เรื่องสั้น ญาติ

by เดอะแหลม @2 ส.ค.50 11.10 ( IP : 203...129 ) | Tags : กระดานข่าว

เมื่อสี่ปีที่แล้ว ญาติของพ่อเดินทางมาจากจังหวัดเชียงรายมาพร้อมความทุกข์เนื้อร้อนใจ มาพร้อมปัญหาที่สะสมมาจากถิ่นเกิดและมาพร้อมแววตาที่ฉาบความเศร้ารันทด หลายครั้งเหลือเกินที่ผมเห็นญาติของพ่อเดินทางมาถึงชุมพรบ้านเกิดของผมด้วยเรื่องราวเดียวกันนี้ ไม่มีใครนำความสุขความสมหวังมามอบให้กับพ่อ

ดูเหมือนพวกเขาจะคิดถึงพ่อก็ต่อเมื่อมีปัญหาทับถมจนยากจะแก้ พ่อไม่เคยขับไล่ไสส่งใครโดยเฉพาะญาติของพ่อ พ่อโอบรับและปลอบขวัญให้พวกเขาคลายทุกข์ ทั้งๆ ที่ตัวพ่อเองนั้นมีปัญหามากมายอยู่แล้ว แต่พ่อก็ไม่เคยเล่าปัญหานั้นให้ใครฟัง ผมไม่เคยได้ยินพ่อพร่ำบ่นท้อแท้ต่ออุปสรรค พ่อจะยิ้มรับปัญหาทุกอย่างด้วยแววตาที่เด็ดเดี่ยว

แต่ตอนนี้ปัญหาเหล่านั้นกลับทำให้พ่อเปลี่ยนไป แววตาของพ่อเศร้าซึม ผมได้ยินปัญหาที่พรั่งพรูออกมาจากปากของพ่อก็ตอนที่พ่อเมาเท่านั้น ช่างเป็นความบังเอิญเหลือเกินที่ผมเห็นพ่ออาละวาดหนัก ทั้งๆ ที่พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมเห็นใจพ่อแต่ไร้ถ้อยคำที่จะปลอบโยน บางทีผมควรจะพูดอะไรบ้างในฐานะที่ผมเป็นลูกชายคนโตของบ้าน แต่สิ่งเดียวที่ผมทำได้ในตอนนี้คือนิ่งเงียบและขบคิดที่จะแก้ปัญหานี้เพียงลำพัง

เมื่อสี่ปีที่แล้ว ลุงวาดและป้าจ่อยได้รับความกรุณาจากพ่อเหมือนญาติคนอื่นที่พ่อเคยช่วยเหลือ พ่อมีที่ทำกินว่างเว้นจากการปลูกพืชผักอยู่แปลงหนึ่งมีเนื้อที่ 2 ไร่กับอีก 1 งาน มันเป็นผืนดินที่ถูกล้อมรอบด้วยคลองน้ำจากทุกด้าน และเป็นที่ๆ เหมาะต่อการเพาะปลูกดีกว่าปล่อยให้หญ้าขึ้นครอบครองผืนดิน พ่ออนุญาติให้ลุงวาดและป้าจ่อยเข้าอาศัยที่ดินทำกิน โดยที่ญาติของพ่อยินดีจะจ่ายเป็นค่าเช่าทำกินจนกว่าพวกเขาจะจากไปสู่แผ่นดินอื่นหรืออาจคืนกลับสู่บ้านเกิดในวันหนึ่งข้างหน้า

วันนั้นผมเห็นความกลมเกลียวที่เกิดขึ้น เห็นความรักในเครือญาติที่มีต่อกัน
พวกเขาปลูกสร้างบ้านง่ายๆ ใกล้ริมคลอง จากไม้ไผ่ที่มีดาษดื่นในป่าและมุงด้วยหญ้าคาหาเกี่ยวได้ง่ายดายในแถบนี้ พ่อยังคงอาสาไปช่วยปลูกสร้างอย่างเต็มใจ ตั้งแต่ฝังเสาจนกระทั่งมุงหลังคา บ่อยครั้งที่พ่อไปกินไปเมาที่นั่น และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกพืช ดินฟ้าอากาศ ให้คำแนะนำไปถึงร้านขายปุ๋ยขายยาทางด้านการเกษตร ว่าควรใช้ปุ๋ยอะไรต่อพืชชนิดไหน ท่ามแสงตะเกียงแววตาของพวกเขาเอ่ยคำขอบคุณและท่ามแสงดาวของคืนค่ำในหุบเขาอบอุ่นไปด้วยไมตรีจิตอันดีระหว่างกัน

