การหายไปของบอล (เรื่องสั้น)
ดวงตะวันสีแดงซ่อนอยู่เบื้องหลังม่านควันของโรงงานอุตสาหกรรมส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล ยิ่งวันไหนฝนตก กลิ่นเหม็นของควันโรงงานที่ตั้งอยู่ดาษดื่นแถบนี้จะเหม็นเป็นพิเศษ ย่านบ้านขอมจึงคราคร่ำไปด้วยคนงานหลากเชื้อชาติที่หลั่งไหลกันเข้ามาหางานทำแถวมหาชัย
ยามเช้าจะเห็นพวกเขาเดินเป็นกลุ่มหรือบางทีอาจนั่งเบียดเสียดกันบนรถโดยสารขนาดใหญ่พูดภาษามอญ ภาษาพม่าโขมงโฉงเฉง บางคนก็ปั่นจักรยาน คนงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงงานเหล็ก โรงงานพลาสติก โรงงานเซรามิก โรงงานผลิตสารเคมี และโรงงานทำปลาที่มีมากกว่าโรงงานชนิดอื่น
ข้ามไปอีกฟากหนึ่งของทางรถไฟจะเห็นวัดบ้านขอมชัดเจน วัดที่มีเกจิอาจารย์ดังในอดีตและได้ข่าวว่าเร็วๆ นี้จะสร้างพระจตุคามรามเทพอีกด้วย วัดบ้านขอมติดกับสายน้ำที่เชื่อมโยงไปสู่แม่น้ำท่าจีน ถัดไปไม่ไกลนักก็เป็นท่าฉลอม นอกจากนั้นแถวบ้านขอมยังมีฝูงลิงที่อาศัยอยู่ข้างริมทางรถไฟอีกด้วย มันเป็นฝูงลิงที่อยู่กันกระจัดกระจาย
เมื่อโรงงานลุกคืบป่าเข้ามาพวกมันก็พยายามถอยร่นไปหาป่าแห่งใหม่ โชคดีที่ริมทางรถไฟบ้านขอมนั้นยังมีต้นไม้บ้างซึ่งป่าส่วนใหญ่จะเป็นดงต้นจากหนาทึบ คนที่ขับรถผ่านไปมามักจอดรถให้อาหารหรือยืนดูพฤติกรรมแปลกๆ ของพวกมัน ซึ่งพวกมันอาจเป็นฝูงสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่และมีทีท่าว่าป่าจะถูกถมที่ทำเป็นโรงงานอีก ถนนบางสายที่ตัดผ่านบ้านขอมไปนั้น ก็เป็นถนนสายอันตรายในยามค่ำคืน ฝูงโจรชุกชุม ทั้งปล้นทรัพย์และฆ่า มีคนตายบ่อยๆ และเสียงพระสวดศพที่วัดบ้านขอมนั้นมักแว่วไหวผสมผสานมากับกลิ่นเหม็นของโรงงาน
ถ้าคืนไหนโชคดีเราอาจได้ยินเสียงปืน และถ้าโชคดีไปกว่านั้นเราอาจได้อ่านข่าวอาชญากรรมตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เกิดขึ้นแถวๆ บ้านขอม นอกจากนั้นยามดึกยังมีพวกเด็กหนุ่มที่ชอบใช้เส้นทางสายนี้แข่งรถมอเตอร์ไซค์ เสียงดังรบกวนชาวบ้าน นี่คือส่วนหนึ่งของบ้านขอม หมู่บ้านที่มีผู้คนหลากเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน
วันที่บอลหายไปนั้นผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์ เราทุกคนคุ้นเคยและรู้จักกับบอลมานาน โดยเฉพาะทุกเย็นของวันเสาร์-อาทิตย์เราจะเจอกันเป็นประจำ บอลเป็นเพื่อนที่ดีไม่ว่าใครจะทำอะไรบอลไม่เคยตอบโต้หรือร้องด่า ได้แต่นิ่งสงบเหมือนทุกครั้ง นอกจากนั้นบอลยังเป็นตัวเชื่อมโยงให้เราได้รู้จักกับคนอื่นๆ ถ้าหากไม่มีบอลพวกเราอาจเป็นเพียงคนแปลกหน้าระหว่างกัน บอลทำให้เรารู้จักเพื่อนมากขึ้น แถวๆ บ้านขอมผมจึงรู้จักเพื่อนหลายคน เด็กหนุ่มในหมู่บ้าน คนงานก่อสร้าง คนงานในโรงงาน เด็กนักเรียน รวมไปถึงคนพม่า,มอญ
เราจะเจอบอลไหม ผมเอ่ยถามพี่ศักดิ์ ชายผู้สนิทสนมกับบอลมากที่สุด ใบหน้าของพี่ศักดิ์ดูเหมือนมีแววกังวลและเป็นห่วงบอลมากกว่าใคร
