ติดเบ็ด ...
...
ยี่สกตัวยาวประมาณฟุตกว่า ๆ นอนสิ้นฤิทธ์อยู่ริมตลิ่ง โดยมีเด็กผู้ชายวัย 12 ปี ยืนถือคันเบ็ดไดว่าอยู่ข้าง ๆ อย่างผู้มีชัยชนะในการประลองกำลังและชั้นเชิง
มันอาจจะดูเป็นการต่อสู้ที่ดูไม่ยุติธรรมนัก เมื่อฝ่ายหนึ่งยืนอยู่บนผืนดิน กำอุปกรณ์ ที่ทันสมัยอยู่ในมือ และสัญชาติญาณนักล่าอยู่ในอก กับอีกฝ่ายหนึ่งที่แหวกว่ายอยู่ ใต้น้ำ และทำตามสัญชาติญาณการมีชีวิตรอด การต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ดำรงอยู่กับ มนุษย์ชาติมาแสนนาน เมื่อตกปลาขึ้นมาได้ ปลาก็กลายมาเป็นอาหาร เพื่อความ อยู่รอดของมนุษย์ เมื่อการคงอยู่ของอีกฝ่ายหนึ่งคือการสูญเสียของอีกฝ่ายหนึ่ง มัน ก็ดูเป็นเหตุเป็นผลทางตรรกที่ดูสมน้ำสมเนื้อ แต่มันบังเอิญที่ฝ่ายผู้ล่าอันชาญฉลาด อย่างมนุษย์ดันพบว่า วินาทีแห่งการต่อสู้นั้น มันกระตุ้นแรงเร่งเร้าอย่างประหลาด และชัยชนะต่อสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน .. ช่างดูยิ่งใหญ่
... โกวเล้ง เคยบอกไว้ว่า เมื่อเห็นอีกฝ่ายตายใต้คมดาบ ในใจอาจเกิดความเศร้า เสียใจเล็กน้อย แต่แล้วจะถูกความเร้าใจและเกียรติยศแห่งชัยชนะครอบคลุมแทนที่ บางครั้งถึงกับบังเกิดความรู้สึก .. สาแก่ใจ
นี่เป็นจุดอ่อนร่วมกันของมนุษย์ชาติ ...
มันก็คงไม่ต่างกันนัก กับความรู้สึกของคนที่ตกปลา
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
" น้าโจ .. ปลดเบ็ดให้ไอซ์หน่อยสิ "
ผู้ชนะของเราในวันนี้ หันมาบอกให้ผมช่วยเอาเบ็ดออกจากปากปลายี่สกตัวนั้น ผมไม่
แน่ใจว่าเด็กชายเกิดความเศร้าเสียใจอย่างที่โกวเล้งบอกหรือเปล่า แต่มันดูเหมือนแฝง
แววแหยง ๆ ยังไงชอบกล ผมเดินเข้าไปหานักสู้แห่งบ่อตัวนั้นก่อนจะเอาฝ่ามือกดแนบ
ลงไปบริเวณข้างตัวถัดจากเหงือก ก่อนจะจับก้านเบ็ดเบอร์ 12 พลิกไปมา ไอซ์ใช้ชุด
ปลายสายเป็นตะกร้อผูกเบ็ด 2 ตัวบนล่าง เบ็ดตัวล่างแทงทะลุปากด้านบนออกมา
ผมลองงัดเบ็ดถอยออกแต่มันติด
" ไม่ออกว่ะไอซ์ .. เอาคีมมาปลดดีกว่า " ผมหันไปบอก ไอซ์เดินดุ่ย ๆ เข้าบ้านไปหาคีม บ้านไอซ์อยู่ใกล้ ๆ บ้านพี่สะไภ้ของผม หน้าบ้านมีบ่อประมาณ 1 ไร่ อุดมไปด้วยสวาย ยี่สก ตะเพียน ปลาหมอ ปลาช่อน จึงไม่แปลกที่ทุกเสาร์-อาทิตย์ บ้านไอซ์จึงกลายเป็น ที่ชุมนุมนักตกปลา ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติ ๆ คนรู้จักกันทั้งนั้น นั่งกินเหล้ากันไป ตกปลากันไป ตัวไหนหน้าตาน่ากินหน่อยก็ทอดซะ ไอ้ที่ตัวยังเล็ก หน้าตาน่าสงสารก็ปล่อยกลับลงบ่อ วันนี้นอกจากผม กับไอซ์ ก็มีพี่จุ๊บ กับพี่ทิดสุวรรณ นั่งเหวี่ยงคันกันอยู่ด้วย
ไอซ์ยังไม่เดินออกมาจากบ้าน สงสัยจะยังหาคีมไม่เจอ พี่ทิดสุวรรณ ซึ่งเป็นเซียนตกปลา
ทั้งน้ำจืดและทะเล แกเลยเดินมาหาผม
" ไหน .. ให้พี่ดูดิ๊ "
พี่ทิดสุวรรณนั่งยอง ๆ ลง พลางจับก้านเบ็ด อีกมือกางเตรียมกดลำตัวปลา ผมค่อย ๆ เลื่อนมือที่กดตัวปลาออกปล่อยให้พี่ทิดแกเตรียมปลดเบ็ด และทันทีที่มือพี่ทิดสุวรรณ กดตัวปลา ..