ผมเคยแวะเวียนไปบ้านของลุงวาดและป้าจ่อยในครั้งที่กลับไปเยี่ยมบ้านเท่านั้น ผมเห็นพวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุขบนผืนดินที่พ่อให้อาศัย เฝ้ามองการเจริญเติบโตของต้นพืชที่พวกเขาได้ช่วยกันหว่านเมล็ดพันธุ์ของมันลงไปบนดินประคบประหงมไม่ต่างทารกเกิดใหม่

ถึงแม้ว่าจะเงียบเหงาในไร่สวนที่ถูกโอบล้อมไปด้วยสวนยางพารา สวนกาแฟ สวนทุเรียน สวนอะไรต่อมิสวนอะไรซึ่งขึ้นเขียว แต่ความงามของทัศนียภาพที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมานั้นอาจช่วยปลอบโยนอยู่ในที บางช่วงที่ดอกกาแฟบานขาวสะพรั่งเต็มกิ่งก้านนั้น ก็จะได้กลิ่นหอมฉุนคล้ายดอกมะลิลอยล่องมาตามสายลม และบางคราอาจได้ยินเสียงกระซิบแผ่วจากน้ำในคลองไหลเอ่อท้นตลิ่งในคราวฝนตกหนัก

บางช่วงฟ้าโล่งเตียนเมฆอาจพบโดมดาวสุกสกาวเต็มน่านฟ้าและบางคราตื่นเช้าอาจพบทะเลหมอกหยอกเย้ากับขุนเขาราวคนรักที่มิอาจพรากจากกัน

แม้พืชผักตามริมสวนอาทิเช่น ยอดผักหวาน ต้นชะอม ดอกแค ใบมะกรูด มะนาว ฯลฯ พวกเขามีสิทธิ์จะเก็บกินได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งปลาที่พ่อปล่อยเอาไว้ในคลองก็สามารถเอามาต้มยำทำกิน รวมทั้งผลไม้อื่นๆ ในสวนตามช่วงฤดูกาลพ่อก็ไม่เคยห่วง ไม่เคยห้าม

แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปอะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนตามรวมทั้งหัวใจของผู้คนระแวกหมู่บ้าน ภาวะเศรษฐกิจรุดหน้า ราคายางเพิ่มสูงขึ้น ราคากาแฟก็ถีบตัวสูงขึ้นจากปีก่อน แต่น่าเสียดายที่ว่าพอปีที่มีราคาแพง ชาวสวนกาแฟส่วนใหญ่ต้องพบกับภาวะแห้งแล้ง หมากผลก็เลยได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยเฉพาะในสวนของพ่อ ชาวบ้านเองมีการแข่งขันกันสูงขึ้นไม่ว่าจะเรื่องเห่อวัตถุนิยม หรือเรื่องกู้ยืม ธกส.ไม่มีใครน้อยหน้าใคร

ผมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเครือญาติ ความรัก ความสามัคคีที่เคยมีนั้นทุกคนเริ่มไม่ให้ความสำคัญกับมันนัก การแบ่งปันกับแกงเริ่มห่างหายออกไป และทุกคนก็เริ่มจะพูดถึงญาติพี่น้องของตัวเองในทางเสียๆ หายๆ –ลูกอีนั่นมันหนีตามคนอื่นไป มันร่านเหมือนแม่มัน ---ลูกของอ้ายนั่นมันติดคุกแล้วพวกมึงรู้ไหม? ----มึงจำลูกของอ้ายคนนั้นได้ไหมวะ มันจะขายที่เอาเงินไปให้กระหรี่ อ้ายห่าพ่อของมันทำงานกว่าจะได้สวนนี้มาต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งชีวิตพอยกให้มันไม่ทันไรก็จะขายแดกเสียแล้ว

