เรื่องสั้นวันนี้

by บักไอซ์ @20 มี.ค.50 3.10 ( IP : 222...40 ) | Tags : กระดานข่าว

เรื่องสั้นวันนี้ โดยไอซ์

ลมเย็นโชยผ่านพัดเอาควันบุหรี่ลอยหายไปในความมืดแห่งห้วงราตรี  ผมสูบควันอีกอึกจากมวนบุหรี่หลังมื้อเย็น  ก่อนจะดีดมันลอยคว้างไปตกใต้พุ่มเฟื่องฟ้า  บนท้องฟ้ามีดาวประดับกระพริบระยิบระยับพร่างพราย  ลมเย็นพัดผ่านผิวอีกระลอกผมจุดบุหรี่ขึ้นสูบอีกมวน  สายตายังคงจับอยู่ที่จุดแสงกระพริบวิบวับบนฟากฟ้า  แล้วระบายควันออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายทอดอารมณ์ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ขอบโค้งจักรวาลจะกางกั้น

เนิ่นนานเท่าใดกันที่ผมไม่ได้เขียนเรื่องสั้น? อะไรกันที่ทำให้ผมกลั่นเรื่องจากความคิดให้กลายเป็นเรื่องเล่าผ่านตัวอักษรไม่ได้  ผมหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้  หลายครั้งที่จินตนาการของผมโลดแล่นอยู่ในสมอง  ผมเห็นฉากเห็นตัวละคร  เห็นพล็อตเรื่อง  เห็นการเล่าเรื่อง  แต่พอผมมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อจะพิมพ์  ภาพและเหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นให้เป็นเรื่องสั้นสักเรื่อง  มันกลับตีบตันขึ้นมาเสียเฉยๆ  บางครั้งผมนั่งจ่อมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์  พยายามนึกทบทวนภาพจินตนาการที่เพิ่งเกิดแต่กลับกลายเป็นว่าผมได้เข้าไปอยู่ในอุโมงค์มืดที่ไร้ทางออก  มองอะไรไม่เห็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น  จนต้องล้มเลิกปิดคอมพิวเตอร์แล้วไปหาอะไรอย่างอื่นทำ-

ผมสูบบุหรี่อึกสุดท้ายแล้วโยนมันทิ้งไว้ที่ใต้พุ่มเฟื่องฟ้า  เมื่อได้ยินเสียงแฟนเรียกให้ไปอาบน้ำนอน
ผมปลายตามองดวงดาราบนฟากฟ้าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงเอ่ยคำอำลาความงามยามค่ำคืนนี้  หวังว่าพรุ่งนี้ผมจะมีสมาธิและจินตนาการของผมจะรั่วไหลออกจากสมองที่ปิดทึบของผมได้บ้าง- -

หลังอาบน้ำเสร็จผมก็นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงนุ่ม  ซุกกายอยู่ในผ้านวมผืนใหญ่  มีเสียงเครื่องปรับอากาศพ่นไอเย็นออกมาเป็นระยะ  แฟนกำลังให้นมและกล่อมลูกสาวให้หลับนอน  ได้ยินเสียงลูกสาวอิดออดยังไม่ยอมนอนเพราะยังห่วงเล่น  ผมจึงปิดโคมไฟหัวเตียงให้ทั้งห้องมืดสนิท

เสียงของลูกสาวเงียบไปแล้ว  ผมปล่อยเวลาไปอีกระยะเพื่อให้แน่ใจว่าเธอหลับสนิทแล้ว  ผมจึงเปิดโคมไฟหัวเตียวอีกครั้ง  ลังเลว่าจะหยิบหนังสือมาอ่านดีหรือเปิดโทรทัศน์เพื่อรับฟังข่าวสารดี  ผมเหลือบมองนาฬิกาทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดหนึ่งฟุตที่แขวนไว้บนผนัง  ขณะนี้เวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว  ผมตัดสินใจเปิดโทรทัศน์เพื่อดูข่าว

ผมเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือพิมพ์แต่ก็ยังอยากรู้ข่าวสารบ้านเมือง  จึงเห็นประโยชน์ของรายการข่าวแบบหยิบหนังสือพิมพ์มาเล่าข่าวให้ฟัง  แม้จะต้องใช้วิจารณญาณอย่างหนักในการรับสื่อชนิดนี้  แต่มันก็ยังทำให้ผมสบายโดยที่ไม่ต้องก้มๆเงยๆอ่านข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์เอาเอง

