เหรียญ
แดดยามสายร้อยแรงแผดเผา ลมวูบใหญ่เคลื่อนผ่านไป กระดาษนับร้อยปลิวว่อนดารดาษเหนือศีรษะของผู้อยู่เบื้องล่าง
เสียงผรุสวาทดังก้องกระทบโสตประสาทของผู้คนหมู่มากที่ยังคงทรงร่าง ณ ผืนดินร้อนระอุแห่งนั้น
พวกเธอ มีสมองไว้เพื่ออะไร?..กั้นรูหูทั้งสองข้างเรอะ? บอกให้เงียบ..ให้ตั้งใจฟัง ปิดปากแป้บเดียว มันจะตายกันรึไง?
เอาซิ อยากลองดีกันนักใช่มั้ย? ..นั่งกันอยู่อย่างนี้แหละ ห้ามกระดุกกระดิก แล้วอย่าให้รู้นะว่าเสียงเล็ดลอดมาจากปากใคร
เข็มนาฬิกาผ่านไปอย่างช้าๆ ราวกับต้องการสงวนทีท่าและลีลาการก้าวเดิน ..ติ๊ก..ต๊อก..ๆ
แต่ทว่าจังหวะลมหายใจกลับเชื่องช้า .. รอคอยซึ่งการปลดแอก
หลากเสียงกระซิบกระซาบซ่านระหว่างใจถึงใจ ทุกแววตาเปี่ยมมั่นด้วยอุดมคติเดียวกัน
และพร้อมจะแสดงคตินิยมอันนุ่มลึก ให้ประจักษ์ต่อหน้าประชาชีโดยพร้อมเพรียง
....................................
.........................................
เอ้า! สามทับเก้าผู้หญิงไปได้
...,
เอ๊ะ! ยังไงกันเธอนี่ ชั้นเปิดโอกาสให้แล้วก็ไปสิ..
เสียงแกร่งเปี่ยมด้วยความมั่นใจดังขึ้นท่ามกลางสายตาฉงนปนหมั่นไส้
ขอบคุณค่ะ ! แต่พวกหนูไม่ไปค่ะ รอไปพร้อมเพื่อนผู้ชาย
แล้วหล่อนก็นั่งลงเช่นเดิมด้วยความปลอดโปร่งโล่งใจที่ได้ประกาศอุดมคติของพวกตน..และได้ทำในวินาทีก่อนหน้า
เรื่องของเธอ,เธอไม่ไปแล้วเธอจะหาว่าชั้นไม่เตือน..อ้าว! งั้นผู้ชายทับเก้าไปได้
ใบหน้าชาเพียงชั่วครู่ ขอบตาร้อนผ่าว ริมฝีปากสั่นระริก ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยประเดประดังอื้ออึงท่วมท้นทั้งจิตใจ ขณะที่สายตายังคงมองตามทิวแถวเบื้องหน้า.อดกลั้นความคับแค้นในใจ พยุงตัวให้ย่างก้าวต่อไปข้างหน้า..ปราศจากอุดมคติ..อุดมคติ..ซึ่งเป็นเพียงนามธรรม เกิดขึ้นจากความคิด..คิดไปเองทั้งสิ้น..จับต้องไม่ได้ ตั้งกฎเกณฑ์สำหรับตนเอง ปิดกั้นกิเลสที่ดิ้นพล่าน หรืออุดมคติ เกิดขึ้นเพื่อ สร้างภาพ สำหรับเราไม่ใช่ มันไม่ใช่!! เราเพียงรักที่จะทำตามกฎเกณฑ์บ้าบอในสายตาคนอื่นอย่างเต็มใจ
................... ..บ้าสิ้นดี.. ..ทำไม ๆ ๆ ๆ .. ..เราพยายามจะให้เป็นเสือ .. ทุเรศ .. กลายเป็นหมา..หมาหัวเน่าซะด้วยสิ...
.................
คาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ผ่านไปอย่างไร้คุณค่า จิตใจจดจ่อคิดวนเวียนกับความวิปลาสที่เกืดขึ้น ห้วงคำนึงมีเพียงคำถามถึงความแตกต่างทางความคิดระหว่างชายและหญิง..จริงอยู่..หญิงละเอียดอ่อน ชายสะระตะ ....................................................
ไอเนแก ทำไมแกไม่รอเราก่อน พวกเราอุตส่าห์รอแกนะเว้ย
ก็เราไม่รู้ล่ะ
พวกเราไม่รู้เหมือนกันว่าแกไม่รอเรา..แต่เราก็รอแก
แกไม่เข้าใจนี่ปราง พวกเราไม่รู้จริงๆว่าแกไม่ยอมไป ถ้าเรารู้นะ เราก็ไม่ไปเหมือนกัน
แกไม่จำเป็นต้องรู้ แต่แกแค่คิด มันยากนักเหรอ เราว่าพวกผู้ชายมันไม่มีจิตสำนึกเองมากกว่า แล้วมาอ้างว่าไม่รู้เนี่ย .. มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอวะ
เออ กูผิด
............... .....................................................
แล้วมันก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ร้องไห้เอาเป็นเอาตาย
ขณะที่เรียนภาษาอังกฤษอยู่นั้น,
บรรยากาศในห้องเรียนเป็นไปอย่างตึงเครียด ปฏิปักษ์ 2 ฝ่าย ระหว่างชายและหญิง มันคนนั้นลุกขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เออ .. ผมขอโทษทุกคนนะครับ ผมผิดเอง แต่ผมยังรักมั่น ในความเป็นสามเก้าสี่หก..ผมจะคิดให้มากขึ้น ให้ลึกซึ้ง..
แล้วมันก็ร้องไห้อย่างลูกผู้ชายอีกนาน..แสนนาน !!
เสือยิ้มมุมปาก (16 สิงหาคม 2546)