---มึงดูซี่อ้ายทิดนั่นพอแต่งงานไม่ทันไร แม่ยายก็ดิ่งตรงลงมาจะเอาลูกสาวคืนไปขายกินอีกล่ะสิท่า อีโธ่มันขายลูกกินยังกะผัก อ้างว่าพาลูกมันมาลำบาก ถุย!บ้านมันเองก็ไม่มีจะแดกดีแต่ขายผืนนาน้อยของลูกกิน---ลูกของอีนั่นไปทำงานไม่ทันไรก็ไปเอาเมียเขาเสียแล้วตอนนี้หนีหัวซุกหัวซุน เขาจะฆ่าหัวมันนะซี่ ส่งให้เรียนมันก็ไม่ยอมเรียนแต่เรื่องนักเลงไม่มีใครต้องการให้มันไปเรียน เสือกเรียนเก่งเหลือเกิน นี่นะไม่รู้มันจะตายโหงเมื่อไหร่ ตายได้ก็ดีพ่อแม่มันจะได้ไม่ต้องไปขึ้นโรงพักบ่อยๆ

ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ทุกครั้งที่กลับบ้านมักจะได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ ในวงเหล้าหรือแม้กระทั่งในวงข้าว ดูเหมือนเพื่อนที่ผมเคยสนิทสนมก็พลอยเปลี่ยนตามภาวะของยุคเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะไม่ให้มีคนจนเหลืออยู่ในประเทศ!  ผมยังคงได้แต่รับฟังและนิ่งคิด ไม่เข้าข้างใครและไม่ขัดคำพูดของใคร เพราะผมเองอยู่ในหมู่บ้านปีหนึ่งไม่ถึง 20 วัน ก็ต้องจากมาทำงานที่สมุทรสาคร จนกระทั่งต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ่อโทรมาตามให้ผมกลับลงไปบ้านด้วยเรื่องที่ดิน พ่อจะยกที่ดินแปลงหนึ่งให้กับผม ผมคิดว่ามันคงไม่มีอะไรมากแค่เราไปอ้างสิทธิ์ครอบครองที่ดินแปลงที่พ่อยกให้ ทุกอย่างก็แล้วจบ แต่…เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสียแล้วกลับยุ่งยากอย่างไม่น่าเชื่อ

ปัญหามันเกิดจากญาติของพ่อคือลุงวาดและป้าจ่อยได้อ้างกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินแปลงที่พ่อให้อาศัยทำกิน ด้วยการกระซิบแต่งเสริมเพิ่มคำลงไปว่าที่ดินแปลงที่อยู่อาศัยมาจนถึงปัจจุบันนั้นได้ซื้อขายกับพ่อเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปพูดกับใครป้าจ่อยก็จะเอาคำเหล่านี้ไปกระซิบบอกหลายคนเริ่มคล้อยตามและเชื่ออย่างนั้น ทุกอย่างเริ่มพลิกกลับไปสู่อีกด้านหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อจากคำกระซิบหนึ่งสู่คำกระซิบหนึ่งของชาวบ้านจนกระทั่งมาเข้าหูของพ่อ พ่อออกมายืนยันว่าไม่ได้ขายที่แปลงนี้แต่จะเก็บเอาไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลาน หลายคนหาว่าพ่อโกงญาติและเริ่มเข้าข้างถ้อยคำของป้าจ่อย ถ้อยคำที่เจือเอาไว้ด้วยความน่าเห็นอกเห็นใจ และแววตาฉาบความเศร้ารันทดเหมือนวันแรกที่มาหาพ่อ

ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับเงินทอง เพียงวันแรกที่ผมมาถึงบ้านเท่านั้นบุคคลที่สามก็มาปรากฏตัวขึ้นเพื่อพูดคุยเรื่องที่ดิน! ที่ดินซึ่งเป็นมรดกสืบต่อไปสู่ลูกหลาน ผมเห็นแววตาเจ็บช้ำของพ่อเด่นชัด เห็นความผิดหวังและกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ในที แต่พ่อยังเหยียดยิ้มออกมาอย่างที่พ่อเคยเป็น

