คือชีพจรอันก่อนเคย
---ต่อจากวันก่อนโน้นนนนนน......นะจ๊ะ---
บางทีโลกวัฒนา ไม่น่ารัก
ถ้าใจจักเหิมแห่แต่โมหันต์
ถ้าเจ้ามุ่งกอบโกยโดยมิปัน
อิ่มเจ้านั้นฤๅจะนำความภิรมย์
พ่อแม่เจ้าบอกเจ้าเป็นเค้าย่าง
สู่สายทางบริโภคอันโลกสม
แต่บางสิ่งซึ่งสะพรั่งแต่งสังคม
ยังเงื่อนปมงำปิดจนมิดใจ
ยุคของเฒ่า-เหล่าแก่คนแต่ก่อน
ชีพจรชนบทเคยสดใส
พ่อแม่เจ้าอาจจะหลง คงลืมนัย
อีกด้านโลกละไมในคืนวัน
เรามีโลกทรยุคที่ทุกข์ยาก
ก็มีฟากโลกฟ่องระรองฝัน
เรามียามย่ำแย่ซึ่งแผ่ทัณฑ์
ก็มียามสุขสันต์กลั่นจากทรวง
พ่อแม่เจ้ามิบอกบ้างดอกหรือ
ว่าโลกเฒ่าที่ระบือคือรักหวง
แห่งเนื้อใจใสชื่นระรื่นดวง
อันจำหลักถักห้วงช่วงเวลา
อาจเป็นบ้านชนบทแสนอดอยาก
แต่น้ำใจไหลกรากลงหลากกล้า
อาจแร้นแค้นฝืดเคืองเรื่องเงินตรา
แต่รุ่มรวยคุณค่าศรัทธาคน
อาจเป็นทุ่งเถื่อนทางรกร้างถิ่น
แต่เปี่ยมสินดินฟ้าอ่าอวยผล
อาจกันดารมืดดำมิดตำบล
แต่เปี่ยมล้นธรรมชาติพิลาสราย
อาจมิเห็นตึกตั้งขึ้นบังฟ้า
แต่นภาเห็นพร่างกว้างขยาย
อาจไม่มีแอร์ลมพรมระบาย
แต่มีพายสายลมพรมระริน
อาจไม่มีคนเก่งนักเลงค้า
แต่มีค่ากูลเกื้อเอื้อถวิล
อาจไม่มีคนเปรื่องเรื่องกักกิน
แต่มีปวงดวงจินต์ที่แจกปันฯ
เมื่อรับเอาวัฒนามาอิ่มสุข
จึงชีพยุคชนบทก็ลดหลั่น
เมื่อวัตถุลุนำเป็นสำคัญ
ย่อมคืนวันจิตนิยมก็ล่มเลือน
พ่อแม่เจ้ามิบอกบ้างดอกหรือ
ว่ารากเหง้าเจ้าฤๅคือทุ่งเถื่อน
เมื่อโลกโตจำเริญตั้งก็บังเบือน
ให้ฝ้าเฟือนชีพจรอันอ่อนโยนฯ
(โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)