หลายครั้งผมเห็นพิธีกรเล่าข่าวอาชญากรรมอย่างมีอารมณ์ร่วม  หลายครั้งผมเห็นพิธีกรเล่าข่าวปล่อยคำบริภาษผู้ถูกกล่าวหาออกอากาศทางโทรทัศน์โดยปักใจเชื่อว่าข่าวที่ตนเองเล่ามานั้นมีมูลความจริง  และหลายครั้งเหตุการณ์กลับตาลปัตร  กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ  คนผิดกลายเป็นคนถูก  คนถูกกลับกลายเป็นผู้กระทำความผิด  หรือไม่ก็เป็นกล่าวหาให้ร้ายกัน  แต่ผมก็ไม่เห็นพิธีกรเล่าข่าวคนนั้นในโทรทัศน์จะจัดการแก้ไข  และมีเหตุผลในการเชื่อข่าวของตนเองแต่อย่างใด  เหตุการณ์หน้าแตกทำนองนี้จึงเกิดขึ้นกับเขาหลายต่อหลายครั้ง  ซ้ำแล้วซ้ำอีก - -

แสงสว่างจากจอโทรทัศน์ยังคงสว่างไหวตามภาพเคลื่อนไหว- ภาพนั้นเป็นภาพ  ตำรวจหลายนายกำลังคุมตัวผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  ท่ามกลางเสียงก่นด่า  สาปแช่ง  ของบรรดาไทยมุง  และญาติมิตรของผู้ตาย

ท่ามกลางกำลังตำรวจที่แห่มาคุ้มกันภัยจากการถูกรุมประชาทัณฑ์  ผู้ต้องหามีใบหน้าที่เรียบเฉย  ไม่สะทกสะท้านต่อคำสาปแช่งของผู้คนที่รายล้อมหมายมาดจะเข้ามาทำร้าย  ผมไม่เห็นแววตาสำนึกผิดปรากฏบนใบหน้าผู้ต้องหารายนั้นแม้แต่น้อย  เสียงพิธีกรบริภาษคำด่าที่แสนสุภาพพอจะผ่านเซ็นเซอร์ออกโทรทัศน์ได้ดังชัดเจน  และผมก็เห็นคล้อยตามและนึกด่าอาการไม่รู้สึกรู้สานั้นของผู้ตกเป็นผู้ต้องหา

ผมหันไปถามแฟนว่า  ไอ้ผู้ชายคนนี้มันไปก่อคดีได้อย่างไร? แฟนบอกว่า  มันและพวกไปแทงคนตายตรงป้ายรถเมล์แถวอนุสาวรีย์  ตอนนี้ตำรวจจับมันได้เพียงคนเดียวและมันก็รับสารภาพว่ามันเป็นคนลงมือใช้มีดปอกผลไม้จ้วงแทงผู้ตายไปไม่ต่ำกว่าสามสี่แผล  โดยมีพรรคพวกของมันเป็นคนจับแขนจับขาผู้ตายไม่ให้ขัดขืน

ผมถามแฟนอีกว่าแล้วมันไปแทงเขาทำไม? แฟนบอกว่า  ตามข่าวมันสนใจผู้หญิงที่มายืนรอรถเมล์พร้อมกับผู้ตาย  มันเลยไปขอเบอร์  แต่ผู้ตายกลับขัดขวางและต่อว่ามัน  พวกมันโกรธแค้นจึงลงมือฆ่าอย่างทารุณ

'ไอ้เหี้ย'  ผมออกปากด่าไอ้ผู้ต้องหาในทีวีโดยไม่ต้องเกรงกองเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย

บนใบหน้าที่เรียบเฉยไม่รู้สึกรู้สาของไอ้ฆาตกรต่อคำด่าของผม  ทำให้ผมยิ่งคลั่งแค้น

ในอารมณ์นั้นทำให้ผมเกิดความคิดที่จะเขียนเรื่องสั้นเรื่องใหม่  ผมจะให้ตัวเองเป็นนายตำรวจเจ้าของคดี  หลังได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย  ผมก็ไปดูที่เกิดเหตุและเริ่มสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ  ผู้ตายเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นอายุราวสิบเจ็ดปี  ถูกแทงเข้าที่ท้องและหน้าอกหลายแผล  เสียชีวิตตรงบิรเวณป้ายรถเมล์
ผมเข้าไปปลอบโยนผู้หญิงเพื่อนของผู้ตายซึ่งอยู่ในอาการตื่นตรกหนก  ขวัญเสีย  เธอจะเป็นพยานปากสำคัญที่จะชี้ตัวผู้ต้องหาทุกคน  คดีนี้อุกอาจและป่าเถื่อนทำให้สื่อมวลชนให้ความสนใจและเกาะติดการทำงานของผม  ผมถูกผู้ใหญ่เร่งให้ปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุด  และจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้  เพราะคดีนี้อยู่ในความสนใจในวงกว้าง  ผู้ใหญ่สั่งให้ผมทำงานให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว  โดยคดีค้างเก่าในมือที่ยังไม่สามารถสะสางได้  ผู้ใหญ่ได้โยกย้ายมอบหมายให้ตำรวจนายอื่นรับไปทำแทน  ผมจึงมีเวลาสืบสวนสอบสวนและควานหาผู้กระทำได้อย่างเต็มที่  ไม่นานผมก็ทราบชื่อและแหล่งกบดานของพวกมันทั้งหมด  และหนึ่งในนั้นเป็นหัวโจกที่ผมกำลังเฝ้าคอยการกลับมาของมันอยู่

มันเป็นลูกของผู้มีอำนาจคนหนึ่ง  พ่อมันเป็นอดีตนายตำรวจแต่กลับไปเอาดีทางสายการเมือง  จนรุ่งโรจน์สร้างความฉิบหายให้บ้านเมืองมาหลายสมัย  ไม่ว่าลูกมันจะผิดข้อหาอะไรพ่อมันจะออกหน้าจนลูกมันพ้นผิดได้เสมอ
แต่ครั้งหลังสุดลูกมันไปก่อคดีฆ่านายตำรวจตายในขณะปฏิบัติหน้าที่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง  แม้สถานที่นั้นจะสลัวแสงแค่ไหนแต่ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชายสุดที่รักของมันเป็นคนเหนี่ยวไกปืนสังหารนายตำรวจคนนั้น  โชคร้ายในท้องที่  ที่มันก่อเหตุไม่ใช่เขตความรับผิดชอบของ สน. ที่ผมปฏิบัติหน้าที่  ไม่อย่างนั้นผมจะอาสาเป็นคนทำคดีนี้ด้วยตัวเอง  แต่ผมก็ยังติดตามข่าวเกี่ยวกับคดีนี้อย่างใกล้ชิด  และเท่าที่ทราบล่าสุดมันพาลูกหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วโดยทางเรือ  จากนั้นข่าวคราวเกี่ยวกับคดีนี้ก็ค่อยๆจางลง  จนไม่มีใครสนใจ

และในที่สุดมันก็ปรากฏตัวอีกครั้ง  ฟ้าคงโยนโชคเข้ามือผม  มันลงมือฆ่าคนอีกครั้ง  และครั้งนี้มันทำในเขตท้องที่รับผิดชอบของผม

ในวันที่ผมพากำลังตำรวจราวสี่สิบนายปิดล้อมพื้นที่กบดานของมัน  ผมหวังให้ในมือมันถือปืนในตอนที่เข้าบุกเข้าไปจับกุม  และผมจะเป็นคนยิงมันด้วยมือของผมเอง  แต่เปล่าเลยมันกลับไม่ต่อสู้ขัดขืน  และยอมให้ผมจับมันได้แต่โดยดี  เมื่อจับมัดยัดเข้าตะรางผมรู้สึกว่าจากนี้กฏหมายคงจะเอาผิดมันได้ยาก  เพราะพ่อมันเป็นทั้งนักการเมืองและนักกฏหมาย  มันคงให้พ่อมันปลิ้นปล้อนต่อหน้าศาล  ยื่นพยานและหลักฐานลวงโลก  ต่อศาลสถิตยุติธรรม  และมันคงจะหลุดคดีออกมาสร้างเวรสร้างกรรมอีกไม่หยุดหย่อน  ผมจะต้องหยุดมัน  ไม่ว่าจะต้องทำด้วยวิธีการใดก็ตาม