ที่ดินแปลงที่พ่อจะยกให้ผมนั้นถูกลุงวาดและป้าจ่อยแอบขายไปอย่างลับๆให้กับบุคคลที่สาม มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหนอบนความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เขาเป็นญาติของพ่อ เป็นคนที่เคยตกระกำลำบากมาขอพักอาศัย แต่วันนี้ได้ให้บาดแผลฉกรรจ์ไว้ในใจของพ่อ…บาดแผลที่ไม่มีวันจะรักษาให้หายขาดได้

ผมเองก็แปลกใจเมื่อบุคคลที่สามบอกว่าที่แปลงนั้นจะต้องตกเป็นของเขา เพราะว่าเขามีสิทธิ์ในการถือครองเรียบร้อยแล้ว แต่พ่อไม่ยอมเพราะที่แปลงนั้นมันควรเป็นของผมเพียงผู้เดียวเท่านั้น เขาว่าถ้าอย่างนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมรู้นั่นเป็นคำขู่ของบุคคลแปลกหน้าที่แอบอ้างเข้ามาสู่ผืนดินของพ่อ ญาติของพ่อช่างเป็นคนที่ดีเสียจริงๆ ผมคิดได้เท่านั้น… แต่พ่อก็ยังยืนยันคำเดิม ไม่ว่าใครหน้าไหนไม่อาจยึดครองผืนดินที่ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำมาตลอดชีวิตเพื่อได้มาซึ่งผืนดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อ

ตอนเย็นเรานั่งกินข้าวกันเงียบๆ ผมรู้ว่าปัญหามันจะไม่ยุติง่ายๆ เสียแล้ว ผืนดินที่เคยอบอุ่นกำลังจะรุกเป็นไฟ ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้เครือญาติของพ่อไม่คิดถึงน้ำใจที่เคยได้รับ แต่คิดถึงผลกำไรที่แอบขายที่ดินของพ่อให้กับบุคคลที่สาม ผมไม่เข้าใจว่าเขาทำลงไปได้อย่างไร เพื่อนบ้านแวะเข้ามาขณะที่เรากำลังกินข้าวกัน เขาพูดคำหนึ่งโดยกล่าวถึงบุคคลที่สามว่า ---อย่าบอกเขานะว่าผมแวะมากินข้าวที่นี่ไม่งั้นเขาจะโกรธผม มันเหมือนตบหน้าพ่อ ตบหน้าทุกคนที่นั่งอยู่ในบ้าน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนจนอย่างเราถึงได้เกรงกลัวคนมีอำนาจทางการเงินที่เหนือกว่าถึงปานนี้ แม้กระทั่งกินข้าวด้วยกันยังหวาดกลัวหรือว่าเงินทองซื้อหัวใจคนได้จริงๆ

พ่อยื่นเงินให้หลานไปซื้อเหล้ามาครึ่งขวด นั่งกินกับเพื่อนบ้านผมรู้พ่อต้องการสมานความห่างเหินและหวาดกลัวนั้นด้วยถ้อยคำหลังเมามาย และหลังจากนั้นครึ่งขวดต่อมาก็ตามมาอีก พ่อย้ายสถานที่ไปนั่งกินต่อที่บ้านข้างเคียง และพ่อก็เมาขึ้นเรื่อยๆ ความหนักอกหนักใจของปัญหาเรื่องที่ดินที่พ่อต้องเก็บกลืนฝืนทนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น พลันระเบิดออกในวงเหล้านั่นเอง พ่อตะโกนก้องบ้านว่า

---ที่ดินของกูจะไม่ขายให้ใครเด็ดขาด ไม่มีวันที่กูจะยอมให้ใครหน้าไหนทั้งนั้นมาเอาผืนดินของกูไป แล้วพ่อก็พูดอีกยืดยาวทั้งๆ ที่พ่อไม่ใช่คนชอบพูด เวลาปรกติพ่อถ่อมตนและชอบพูดเป็นเชิงตลกอยู่เสมอแต่ตอนนี้พ่อเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่โทษพ่อ

การกลับบ้านของผมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว ที่ดินที่ควรเป็นของผมถูกขายไปอย่างลับๆ โดยที่พ่อไม่เคยรู้มาก่อน แต่ผมมาเพื่อเอาผืนดินแปลงนี้คืนด้วยสิทธิ์ในการถือครองที่ดินทำกินอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ในฐานะลูกชายของพ่อผู้ควรรับสิทธิ์นี้อย่างแท้จริง

