ถึงแสงเดือน
ถึงแสงเดือน
คิดถึงเธอรู้ไหมเล่าเจ้าแสงเดือน
ยามเธอเยือนฟ้าหมองก็ผ่องใส
ริ้วเมฆหม่นยังเรืองรองผ่องอำไพ
แลวิไลไสวสว่างพร่างพราวพราย
ข้าจึงปลดขื่อคาม้าสมมุติ
ไม่ยั้งหยุดห้อตะบึงถึงที่หมาย
โลกวันเก่าข้าเคยนั่งฟังนิยาย
ยังตราตรึงอยู่มิวายคล้ายเมื่อวาน
ณ ท้องนาน้ำนองท่วมท้องทุ่ง
ข้ายังมุ่งฟังสำเนียงเสียงขับขาน
แสงเดือน เด็กสาว นักเล่านิทาน
ใสเสียงหวาน เศร้าทำนอง ก้องท้องน้ำ
ว่าเธอ เทพธิดาเมืองดอกไม้
ประพาสไพรพลัดถิ่นแผ่นดินต่ำ
ซัดเซพเนจรไม่จดจำ
จนลืมเลือนเถื่อนถ้ำพรรณราย
หลายราตรีที่พลัดหลงอยู่ดงดึก
ยังสำนึกคืนถิ่นถวิลหมาย
อยู่เวียงวังในทิพย์ทับก็กลับกลาย
เพียงพึ่งพาตายายที่ชายดง
ทุกทิวาราตรีคอยผีเสื้อ
รับสาราเอื้อเฟื้อเพื่อไปส่ง
ธิดาน้อยคอยท่าชายป่าดง
ขอให้องค์พระบิดานั้นมารับ
ฤาพระองค์หลงเลือนลืมลูกน้อย
ประพาสดอยดงไกลยังไม่กลับ
ลูกยากแค้นเสดสาคณานับ
จึงร้องขับถ้อยคำร่ำรำพึง
โอ้แม่คุณบุญปลูกของลูกเอ๋ย
กระไรเลยลืมได้ไม่คิดถึง
ทิ้งลูกน้อยตกระกำไม่คำนึง
ลูกยังตรึงหวงห่วงถึงรวงรัง
ที่เมืองเหนือไม่อาทรเรื่องร้อนหนาว
หยิบสอยดาวดวงใดดังใจหวัง
วิมานหรูคู่เคียงที่เวียงวัง
ก็พร้อมพรั่งเพริศพร้อยพลอยจินดา
นับคืนวันแสงเดือนคลี่เคลื่อนคล้อย
เริ่มริ้วรอยน่าอนาถในวาสนา
ครั้งซัดเซพเนจรแต่ก่อนมา
ยังเคหาตายายได้ดูแล
นัยน์ตาเตือนเลื่อนลอยใช่ด้อยศักดิ์
ฤาเริดร้างห่างรักปักรอยแผล
สิ้นความหวังพังทลายกลายกลับแปร
ทั้งดวงแดที่คอยหวังยังมืดมัว
จนข้าวกล้าลาล่วงเป็นรวงทอง
จากฤดูนาน้ำนองก็แล้งทั่ว
แสงเดือน เธอสิ้นเสียงสั่นระรัว
เธอเก็บตัวปิดกั้นแต่นั้นมา
ไม่มีเธอเทพธิดามาบอกเล่า
ไม่มีเสียงสร้อยเศร้าเร้าเรียกหา
มีแต่ร่างบางบอบแบบคนชรา
และดวงตาชอกช้ำระกำใจ
สิ้นเดือนสามสิ้นลมว่าวสาวก็สิ้น
ข้ายังรินน้ำตานองแอบร้องไห้
ที่เธอเล่าแต่เบื้องหลังยังฝังใจ
เพลงอาลัยยังอ้อยอิ่งทิ้งทำนอง
คิดถึงเธอรู้ไหมเล่าเจ้าแสงเดือน
ยามเธอเยือนคราใดใจยังหมอง
กลั่นน้ำตามาเสกสร้อยบทร้อยกรอง
เป็นทำนองฝากคำนึงถึงแสงเดือน
ถึงหญิงสาวนาม แสงเดือน