ให้ทะเลมาเห่ใจ(ทะเลของคนใกล้)
1.
พริ้มตาหลับรับพร่างพรมลมทะเล
ในอ้อมหาดลมเห่ทะเลหอม
พร่างใบสนหล่นพราวราวพยอม
มานบน้อมชมชื่นคืนนวลทราย
ยินเรื่องราวเล่าขานเมื่อกาลโน่น
ว่าคลื่นโตน้ำโตนโผนขยาย
ขย้ำขยอกยอกกลืนคืนวันวาย
เหลือส่วนซากเรี่ยรายชายฝั่งนี้
ว่าหญิงสาวร้าวรานจากบ้านนา
ก็นั่งซับน้ำตาบ่าล้นปรี
ลมโลมลูบหลังไหล่ด้วยไมตรี
เผื่อวันพรุ่งแม้นจะมีสำหรับเธอ
ยินระริกเรื่อยร่ำลำนำรัก
ที่ทอถักโลกสวยด้วยเสมอ
เนิ่นนานหนอรอฝันอันเลิศเลอ
พบที่จากยากจะเจอเธอของใจ
ท่ามลีลาฟ้าครามอร่ามฉาย
แพรสนส่ายข่ายละออล้อลมไหว
ทอแสงทองผ่องพราววาววิไล
โบกลมไล้เปลยวนหวนคะนึง
ยามเริงเล่นระลอกกระฉอกคลื่น
ยกเท้ายื่นหยอกคล้ายใกล้จะถึง
เก็บยิ้มแย้มแก้มทรายไว้คะนึง
แนบผนึกลึกซึ้งตรึงวิญญาณ
นั่น ร่องรอยแห่งเวลา ตุ๊กตาทราย
ยังคลับคลาคลับคล้ายได้คืนบ้าน
รอยเท้าเปลือยย่ำรอยทรายไว้เมื่อวาน
พอวันพรุ่งพ้นผ่านก็ร้างรอย
โปรดกระซิบอีกสิ ซอสายลม
มาเห่ห่มใจให้หายเหงาหงอย
ทุกเรื่องเล่าเร้าข้าตั้งตาคอย
พอคลาคล้อยลางเลือนเตือนติดตาม
เมื่อเหงาหงอยคอยทะเลเห่ให้หลับ
หากใจกลับหลงใหลในคำถาม
ใจจึงตื่น ตาแห่งใจก็ไหววาม
ทะเลงามกับสายลมมาห่มใจ
2.
พริ้มตาหลับรับพร่างพรมลมพราวพรู
พอรับรู้แผ่วเสียงเคียงชิดใกล้
สนสะบัดโบกกิ่งทิ้งทอดใบ
เป็นแพรพรมห่มให้ผืนทรายนวล
จึงทะเลเห่กล่อมไม่พร้อมหลับ
หากใจกลับพบงามไปตามส่วน
ดีหรือร้ายหมายความตามค่าควร
ชื่นชมชวนหวนเวลาหาทะเล
3.
มานั่งฟังสิ ที่รักข้า
ยามจากไปไกลตาคงว้าเหว่
ข้ากล่อมเกลาหัวใจให้ไกวเปล
เพื่อใจรักที่ทุ่มเทนิจนิรันดร์