คืนนั้นขณะที่แม่นั่งสวดมนต์ผมได้ยินเสียงพ่อใช้มือทุบพื้นนับครั้งไม่ถ้วน พ่อโกรธเกินกว่าจะควบคุมตัวเองได้ มันเป็นภาพที่ตัดกันอย่างรุนแรง ผมอยากร้องไห้แต่ไม่อาจอ่อนแอได้ในภาวะเช่นนี้

ผมได้ยินถ้อยคำของแม่ปลอบประโลมพ่อให้หยุดทุบพื้น ---นอนเสียเถิดพรุ่งนี้จะเป็นวันใหม่ของเรา ผืนดินของลูกก็ย่อมเป็นของลูกวันยังค่ำ เราต้องมีทางเอามันกลับคืนมาได้ และผมก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าพ่อหลับตอนไหน แต่รู้ว่าคืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืน

ตอนเช้าผมเข้าไปจังหวัดเพื่อยื่นใบกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดินที่ตกสำรวจไปในครั้งก่อน ผมนั่งให้เจ้าหน้าที่นิติกรสอบเรื่องการถือครองที่ดิน ตอบทุกคำถามนั้นไปเรื่อยๆ มองแปลนของที่ดิน 2 ไร่กับ 1 งาน ที่ถูกวาดอยู่ในแผ่นกระดาษนั้น เจ้าหน้าที่นิติกรคงไม่รู้หรอกว่าผืนดินเล็กๆ นี้กำลังทำให้เครือญาติแตกแยกกันในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าหรือบางทีมันอาจแตกตั้งแต่เขาแอบขายที่ของพ่อแล้ว…

เมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จผมเซ็นชื่อลงไปบนแผ่นกระดาษ และรู้ดีแก่ใจว่ามันควรเป็นผืนดินของผม ผืนดินที่ไม่มีวันจะให้ใครฉกฉวยเอาไปโดยง่าย ไม่ว่าใครทั้งนั้น จะญาติที่พ่อรักหรือบุคคลที่สามผู้มีอำนาจทางการเงิน ผมไม่กลัววันพรุ่งนี้ตามคำที่เขาขู่ อยากรู้เหมือนกันว่าวันพรุ่งนี้ใครจะมาทวงสิทธิ์ผืนดินแปลงนี้อีก ผมบอกกับพ่อ--ผืนดินของเราย่อมเป็นของเราวันยังค่ำ ผมยืนยันด้วยการกดหมายเลขโทรศัพท์ต่อไปถึงบุคคลที่สี่ผู้ที่จะมาทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องขาวสะอาดเหมือนเดิม เขาว่า---ฟ้องขับไล่ไปเลย และยินดีจะให้ความช่วยเหลือ

พ่อนั่งเงียบมาตลอดเส้นทางจากจังหวัดมาถึงบ้าน ผมรู้พ่อเองไม่สบายใจนักเมื่อผมเล่าถึงวิธีการที่จะเอาผืนดินคืนกลับมาเพราะพ่อรักญาติพี่น้องทุกคนไม่เปลี่ยนแปลง แต่พ่อไม่เคยรู้หรอกว่าญาติของพ่อเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดไหน เชื่อเถอะพ่อไม่เคยรู้!!!

Comment #1
วรภ วรภา (Not Member)
Posted @3 ส.ค.50 15.56 ip : 61...13

เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า พี่ชายไปทำงานในแดนไกล  เลยให้ครอบครัวของน้องชายช่วยดูแลเครื่องใช้ของตนโดยขนไปฝากไว้ที่บ้านน้อง  ขณะทำงาน มื่อกลับมาแต่ละทีก็จะซื้อเครื่องใช้เพิ่มเติมอยู่เสมอ  และอนุญาตให้ครอบครัวของน้องใช้ได้เต็มที่ เวลาผ่านไปหลายปี  พี่ชายคิดจะกลับมาอยู่บ้าน  จึงขอเครื่องใช้ทั้งหมดคืน  แต่ครอบครัวของน้องไม่ยอม  ยึดของทั้งหมดเป็นของตน  ยอมผิดใจกับพี่ชาย.... คล้ายๆ กันเนาะแหลมเนาะ