ไม่รู้สิ นี่ก็ใกล้มืดแล้ว
พี่ศักดิ์ยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าเพ่งมองเข้าไปในป่ารกทึบนั่น กลุ่มชายฉกรรจ์อีกห้าหกคนยังคงยืนกระจายกันออกไปตามแนวป่า ทุกคนต่างอยู่ในอาการหอบเหนื่อยและเหงื่อท่วมตัวด้วยกันทั้งนั้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งหายเข้าไปในป่ายังไม่ออกมา ได้ยินเสียงย่ำเหยียบกิ่งไม้หักโครมคราม เสียงย่ำไปบนหญ้า เสียงร้องตะโกนของใครบางคน เหล่าผู้ค้นหาเริ่มเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ
ดวงตะวันกลมโตสีแดงใกล้ลับแสงอยู่หลังม่านควันโรงงานลอยโขมงขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงรถไฟแล่นบดรางเหล็กดังเสียดแก้วหูมาพร้อมเสียงหวูดที่โอดครวญราวสัตว์บาดเจ็บวิ่งผ่านไปยังตัวเมืองมหาชัย ในความขมุกขมัวของบรรยากาศยามเย็นฝูงยุงจำนวนมากบินตอมหัวพวกเราทุกคน เสียงใครบางคนร้องด่ายุงดังแว่วมาจากอีกฝั่งหนึ่งของป่า
เจอมั๊ย
ยังไม่เจอ
เดินลึกเข้าไปอีก การร้องถามโต้ตอบกันดังมาเป็นระยะ
รู้ไหมป่าแถบนี้เคยมีคนเอาศพมาทิ้ง อยู่ๆ พี่ศักดิ์ก็พูดเรื่องศพขึ้นมา ขณะที่เราแหวกตัวเข้าไปในป่า
หมาตายหรือพี่ ผมถามย้อนกลับไปเพื่อไม่ต้องการให้เป็นไปอย่างที่ตนเองคิดเอาไว้
คน คนเว้ย ผู้หญิง
เป็นไรตาย ผมรู้สึกเย็นวูบไปทั้งตัว
ถูกข่มขืนแล้วฆ่าปาดคอ พี่ศักดิ์หันมามองผมด้วยสายตาเย็นชาราวกับว่าเป็นคนลงมือฆ่าผู้หญิงคนนั้นเสียเอง แถวๆ นี้แหละ วันที่คนเก็บขยะมาพบศพ กูก็มาดู ศพบวมพองขึ้นอืดเหม็นฉิบหาย คนมามุงดูเต็มไปหมด
ตำรวจจับคนร้ายได้หรือเปล่าพี่
ถึงป่านนี้ยังไม่มีวี่แว่วเลย เกือบปีแล้ว ไม่ได้อ่านข่าวเรอะ หนังสือพิมพ์ลงกันหลายวัน หน้าหนึ่งเสียด้วย
มันนานแล้วผมจำไม่ได้หรอก รู้แต่ว่าแถวสมุทรสาครเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมต้นๆ ของประเทศ
มันแน่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าใครมาจากไหนบ้าง ร้อยพ่อพันแม่ ทั้งพวกเรือตังเก ทั้งคนงานในโรงงาน คนต่างด้าวก็เพียบ ระวังตัวหน่อยแล้วกันไปไหนดึกๆ ดื่นๆ ทางที่ดีอย่าออกไปไหนเลยดีกว่า พวกนี้มันไม่ใช่คนแล้วล่ะ
แล้ววันนี้เราจะเจอบอลหรือเปล่าพี่
ยังไม่รู้ เสียงของพี่ศักดิ์แผ่วโหย ผมเองก็พลอยกังวลไปด้วย ถ้าหากหาบอลไม่เจอพวกเราทุกคนคงเสียใจไม่น้อยไปกว่ากัน
อยู่ๆ ผมก็รู้สึกเจ็บแปลบที่บริเวณแขนซ้าย หันไปมองดูอีกทีเลือดไหลซึมออกมา แขนเสื้อยังถูกหนามของต้นไม้เกี่ยวติดเอาไว้ แถมเท้าตกลงไปในหล่มโคลนสีดำสกปรกมันอาจเป็นเส้นทางสายลับที่พวกโรงงานแอบระบายน้ำเสียผ่านป่าแห่งนี้ ผมยกเท้าขึ้นจากโคลนกลิ่นเหม็นหึ่งยังติดอยู่ที่รองเท้า ปลดหนามออกจากเสื้อ ก้าวเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง พยายามสอดส่ายสายตาหาบอล บอลอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในป่าแห่งนี้ ได้ยินเสียงตะโกนถามกันเป็นระยะๆ
