเม็ดน้ำที่ก่ำกลั้ว
ริมฝีปากท่านเหยียด - ท่านเกลียดกลัว
กวาดตาทั่วหัวหมดไปจรดเท้า !
๓).
ข้าพเจ้าเศร้าอย่างเงียบเงียบ
ยืนเหยียบเอาไว้โลกใบเก่า
ความปวดร้าวซ่อนงำด้วยความเมา
ความเหงาซ่อนงำด้วยน้ำตา
ท่านไม่มีวันจะเข้าใจ
มิใช่เพียงแปลกแยกหรือแปลกหน้า
ชีวิตที่ร้าวรานที่ผ่านมา
มีค่าไม่มีค่า - มากกว่านั้น
คนที่หลับก้ำกึ่งในครึ่งตื่น
คนที่ฟื้นก้ำกึ่งในครึ่งฝัน
มันคือความปวดร้าวเท่าเท่ากัน
ที่เรียวลีบตีบตันของความจริง
คือการแยกไม่ออก - หลอกหรือเท็จ
หัวเราะเสร็จร้องไห้ไปทุกสิ่ง
คือความหวังหนึ่งจะพึ่งพิง
เพื่อซบอิงสะอื้นซ่อนตื่นกลัว
โลกจึงเหมือนเบี้ยวบุบไร้รูปร่าง
ที่ความต่างลากจุดไปสุดขั้ว
คือความจำสับ - กล้ากับกลัว
ที่สว่างสลัวในหัวใจ
มันเหมือนเหมือนฝันร้ายนั้นกลายจริง
ยิ่งฝันยิ่งเศร้าหมอง - ยิ่งร้องไห้
ข้าพเจ้าร้าวรานถึงปานใด
การอยู่ในความครึ่งก้ำกึ่งนั้น !
๔).
เหมือนข้าพเจ้ามีความสุขดี
ท่ามสีรุ้งงามของความฝัน
ที่ทอดกรอมค้อมงอ - วันต่อวัน
ที่แสงจันทร์สาดทอ - คืนต่อคืน
กรึ่มกรึ่มลอยล่องไปท่องโลก
เมาโศกรันทดแล้วสดชื่น
ข้าพเจ้ายิ้มย้ำความกล้ำกลืน
หลับหรือตื่นทดท้อพอพอกัน
คือความรับรู้สับ - จริงกับแท้
ไม่รู้แต่เหมือนรู้กันอยู่นั่น
ท่านไม่เข้าใจหรอก - ไม่มีวัน !
ชีวิตอันดิบกึ่งอยู่ครึ่งกลาง
ที่หวังว่าตื่นพบซากศพตน
ตายบนดอกไม้ล้อมรายร่าง
ในเช้าที่รุ้งได้พุ่งราง
ชัดพร่างพรายเฉดทั้งเจ็ดโทน !
๑๐ กันย์ ๑๕๔๙