Comment #2
วรภ วรภา (Not Member)
Posted @3 ส.ค.50 15.57 ip : 61...13

เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า พี่ชายไปทำงานในแดนไกล  เลยให้ครอบครัวของน้องชายช่วยดูแลเครื่องใช้ของตนโดยขนไปฝากไว้ที่บ้านน้อง  ขณะทำงาน มื่อกลับมาแต่ละทีก็จะซื้อเครื่องใช้เพิ่มเติมอยู่เสมอ  และอนุญาตให้ครอบครัวของน้องใช้ได้เต็มที่ เวลาผ่านไปหลายปี  พี่ชายคิดจะกลับมาอยู่บ้าน  จึงขอเครื่องใช้ทั้งหมดคืน  แต่ครอบครัวของน้องไม่ยอม  ยึดของทั้งหมดเป็นของตน  ยอมผิดใจกับพี่ชาย.... คล้ายๆ กันเนาะแหลมเนาะ

Comment #3
Posted @5 ส.ค.50 16.30 ip : 125...119

กรณีเบสิคเลยล่ะแบบนี้น่ะ  ถมถืดไปที่เป็นปัญหา

และไม่ใช่เพียงเพราะทุนนิยมเพียงเท่านั้น  ไม่ว่าเราจะเคยอยู่ใต้การปกครองและสภาพเศรษฐกิจอย่างไร  มันก็เป็นปัญหามาโดยตลอด

สำนึกบุญคุณคน  ลงว่าไม่มีละก็  ชาตินี้ก็ไม่มีเจริญ

ตัวอย่างง่ายๆ เพื่อนเตี่ยตอนหลายสิบปีโน้นตกต่ำ มาขอให้เตี่ยช่วย ขอข้าวกิน เตี่ยช่วยทุกอย่าง สอนการทำกิน เซ้งร้านให้ ให้เงินทุนจำนวนหนึ่ง ส่งแม่ไปช่วยเขาขายของแม้แม่จะเจ็บท้องแรกก็ตาม


ที่สุดเขารวย


และไม่เห็นเตี่ยอยู่ในสายตามาตลอดจนลูกหลานเหลนโหลนของเขา


สันดานเนรคุณคนมันเหมือนเชื้อโรค สกปรก และสืบทอดเชื้อสายไม่มีวันสิ้น


// ฮึดฮัดๆขัดใจ

Comment #4
ผีเสื้อปีกบางฯ (Not Member)
Posted @6 ส.ค.50 6.42 ip : 203...234

เห็นด้วย  ฟ้องขับไล่ไปเลย

ให้มันรู้ซะมั่ง 

Comment #5
วรภ วรภา (Not Member)
Posted @9 ส.ค.50 11.31 ip : 61...27

ใจเยนๆๆๆๆ  น้อง..ผีเสื้อฯ... เออ..ว่าแต่จะขับไล่ใครล่ะ...แหลมเหรอ

Comment #6
สู้ ๆๆ ขอเป็นกำลังใ (Not Member)
Posted @11 ส.ค.50 11.25 ip : 61...225

สู้ ๆ  โลกนี้ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ  หาคนที่มีความยุติธรรมยากเหลือเกิน  ความยุติธรรมก็คือความไม่ยุติธรรม  ยังไงก็ขอให้สู้ ดีกว่าไม่สู้    จงรักตัวเองให้มากนะคะคุณพ่อ  รักลูกรักครอบครัวค่ะ  ญาติที่โกงเรามันไม่ใช่ญาติหรอก  ญาติร่วมโลกที่ดีมีเยอะนะคะ  ต้องสู้เพื่อความยุติธรรม (ถึงแม้จะหายากเต็มที)  คิดว่าบุคคลที่สี่เป็นผู้หยิบยื่นความยุติธรรมให้ท่านได้แน่นอน  จากที่อ่านมาค่ะ  และก็ขออวยพรให้ท่านชนะ  ขอให้คนที่โกงท่านจงพ่ายแพ้ด้วยเถอะ  ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองท่านและทุกคนในครอบครัวค่ะ  สู้ ๆๆๆๆๆ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 23 user(s)

User count is 2419455 person(s) and 10095536 hit(s) since 6 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).