เทิดไว้ .. เหนือเกล้า ( Version 2 )
.. ความเป็นไปได้ ของความเป็นคน จากสายตาของคนอื่น คงจะห่างไกลจากความเป็นจริง
ทุรกรรมทางกายมันมากเกินกว่าจะอธิบายจากหยาดน้ำตาและหยดน้ำเหงื่อ สิ่งมีชีวิต ที่แถกไถไปกับพื้นคอนกรีตร้อนระอุ ดุจพื้นทะเลทรายอันเว้งว้างด้วยความหวัง และ ความปราถนามีชีวิตอันสุขสมบูรณ์ เหมือนคำพิพากษาที่จำเลยต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตน มิได้เป็นผู้ก่ออย่างยอมจำนนกับระบบที่ตนมิได้มีส่วนร่วมบัญญัติ
ชายคนนั้น ยังแถกกายไปตามพื้นทางเท้าอย่างมุ่งมั่น ในทางทิศที่ตนมุ่งหมาย ร่างกาย ที่มีองค์ประกอบของความเป็นคนไม่ครบถ้วนเนื่องด้วยขาที่ขาดหาย มือไม้ที่กุดด้วน เสื้อผ้า หน้า ผม ที่ผสมความเป็นชนชั้นจัญฑาลอันเป็นวรรณะต่ำสุดของชาวฮินดู เมื่อครั้ง สองพันปีล่วงมาแล้วตอนที่พระพุทธองค์ทรงทอดพระเนตรเทวทูตทั้งสี่ ยังคงสำแดง ความเป็นวรรณะ แม้จะห่างจากดินแดนชมพูทวีป แต่กลับยังคงปารกฏชัดเป็นรูปธรรมใน คราบร่างของเขาที่แถแถือกกาย ภายใต้สังคมที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นแผ่นดินที่มีรอยยิ้ม เปื้อนใบหน้า
ดั่งจะประกาศความเป็นไปของมนุษยชาติ ... ว่าพวกมึงย่ำเท้ากันอยู่กับที่
กลิ่นอวลอบของความยากจนข้นแค้น และอับแสงความหวัง คลี่กระจายครอบคลุมร่าง สิ่งเดียวที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ผู้คนทั้งมวลมองเห็น กลับลอยเด่นในแววตาที่มุ่งมั่น
แววตา ที่ไม่มีใครปรายตามอง
แววตา ที่ทอดมองไปเบื้องหน้า
แวววับ ที่ยังยิ้ม .. ในแววตา
แววไว ที่คุณค่า ความเป็นคน
...
เสียงแตรบีบดังสนั่นลากยาว กึกก้องสองถนน คนในรถอดสังเวชใจมิได้ แต่ความสมเพชในความ เป็นไปของร่างกายที่คืบคลานกระดื๊บ ๆ เบื้องหน้าดูจะมีมากกว่า ถนนมีให้รถวิ่ง ไม่ได้มีให้สิ่งมีชีวิต ที่คล้ายคนเพียง 3 ส่วน เหมือนสัตว์เลื้อคลานซะ 7 ส่วน มาคลานตัดหน้าตอนกูจะรีบไปแบบนี้
" อยากตายห่ารึไงวะ .. มาคลานข้ามถนน "
ไม่มีคำตอบใด หลุดรอดมาจากไรฟันที่เยินหยิก นอกจากการหันมาสบสายตากับท่านเจ้าของรถคันหรู ที่บรรทุกวงศาคณาญาติใส่เสื้อสีเหลืองมาเต็มคันรถ ชายคนนั้นยังมีสายตาที่มุ่งมั่นในสิ่งที่เขาเป็น ในที่ที่เขาจะไป ไม่มีม้แววตาโกรธแค้น ไม่มีแววตาที่ต่อว่า ..
แต่แม้แววตาที่ดั่งนั้น มันก็มิพอลดทอนความไม่พอใจ ที่ต้องเบรครถกระทันหัน อันเป็นเหตุให้อากง หัวทิ่ม เอาฟันทองมาเฉาะที่หมอนรองหัวคนขับ ท่านเจ้าของรถยังบีบแตรไล่สัตว์เลื้อยคลานตาม สายตาที่ท่านมองเห็นตรงหน้าอย่างไม่ลดละ
" พิการแล้วก็ไปอยู่สถานสงเคราะห์สิวะ เดี๋ยวกูทับแม่งขาขาด "
ณ ยามนั้น ที่ชายพิการทราบได้ว่า แวววับที่ยังยิ้มในแววตาของตน มิอาจสื่อให้คนบนรถคันงามนั้นแลเห็น แววไว ที่คุณค่า ความเป็นคน ของตนแล้วก็ได้แต่พยายามชักขาข้างที่ขาดอยู่แล้วของตนมิให้ท่านผู้ทรงเกียรติ ทับให้ขาดซ้ำเข้าไปอีก เสียงออกตัวขอรถปานประหนึ่งงานแข่งขันประลองความเร็วเดย์โทน่า มลรัฐมิชิแกน จึงบดหน้ายางผ่านรอยกุดด้วนไปเพียงครึ่งเซ็นติเมตร
และความเป็นคนที่ทรงเกียรติ ได้แล่นผ่านไปกับสายลมฉะนั้น
...
มือที่กุดหาย ประกบเข้าหากัน ในใจเขาอยากจะพนมมือเหลือเกิน ถ้ามือมันยังคงอยู่ ขาที่ขาดด้วน คุกเข่าเข้าหากัน และร่างที่คงความเป็นคนไม่เต็มคน ก็ทรุดราบลงกับพื้น
เบื้องหน้าพระบรมฉาทิศลักษณ์ บนซุ้มประตูถนนราชดำเนิน
น้ำตาหยาดใส ๆ รินไหลลงอาบแก้ม กลบเกลื่อนความปวดร้าวของการดำรงชีวิต ในสังคมเมืองที่ผู้คนแลเห็น เพียงแต่ความเป็นไปของตน และมองเห็นความเป็นคนน้อยลง
ถึงกระนั้น คนที่ไม่เต็มคนคนหนึ่ง ยังภาคภูมิใจ ที่ได้เกิดมาเป็นเพียงคราบร่างของคน ในแผ่นดินที่พระองค์ ทรงทอดพระเนตรเห็นประชาชนของพระองค์
ไม่ว่าคนคนนั้น จะสูง ต่ำ ดำ ขาว จะยากดีมีจน จะเกิดบนกองสุข หรือความทุกข์ยาก สายพระเนตร ทรงทอดทอถึงหมู่มวลประชาทุกผู้ ทุกนาม
...
ชายพิการคนนั้น ยังคงหมอบกราบแทบเบื้องพระบาท .. บนถนนราชดำเนิน