โชคดีเหลือเกินที่ในเวลาต่อมาผมสามารถจับกุมตัวพรรคพวกของมันที่ร่วมกันก่อคดีแทงคนตายได้จนครบทุกคน  และพวกมันทุกคนซัดทอดคนลงมือฆ่าคือไอ้ลูกชายนักชายที่ผมเกลียดขี้หน้ามันเข้ากระดูกดำ  ผมเกลี้ยกล่อมให้มันสารภาพความผิดเพื่อให้ศาลได้ลดหย่อนโทษ  แต่มันยังปากแข็งเพราะได้รับคำแนะนำจากพ่อนักการเมืองของมันให้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา  และมันก็ปฏิเสธที่จะให้การใดต่อเจ้าพนักงานสืบสวน  มันจะขอให้การในชั้นศาลแต่เพียงอย่างเดียว  หมากเกมนี้เห็นทีเมื่อหลุดขึ้นสู่ศาลผมคงเอาผิดมันไม่ได้  ถึงแม้พยานและหลักฐานจะชี้เป้าไปที่มัน  แต่ใครจะรู้ว่าพ่อของมันจะปลิ้นปล้อนตอแหล  ได้เชี่ยวชาญขนาดไหน  ผมไม่แน่ใจว่ากฏหมายจะสนองกรรมของมันได้ครบทุกบาททุกสตางค์หรือไม่

แต่แล้วจู่ๆมันก็พลิกลิ้น  มันยอมรับสารภาพ  เหมือนฟ้ายัดโชคใส่มือผมอีกครั้ง
ในวันที่ผมและกำลังตำรวจพามันและพวกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ  ผู้คนมากมายยืนมุงดูหน้ามันและพรรคพวก  และตะโกนด่าทอ  สาปแช่ง  หลายคนก่นโคตรเหง้าศักราชมันออกมาชำเราไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด  และยิ่งมันทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อน  ก็ยิ่งสร้างความคลั่งแค้นให้กับบรรดาไทยมุงและญาติมิตรของคนตาย  ผมสั่งให้ตำรวจคุ้มกำลังเอาไว้แต่เพียงหลวมๆ    และเมื่อสถานการณ์ระอุจนได้ที่  ผมก็สั่งให้ตำรวจถอนกำลังคุ้มครองผู้ต้องหา  พวกมันตื่นตระหนกและตะโกนขอควาามช่วยเหลือ  แต่ช้าเกินไปเสียแล้ว  ฝูงชนนับน้อยกลุ้มรุมทำร้ายพวกมันจากทุกทิศทาง  สภาพมันตอนนั้นเหมือนตอนที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์  แบล็ค ฮอร์ค ล่วงลงใจกลางเมืองโมกาดิชู  สภาพศพของพวกมันแต่ละคนแทบจะโดนแห่ประจานทั่วเมือง  ภาพทั้งสองเหตุการณ์แทบจะไม่แตกต่างกันเลย

ผมยิ้มสะใจ  และถึงแม้ว่าผมจะต้องถูกออกจากราชการผมก็ยินดีที่ผมได้แก้แค้นให้เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานมาด้วยเพื่อน  เพื่อนผู้เป็นทั้งเพื่อนกิน  เพื่อนนอน  เพื่ อนเที่ยว  และเพื่อนตาย  ผมหยิบโปสการ์ดใบหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตสีเลือดหมูตราโล่ห์  ในนั้นจ่าหน้าถึงลูกชายเพื่อนนายตำรวจที่ต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ  พร้อมกับข้อความสั้นๆเขียนด้วยลายมือของผมเองว่า  'อาแก้แค้นให้แล้วนะ'

ผมหันหลังให้กลับสถานการณ์ตรงหน้า  เดินตรงไปยังตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วหย่อนโปสการ์ดใบนั้นลงไป  ก่อนจะเดินหายเข้าไปในถนนที่จอแจและวุ่นวายสายหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