สัญชาติญาณการมีชีวิตรอดเฮือกสุดท้ายของมันก็สำแดง ยี่สกตัวนั้นดิ้นสะบัดตัวดัง .. ปั๊บ
เบ็ดเบอร์ 12 คมกริบอีกตัวก็ปักฉึกเข้าที่นิ้วก้อยข้างขวามือของผม มันฝังเข้าที่ข้อนิ้วข้อแรก ฝั่งสันมือ และสัญชาติญาณของผมบอกว่า .. เฮ้ย .. เข้าลึกว่ะ ... ฉิบหายแล้ว
" พี่ทิดฮะ .. " ผมเรียกพี่ทิดสุวรรณ แกยังก้มหน้าก้มตาปลดเบ็ดที่ติดจากปากยี่สกตัวนั้นจนออก
" อะไร .. " แกเงยหน้าขึ้นมามองผม ผมได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ
" เบ็ดเกี่ยวนิ้วผมฮะ .. " ผมบอกพลางพลิกนิ้วก้อยให้แกดู แกร้องเฮ้ย ก่อนจะโยนยี่สกตัวนั้นลงน้ำ แล้วหันมาดึงมือผมไปดู พี่จุ๊บก็เดินเข้ามาดูอาการ ก่อนจะส่ายหน้า
" จมเงี่ยงว่ะ ถอยไม่ได้หรอก .. ดันให้มันโผล่ออกมาก่อนค่อยเอาคีมตัด " พี่จุ๊บสรุปอาการ ไอซ์
ยืนทำหน้าสยองอยู่ข้าง ๆ ถึงว่าทำไมมันไม่ยองปลดเบ็ดเอง
โถ .. ถ้าเอาคีมออกมาเร็ว ๆ ซะแต่ทีแรกนะ
ผมบอกความรู้สึกไม่ถูกเวลาที่กลั้นใจดันคมเบ็ดจนปลายแหลมเปี๊ยบของมันแทรกตัวผ่านผิวหนัง จนทะลุออกมา มันจะเรียกว่าเจ็บก็ใช่ที่ จะว่าเสียวสยองก็ไม่ใช่ มันปนเปกันไปหมด จวบจนปลาย เงี่ยงของเบ็ดผ่านพ้นออกมา ผมส่งมือให้พี่ทิดสุวรรณตัดปลายเงี่ยงของเบ็ดออก ก่อนจะกลั้นใจ ดึงเบ็ดถอยผ่านกลับออกมาอีกรอบ ..
เลือดไหลซึมตามออกมาทันที ผมถามหาน้ำแข็งเอามาห้ามเลือดก่อน บาดแผลถึงจะไม่ได้ใหญ่โต แต่การใช้พลาสเตอร์แปะทับไปบนนิ้วเลยก็ไม่ถูกวิธีนัก ควรทำให้เลือดหยุดไหลก่อน และน้ำแข็ง เนี่ยแหละใช้ได้ผลเร็วที่สุดในการห้ามเลือด ( ใครจะเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ไม่ว่านะครับ )
ผมมองพลาสเตอร์ที่พันอยู่รอบนิ้วก้อย พลางคิดถึงความรู้สึกตอนที่ดันปลายเบ็ดให้ทะลุออกมา ถ้ามองในแง่ของกฏแห่งกรรม มันก็ใช่แหละ ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ผมเจ็บยังไง ปลามันก็คง เจ็บไม่ต่างกัน ถ้ามองในแง่ของนักตกปลา คราวหน้าคราวหลังจะปลดเบ็ดออกจากปากปลาก็ระวัง ให้มากกว่านี้นะเว่ย ถึงมันมาอยู่บนบกแล้วก็อย่าคิดว่ามันไม่สู้นะ
ถ้ามองในแง่สัญชาติญาณนักล่า ... พี่ทิดสุวรรณไม่น่ารีบโยนมันลงน้ำเล๊ยย ยี่สกตัวขนาดนั้น บั้งถี่ ๆ หน่อยนะ ทอดให้กรอบ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
รอกของผมร้องปี๊ด .. คันกระตุกยวบ ผมโดดเข้าไปคว้าคัน ก่อนจะวัดสวนเต็มแรง คัน 6 ฟุตของวีว่าโค้งลงจนน่ากลัว ปลายังลากสาย ออกไปเรื่อย ๆ ผมผ่อนคันลงก่อนจะเก็บสายกลับอย่างรวดเร็ว
ความคิดถึงตรรกและสัญชาติญาณทั้งหลาย หายวับไปจนหมดสิ้น
รวมทั้งความปวดตุบ ๆ ใต้พลาสเตอร์แผ่นนั้นด้วย
...
คันวีว่ายังโค้งลง ผมผ่อนเบรคลงอีกนิด ปลายังลากสายออกไป ผมค่อย ๆ อัดคันขึ้นสูงอย่างช้า ๆ ...........................................