เจอบอลมั๊ย และเสียงตอบกลับมายังเหมือนเดิม ยังไม่เจอ
ความมืดโรยตัวเข้มขึ้น ป่าทั้งป่ายิ่งดูน่ากลัวในความสลัวลางต้นไม้ช่างคล้ายปีศาจร้ายสำแดงตน ฝูงลิงส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว มันพากันขย่มกิ่งไม้และจ้องมองผู้บุกรุกอาณาเขตของพวกมันด้วยดวงตาอาฆาต จ่าฝูงของพวกมันอยู่รั้งท้ายขบวนแยกเคี้ยวคมกริบอวดเหงือกสีแดง ขย่มกิ่งไม้ใส่พวกเรา ลิงตัวอื่นๆ กระโดดไปตามกิ่งไม้แล้วเงียบหายเข้าไปในป่าด้านลึกสุด ผมจ้องมองดูลิงตัวนั้นซึ่งมันมีขนาดใหญ่กว่าลิงตัวอื่นๆ ร่างกายของมันกำยำปราดเปรียว แต่มันคงขย่มกิ่งไม้ได้อีกไม่นานนัก เมื่อใครบางคนขว้างก้อนหินเข้าใส่มัน
ไปให้พ้นอ้ายลิงบ้า อีกหน่อยเถอะมึง กูจะบอกเจ้าของโรงงานจับพวกมึงไปทำงานในโรงงานเสียให้หมด ผมได้ยินหัวเราะของหลายๆ คน เมื่อเห็นลิงกระโดดหายลับไป
ถ้ามันทำงานในโรงงานได้ มีหวังพวกมึงกับกูตกงานกันหมด
เฮ้ยไม่ขึ้นไปบนต้นไม้เหมือนลิงบ้างล่ะวะ เผื่อมองเห็นบอล
เออใช่ ก่อนมันจะมืดไปมากกว่านี้
เราต้องหาบอลให้เจอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบอลเราต้องหาให้เจอ
หวังว่ามันคงไม่เป็นอะไร
พี่ศักดิ์ยังคงอาสาปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้ ค่อยๆ เหยียบไปบนกิ่งไม้ที่สั่นเทิ้ม มือก็เกี่ยวกิ่งไม้ที่อยู่สูงกว่าเอาไว้แน่น เขยิบเท้าออกห่างลำต้นไปทีละนิด จนกระทั่งอยู่ปลายกิ่งไม้
ระวังลิงตัวเมียมันเข้าใจผิดนะโว้ย คิดว่ามึงเป็นลิงตัวผู้เดี๋ยวได้เปลี่ยนจ่าฝูงกันวุ่น
ห่า! กูไม่ใช่ลิง ทุกคนมารวมตัวกันใต้ต้นไม้ เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน รองเท้ามีคราบโคลนสีดำสกปรกติดอยู่
ถ้าไม่เจอเห็นทีต้องกลับแล้วล่ะ
ใช่มันใกล้มืดเต็มทีแล้ว
ไม่น่าเลย
ผมได้แต่ยืนนิ่งฟังและคิดไปว่าพวกเราคงใกล้เจอบอลเต็มทีแล้ว ได้แต่ภาวนาว่าบอลคงไม่เป็นอะไร
เจอแล้วๆ พี่ศักดิ์ตะโกนลงมา ขย่มกิ่งไม้เหมือนลิงหวงถิ่น
อยู่ตรงโน้น แกชี้มือชี้ไม้
ไอ้ยอดมึงต้องรับผิดชอบ
เออ เดี๋ยวกูเข้าไปเอง
ยอดบุกเข้าไปในป่าเสียงย่ำสวบสาบ แล้วเขาก็กลับมาพร้อมบอล พวกเราต่างยิ้มให้กัน พี่ศักดิ์กระโดดลงมาจากต้นไม้ ดวงตาฉายแววรื่นเริง พวกเราค่อยๆ บุกกลับออกมาทางเดิม จนกระทั่งมายืนอยู่กลางลานโล่งของสนามทรายข้างโรงงาน
โชคดีที่บอลไม่เจอหนามทิ่มเอาเหมือนลูกที่แล้ว
ใช่ ลูกก่อนกูซื้อมาห้าร้อย เตะได้วันเดียวหนามทิ่มต้องทิ้ง โคตรเสียดาย
พรุ่งนี้ตอนเย็นค่อยเจอกัน ไอ้ยอดมึงอย่าเตะแบบนี้อีกนะเว้ย กูขี้เกียจบุกป่า
ยอดหันมายิ้ม พรุ่งนี้กูจะเตะให้เข้าไปลึกกว่านี้
ทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน โชคดีการหายไปของบอลในครั้งนี้ไม่ยาวนานเหมือนครั้งที่แล้ว ตอนเย็นของวันพรุ่งนี้เราจะได้เตะบอลอีกครั้งในสนามทรายริมป่าแห่งนี้ มันเป็นนัดสำคัญระดับชาติเสียด้วยสิ เราแบ่งทีมไทยเล่นกับพวกพม่า ที่สำคัญเราไม่อาจขาดบอลได้...