ฤดูแดดดุ
เป็นฤดูเดือนดุระอุแดด
ส่องลำแสงแดงแสดรวงแดดสด
กรีดลาดปาดริ้ว-ลิ่วแล้วลด
ราวจะเผาโลกทั้งหมดสลดแรง
.....................................................
เป็นแดดแห่งเดือนสาม; ข้ามเดือนสี่
แดนฤดีที่ฤดูมิพรูแสง
หม่นทั่ว-แดดลำเคยสำแดง
ร้างทุกแห่งเหือดสิ้นจิตวิญญาณ
............................................
เมื่อดอกไม้สีขาวร่วงกราวต้น
พิราบด้นปีกลับไม่กลับบ้าน
ขวัญเอ๋ยขวัญเตลิดแล้วต่อแร้วพราน
ละทิ้งรั้วร้านไร้รังเรือน
............................................
ยังจำแดดเมื่อเดือนตุลาฯ ได้
ร้อนจะไล่อย่างไรมิไร้เพื่อน
พฤษภาฯ ดวงแผดแดดเผาเดือน
ดินสะเทือนเพียงก็ได้ยิน
แดดลมร้อนร่อนเร่เดือนเมษาฯ
ฤาต้องเลือดลูบทาประโลมถิ่น
เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเย็นดิน
บอกพิราบโบยบินให้ผินมา
เพื่อให้ดอกไม้ขาวได้งามงด
ปลดทีท่าสลดปดสีหน้า
ด้วยแผ่นดินยิ้มเผือดเพราะเลือดทา
แล้วมายืนงามสง่าหน้าธรณี
เป็นฤดูเดือนแดดที่แผดผ่าน
ดอกไม้ขาวไม่เคยบานหรือที่นี่?
พิราบขาวที่ว่ามาไม่เคยมี
จงกล่อมดาวริบหรี่แล้วหลับลง
.........................................
เป็นแดดแห่งเดือนสาม; ข้ามเดือนสี่
เผาแล้วอย่าให้มีพวกผีหลง
ดอกไม้ขาวผลิดอกไปทั้งดง
ให้พิราบทระนงได้คงเรือน