ประชาคม ลุนาชัย -- เข้มแบบคนทะเล และชีวิตลูกเรืออวนลาก
ว่ากันว่า นักเขียนคนนี้เป็นนักเขียนมือรางวัล หนังสือของเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายรายการและหลายครั้ง ผมก็เลยหยิบมาอ่านซะ 5 เล่ม เพื่อจะรู้จักงานของนักเขียนคนนี้ ..
ประชาคม ลุนาชัย -- เข้มแบบคนทะเล และชีวิตลูกเรืออวนลาก
หนึ่งในนักเขียนที่เป็นนักอ่านตัวยง ถ้าหากใครอ่านหนังสือเรื่อง เขียนฝันด้วยชีวิตของเขาแล้ว จะทำให้เข้าใจพื้นฐานการเขียนของประชาคม มากขึ้น นักเขียน จะมากจะน้อยย่อมได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมที่ตัวเองอ่าน แต่ที่เห็นได้ชัดจากชีวิตนักเขียนอย่างประชาคมคือ เขาเป็นคนสู้ชีวิต ผ่านงานหนัก และหลากประเภท ผลพลอยได้คือประสบการณ์อันเข้มข้น ซึ่งกลายเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ในงานเขียน
เขียนฝันด้วยชีวิต เป็นนวนิยายเชิงอัตชีวประวัติ ของนักเขียน ซึ่งเป็นการคัดเอาบทตอนของชีวิตมาเขียนในรูปแบบของนิยาย วิธีการเรียบเรียงจึงคล้ายกับว่า คนอ่านได้อ่านชีวิตของตัวละครในนิยาย แทนที่จะได้อ่าน ชีวประวัติ"ของคนจริงๆ เสน่ห์ของหนังสือเล่มนี้คือ ประชาคม ได้เปิดรอยแผลของชีวิต ความที่เป็นนักเผชิญโชค นักเดินทาง และนักสู้ชีวิต เขาเคยทำงานในโรงงาน เคยทำงานในไร่ เคยเป็นคนงานโรงงานขนมปัง เคยเป็นลูกเรือ และเคยเป็นยามมาก่อน ทุกบททุกตอน นักเขียนคนนี้พยายามจำรายละเอียดแล้วก็นำมาถ่ายทอดในรูปแบบของนิยาย สอดแทรกไปกับการเล่า ประชาคม ก็ได้สอดแทรกวิธีการมองของนักเขียนของเขาไว้ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่เนื้อหาเข้มข้นทีเดียว สะใจนักอ่านแบบฮาร์ดคอร์ หลายคนอ่านแล้ว บอกว่า ทำไมชีวิตเขารันทดเหลือเกิน กระทั่งจะเขียนหนังสือ ก็ยังต้องฝ่าฟันอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง พ่ายแพ้อย่างหมดรูปก็หลายครั้ง ชีวิตจะพังไม่พังแหล่ก็หลายหน
รู้จักกับประสบการณ์และชีวิตของประชาคม จาก เขียนฝันด้วยชีวิตแล้ว เล่มถัดมาที่ผมอยากมาพูดถึงก็คือ ฝั่งแสงจันทร์ เท่าที่ตามอ่านหนังสือของประชาคม ดู ผมจับได้ว่า เขาซึมซับเอาชีวิตของลูกเรืออวนลาก (เรือประมง) มามาก แล้วก็พยายามจะเขียนนิยายบนชีวิตเหล่านั้น พูดได้ง่ายๆว่า น้ำเค็มอยู่ในสายเลือดของเขา และกลิ่นจมูกก็คงไม่จางจากกลิ่นคาวทะเล ฝั่งแสงจันทร์ เป็นเรื่องราวของชีวิตลูกเรือ 4 คน ที่โชคชะตาทำให้พวกเขามาเกี่ยวพันกัน โทน พล สาย เชน พฤติกรรมที่แตกต่าง ภูมิหลังของชีวิตที่แตกต่าง ความใฝ่ฝันที่แตกต่าง แต่ที่เหมือนกันประการเดียวคือ พวกเขาเป็นคนไร้ราก เป็นลูกเรือที่ชีวิตฝากไว้กลางทะเล เป็นลูกเรือที่มองหาฝั่งของชีวิตไม่พบ กลายเป็นคนนิรนามกลุ่มหนึ่ง แต่พวกเขาก็มีชีวิต มีลมหายใจ ชีวิตของพวกเขาถูกขับเคลื่อนด้วยลมหายใจของวัยฉกรรจ์ กลิ่นอายของเรื่องนี้ เฉกเช่นเดียวกับ กลิ่นอายของ ผองเพื่อนใน โลกียชน 4 จอมยุทธใน วีรบุรุษเจ้าสำราญ พวกเขามีชีวิตแปดเปื้อนโลกีย์ บางเวลาถูกขับเคลื่อนด้วยความหิว บางเวลาด้วยตัณหา แต่พวกเขาก็มีส่วนของมนุษย์ มีน้ำใจกับเพื่อนและคนรอบข้าง ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นสิ่งที่สวยงาม แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะไม่สมบูรณ์ อาจจะถูกมองว่าเป็นเดนคน คนเรือที่หาสาระอะไรไม่ได้ (พอจะกล้อมแกล้มได้ว่า ประชาคม เป็นนักแปลงเรื่อง เหมือนที่โกวเล้ง เคยแปลง โลกียชนหรือเปล่า?? ผู้อ่านคงเป็นคนตัดสินได้- แต่เขาดัดแปลงได้แนบเนียนและน่าอ่าน)