จบ. - -

ผมรีบลุกขึ้นจากที่นอนเสียบปลั๊กเปิดคอมพิวเตอร์  เร่งรีบจนลนลาน  บนจอโทรทัศน์พิธีกรกำลังเอ่ยคำลาปิดรายการ  ยังไม่ที่เขาจะทันได้กล่าวปิดรายการ  ผมก็ชิงปิดเครื่องรับโทรทัศน์เสียก่อน  ในระหว่างรอให้เครื่องคอมพิวเตอร์เซ็ตระบบจนสามารถใช้งานได้  ผมจึงใช้เวลานั้นทบทวนพล็อตเรื่องสั้นที่เพิ่งผุดขึ้นมาได้  ไฟในการเขียนเหมือนจะโหมกลับมาอีกครั้ง  เมื่อคอมพิวเตอร์พร้อมที่จะทำงาน  ผมก็พร้อมที่แล้วที่จะพิมพ์

ผมเริ่มเรื่องสั้นของผมโดยการใส่ชื่อเรื่องว่า  'เรื่องสั้นวันนี้'  เป็นการตั้งขึ้นมาลอยๆและพร้อมจะถูกเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อหากผมคิดชื่อเรื่องที่เหมาะสมกว่านี้-

ผมนั่งจ่อมอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้งเมื่อเรื่องสั้นของผมมาถึงช่วงที่ผมนายตำรวจในเรื่องจับไอ้ลูกนักการเมืองยัดใส่ตะราง  ผมที่หน้าจอคอมพิวเตอร์กลับเห็นสายตาหม่นเศร้าขอความเมตตาข้างหลังลูกกรงเหล็ก  ความคิดของผมกลับหยุดลงอีกครั้งทำให้สองมือที่พรมแป้นอักษรพลันชะงักไปด้วย  ความสงสารก่อเกิดอย่างไม่มีสาเหตุ  ส่งผลให้ผมสับสนว่าจะปล่อยให้ชะตากรรมของไอ้ลูกนักการเมืองวายร้ายเป็นไปตามความคิดดั้งเดิมที่หรือไม่  อย่างน้อยมันก็อยู่ในตะรางแล้ว  และคงไม่สามารถออกไปทำร้ายทำลายชีวิตใครอีกต่อไป  อย่างน้อยก็ในตอนนี้  มันได้รับผลกรรมของมันแล้ว  หรือผมควรจะเปลี่ยนตอนจบของเรื่องดี  คือให้มันจำนนต่อหลักฐานและสำนึกผิดยอมรับโทษทัณฑ์ตามที่มันก่อ  แล้วเรื่องสั้นเรื่องนี้มันจะไปสนุกอะไรหากเลือดไม่ได้ล้างด้วยเลือด

ผมวางมือจากแป้นพิมพ์ละสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง  ดวงดารายังกระพริบระยิบระยับพร่างพรายอยู่ท้องฟ้าหม่นมืด

ผมควรจะทำอย่างไรกับเรื่องสั้นเรื่องนี้ดี? มันเป็นคำถามที่วกวนอยู่ในหัวสมองของผม - -

สายลมเย็นโชยพัดผ่านผิวกาย  ผมจุดบุหรี่สูบ  ระบายควันออกมาเป็นสาย  ลอยหายไปในความมืด  ผมออกมานอกบ้านพยายามทบทวนถึงเรื่องสั้นที่ยังค้างคาอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์  ไฟลามเลียมวนบุหรี่ไปจนค่อน  ผมสูบควันอีกอึกแล้วโยนมันทิ้งใต้พุ่มเฟื่องฟ้า  ผมตัดสินใจแล้วว่าผมควรจะทำอย่างไรกับเรื่องสั้นเรื่องนี้ของผมดี

ในบ้านผมหย่อนก้นลงบนเก้าอี้หนังสีดำบุนวมนุ่ม  บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏสกรีนเซิร์ฟเวอร์  เป็นข้อความที่ผมตั้งค่าไว้เอง  ลอยเคว้งคว้างอยู่บนพื้นหลังสีดำสนิท  ผมพิมพ์ข้อความนั้นว่า  'ไปไหนมา  มาพิมพ์เรื่องสั้นของมึงให้จบเสียที'  ไม่รู้ผมตั้งค่าสกรีนเซิร์ฟเวอร์ด้วยข้อความนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไร  มันคงเนิ่นนานมาแล้วเพราะที่ผ่านมาผมยังไม่ได้เรื่องสั้นสักเรื่องที่เสร็จสมบูรณ์

