ดาวปรางแก้ว
ฝันเอ๋ยฝัน
เส้นทางนั้นอยู่ไหนหนอ
กี่วันคืน ฝืนไป กี่ใครรอ
ฝันเอ๋ยขอ ฉันฝันก่อน จะได้ไหม
ฟ้าเอ๋ยฟ้า
ฟ้าเวิ้งว้าง สุดปลายทาง มีหรือไม่
หรือเป็นฟ้า ไร้ขอบเขตขีดคั่นใคร
แล้วทำไม ใจฉันถูกกักขัง
ดาวเอ๋ยดาว
เจ้าช่างอ่อนแรง อ่อนแสงสร้าง
จะแข่งไฟ ไขว่คว้าฟ้าลำพัง
หรือ ทรุดนั่ง แหงนมองฟ้าจูบฝากดิน
เมฆเอ๋ยเมฆ
ลอยล่อง เหนือ-ใต้ ไม่เคยสิ้น
ไม่ผูกพัน ไม่ยึดมั่น ไม่ยลยิน
เรี่ยเรี่ยดินผ่านไป คล้ายเวลา
มีเพียงดาวปรางแก้วแววแวววับ
เวียนวนนับเมล็ดฝันอันเจิดจ้า
แสงหรี่ๆ ระยิบยับ เมื่อกลับมา
จากฟากฟ้า อีกฝั่งฟากที่พรากนาน
เป็นปรางแก้วแววใสเพราะใฝ่ฝัน
ถึงวีระวรรณอันพิลาศอย่างอาจหาญ
จะเป็นดาววาววับอยู่นับนาน
เมื่อบรรณพิภพประสบงานวรรณศิลป์
ขอเพียงดาวปรางแก้วฉายแววกล้า
อย่าอ่อนแรงแกร่งกล้า อย่าสูญสิ้น
ฝันเอ๋ยฝัน ฝันนั้น จักพลันได้ยิน
เมื่อเจ้าผินพักร่าง บนทางเท้า
ฝันเอ๋ยฝัน
มาถึงวัน ต้องเดินทางอย่างร้อนเร่า
ฝากฟ้าเอ๋ย โปรดช่วยเผย พอเลาๆ
ปรางแก้วเยาวัยนัก ช่วยชักพา
ให้ดาวพร่าง สว่างหวังเคียงปรางแก้ว
ส่องใจแผ่วผ่องใสดลใจกล้า
เส้นทางฝันวรรณกวีมีราคา
เบิกฟากฟ้า แล้วฝากฝัน วรรณศิลป์
ดาวน้อยเอ๋ย พี่ขอฝากปรางแก้ว
พรุ่งนี้แล้ว เจ้าจะไปในทุกถิ่น
ยลโฉมโลกกว้างๆ กางปีกบิน
พรุ่งนี้สิ้น จะฝากฝันกับฟากฟ้า
ดาวปรางแก้ว เอ๋ย
ก่อนรุ่งราง นั่งเฉลยอย่ารอช้า
นอกจากฝันวรรณกรรม ใครนำพา
เคียงกายกล้า เคียงใจกานต์ เคียงฝันเธอ
(อูหมาด นาวารินทร์) http://www.9dern.com/poet/pot0091.htm