คนข้ามฝัน เรื่องนี้ พล๊อตเรื่องคล้ายกับหนังเรื่อง shawshank redemption มากๆเลยครับ (ผมว่า น่าจะได้รับแรงบันดาลใจล่ะ) เพียงแต่เปลี่ยนวิถีชีวิต จากคุก มาเป็น ทะเล จากแอนดี้ มาเป็น ชัพ ตัวละครอื่นๆ เหมือนจะลอกพิมพ์กันมาอย่างน้อยก็ 2 คน ถ้าหากไม่ติดว่า ผมชอบหนังเรื่อง Shawshank Redemption และดูหลายรอบ ผมคงอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ด้วยความสุขมากกว่านี้ เป็นเรื่องของ ลูกเรือประมงคนหนึ่ง ชัพ หรือ ไอ้หยองกรอด ชายหนุ่มรูปร่างโปร่ง ขาว ท่าทางจะไปไม่รอดในการเป็นลูกเรืออวนลาก แต่ ชัพ ทำได้มากกว่านั้น ก็เหมือนกับ แอนดี้ ในคุก ที่ฝ่าฟันวิกฤติชีวิต และประคับประคองความฝัน ไปจนถึงฝั่ง แถมยังทำให้ลูกเรือที่สิ้นหวัง ดูเหมือนหมดอนาคตอีกด้วย กลายเป็นคนมีความฝัน มีอนาคตได้ ฉากหลังของเรื่องนี้ คือ ชีวิตอันเข้มข้นของลูกเรืออวนลาก ใครที่เคยสัมผัสกับชีวิตลูกทะเล คงจะอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยความซาบซึ้ง จะว่าไปแล้ว งานอะไรที่ว่าโหด หินแล้ว ถ้าหากเทียบกับชีวิตลูกเรือประมง เรืออวนลากแล้ว ชีวิตลำเค็ญอื่นๆ แทบจะเป็นเรื่องราวเล็กน้อยไปเลย หนังสือเล่มนี้ เคยเข้ารอบซีไรต์ด้วยครับ (ไม่แน่ใจว่าติดที่ว่า มันเป็นบทหนังสือดัดแปลงหรือเปล่า เลยพลาดรางวัล - แต่ก็ได้รับรางวัลหนังสือยอดเยี่ยมของรายการประกวดรายการอื่น)
กลางทะเลลึก หนังสือนิยายที่เข้ารอบซีไรต์ปีนี้ แถมเป็นตัวเก็ง แต่ก็พลาดไปจนได้ ฉากของเรื่องนี้ อยู่ในท้องทะเลล้วน เป็นทะเลลึก ที่มองไม่เห็นฝั่ง จากชีวิตของคนเรืออวนลาก กัปตัน นายท้าย จุมโพ่ คนอวน วันหนึ่งพวกเขาพบว่า ปลาในห้องเย็นไร้คุณค่า เมื่อเทียบกับสมบัติที่เจอในเรือโดดลำหนึ่ง มันเป็นโชคหรือเป็นคราวเคราะห์ เมื่อผนวกเอาความเป็นคน มีโลภ โกรธ หลง เข้าไปด้วย คำตอบคงไม่ยากเกินเดาใช่มั้ยครับ เสน่ห์ของเรื่อง คือ การวางภูมิหลังให้กับตัวละครในเรือ ไม่ว่าจะเป็น กับตัน นายท้าย คนโดยสารพลัดหลง (1 คน) แล้วละครชีวิตของแต่ละชีวิต โดยมีรางวัลคือ ส่วนแบ่งที่จะได้รับจากสมบัติที่พวกเขาพบ เมื่อขึ้นฝั่ง อ่านเรื่องนี้แล้วรู้จักคนมากขึ้น เข้าใจคนมากขึ้นในอีกมิติหนึ่ง คนอ่านคงคาดเดาตอนจบได้ไม่ยากนัก แต่ระหว่างบรรทัด ระหว่างบท เข้มข้น จนยากจะคาดเดาทีเดียวครับ หลายคนตีความว่า นี้เป็นนิยายอิงการเมือง และเนื้อหาหนักเกินไป ทำให้ไม่ได้รางวัลซีไรต์ แต่สำหรับผม นี่เป็นนิยายที่มีส่วนผสมลงตัว และน่าอ่านมากที่สุด โครงเรื่องไม่เหมือนกับเรื่องใดๆที่ผมอ่านมาก่อน
อ่านหนังสือของประชาคม จบไป 5 เล่ม ผมคิดว่า ประชาคม เป็นนักเขียนนิยาย ที่พยายามซึมซับเอาประสบการณ์ชีวิต แล้วก็มาผสมกับประสบการณ์ในการอ่านของเขา กลั่นออกมาเป็นนิยาย เรื่องราวจึงสมจริงสมจัง มีเสน่ห์ แม้ว่าพล๊อตเรื่องอาจจะไม่ยากเกินเดา หรือมีเค้าโครงมาจากนิยายเรื่องอื่นๆ บ้างก็ตาม แต่รายละเอียดที่ประชาคม สอดแทรกเข้าไปนั้น ถ้าหากไม่มีประสบการณ์ชีวิตอันเข้มข้นแล้ว ก็คงทำไม่ได้