ผมเอื้อมมือไปขยับเมาส์เพื่อขับไล่สกรีนเซิร์ฟเวอร์  พลันหน้าต่างเรื่องสั้นในโปรแกรมไมโครซอฟ เวิร์ด  ที่ผมยังพิมพ์ค้างไว้จึงปรากฏขึ้นแทนที่  ผมเลื่อนเมาส์ไปตรงกล่องกากบาทสีแดงด้านมุมขวาบนของหน้าต่าง  แล้วคลิ๊ก  โปรแกรมจึงขึ้นข้อความถามว่า  'คุณต้องการที่จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่คุณได้ทำกับ  เอกสาร1  หรือไม่'  ผมเลื่อนเมาส์ไปกดกล่องที่มีคำถามว่า  'ไม่ใช่'  อย่างไม่ลังเล  หน้าต่างโปรแกรมไมโครซอฟต์  เวิร์ด  ที่มีเรื่องสั้นของผมอยู่จึงหายวับไปกับตา  โดยที่ผมไม่ได้บันทึกมันเก็บไว้เลย

ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มอีกครั้งอีกครั้ง  และหลับตาพยายามนึกถึงผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมในภาพข่าว  ฉับพลันนั้นผมกลับเห็นใบหน้าของพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ต้องรายนั้นปรากฏขึ้นมาแทนที่  ใบหน้าของพวกเขานั้นอมทุกข์  แววตาหม่นเศร้าอยู่ตลอดเวลา  ในภาพนั้นผมได้ยินเสียงสะอื้นไห้แว่วมาไม่ขาด

ผมว่าผมทำถูกแล้วที่ลบเรื่องสั้นเรื่องนั้นของผมทิ้งไป
ผู้ใดที่ทำผิด  ผู้นั้นย่อมได้รับโทษทัณฑ์ตามที่เขาได้ก่อขึ้นมา
แต่ผมไม่เชื่อว่า  เลือดต้องล้างด้วยเลือดจึงจะเหมาะสม.

และก่อนที่ผมจะเคลิ้มหลับไป  สมองก็ผุดพล็อตเรื่องสั้นเรื่องใหม่สำหรับพรุ่งนี้ไว้ให้ผมแล้ว  และหวังว่าผมจะแปรสภาพมันออกมาเป็นเรื่องเล่าผ่านตัวอักษรได้เหมือนเช่นที่เคย.


ปล. ชื่อไอซ์ครับผม แก่แล้ว(เอิ๊ก) ซุ่มอ่านมานานแว้วว วันนี้เอาเรื่องสั้นมาให้อ่านกัน ไม่ใช่เรื่องใหม่ล่าสุด เขียนไว้เมื่อหลายเดือนก่อน  ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ

Comment #1
Posted @20 มี.ค.50 7.46 ip : 203...116

หากอยากส่งไปตามนิตยสารก็ทำเลย ไม่ต้องรีรอ

ได้ลงหรือไม่ไม่มีใครรู้หรอก  แต่บางทีการที่ที่หนึ่งไม่ลงให้ ไม่ได้หมายความว่าที่อื่นไม่ลง


ชิ้นนี้ชอบว่ะ

ปล. ก่อนส่งนิตยสารก็ปรู๊ฟใหม่ด้วย และพยายามอย่าเขียนผิด เช่น "ผมปลายตามองดวงดาราบนฟากฟ้าเป็นครั้งสุดท้าย"  มันต้อง ปรายตา นะ

Comment #2
Posted @20 มี.ค.50 17.57 ip : 203...234

อ่านเรื่องของ บักไอซ์  เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2

ชอบนะ  สำนวน  การเขียน คุ้นๆ

Comment #3
บักไอซ์ (Not Member)
Posted @23 มี.ค.50 2.50 ip : 222...126

จ้า

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 15 user(s)

User count is 2420201 person(s) and 10099142 hit(s) since 6 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).