เรื่องค่าย # ขอใจ
วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันตื่นเช้าเพื่อยิ้มรับแย้มแรกแห่งดวงตะวันและกำซาบกลิ่นหวานละมุนของมวลดอกไม้ ท่ามกลางวิถีแห่งความศิวิไลซ์ หลายเท้าก้าวรีบเร่งสู่เบื้องหน้า และบางเท้าเยื้องย่างประหนึ่งทวนแรงกระดิกแห่งเข็มนาฬิกา
...
วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันทำสิ่งเสมือนปกติที่พบเห็นประจำ แต่ไม่ใช่ในระยะประชิดติดขอบสนาม อย่างวันนี้ !!
ขณะเริงร่าในการกดชัตเตอร์กับเพื่อนๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ใคร-เบอร์ไม่คุ้น,ฉันคิด
รุ่นพี่ปี ๔ ในชมรมอาสาฯ กรอกเสียงเชิงบังคับมาตามสาย
เสาร์นี้ ว่างมั้ย ? พี่จะให้น้องปี ๑ ไปยืนรับบริจาคที่ฟิวเจอร์ฯ
ห๋า!! ฟิวเจอร์เหรอพี่ จะดีเหรอ หนูเขินนะพี่
ฉันมาที่นี่แทบทุกสัปดาห์ด้วยจุดประสงค์เดิมเดียว นั่นคือการสนองกิเลส ซื้อ - ซื้อ - ซื้อ เสมือนเงินจะมีค่าแค่เพียงเครื่องมือรองรับความปรารถนา แต่ครั้งนี้,,คงต้องกระโดดออกจากความเคยชิน-นั่น,ฉันคิด
พวกเราสี่คนและสหายเอ็งข้าคณะวิศวะฯอีกหกชีวิต เริ่มต้นการทำงาน ขอใจ กันเป็นครั้งแรกด้วยประโยคคลาสสิก
อาสา มศว สวัสดีค่ะ ร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างลานเอนกประสงค์ให้กับน้องๆที่โรงเรียนวัดขุนซ่อง ห้องเรียนคลองโป่ง จ.จันทบุรีนะคะ
ประโยคเดิมดังขึ้นรอบแล้วรอบเล่าจากเสียงทุ้มนุ่มแหลมสลับกันไปตามแต่วาระเหมาะสม แดดอุ่นยามเช้าย้ายมาเหนือศีรษะ เรายังยืนกันที่เดิม เริ่มครึกครื้นด้วยเสียงร้องขับคลอกีตาร์โปร่งจากหนุ่มผมยาวที่จับจองพื้นที่ใกล้กับเรา
โรงเรียนมีครูหนึ่งคน ครูผู้เสียสละตน อดทนอยู่ห่างไกลความสบาย ใช่จะวอนให้เห็นใจความสำนึกต่อเพื่อนไทย ไทยกับไทยใยแตกต่างกัน โรงเรียนของหนูอยู่ไกลไกล๊ไกล..
( โรงเรียนของหนู )
สารภาพอย่างไม่ปิดบัง,ฉันหลงรักงานค่ายอาสาฯเพราะบางวรรคอ่อนโยนจากบทเพลงนี้ เคยครุ่นคำนึงถึงภาพงดงามในพื้นที่ห่างไกล ดอยสูง หรือ ป่าเขา มิเคยสะระตะถึงความเป็นจริงในหลายๆลำดับขั้นตอน ฉันมองทุกอย่างเสมือนเทพนิยายกรีก-โรมัน หรือเพ้อไปกระทั่งการเป็นประหนึ่งนกฟีนิกซ์
แสงอาทิตย์ยังคงแข็งขันในหน้าที่ สาดส่องใบหน้าอ่อนล้าทว่าเจือด้วยระเรื่อแห่งสุข ฉันพยายามสบตา จับอารมณ์และท่วงท่าของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา บ้างหญิง บ้างชาย บ้างหม่นเศร้า บ้างสุขล้ำ และพฤติกรรมการให้ใจก็ต่างกันไป บ้างลังเล บ้างฉงนถึงการกระทำ บ้างมั่นใจ บ้างผ่านเลยแล้วจึงย้อนกลับมา บ้างทำไม่เห็น , ฉันเหนื่อยแต่ยังคงสนุกกับการมองและยิ้ม
หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง เดินตรงเข้ามาที่แถวยืนรับบริจาคของพวกเรา มองอย่างพินิจพิจารณา หยุดกึกเบื้องหน้าฉัน พูดคุยถึงความเป็นไปทั้งกระแสโลกและสิ่งสวยงามที่พึงโหยหา หล่อนกระชับมือฉันไว้ พลางเอ่ยปาก
ป้าชื่นชมการกระทำของพวกลูกนะ วัยรุ่นสมัยนี้หายากที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่น ดีแล้วลูก ดีกว่าเอาเวลาไปเสียกับการดูหนังฟังเพลง ... ตั้งใจทำนะลูก ป้าชื่นชมมากๆจริงๆ
...
..
.
ตั้ ง ใ จ ทำ น ะ ลู ก ป้ า ชื่ น ช ม ม า ก จ ริ ง ๆ ตั้ ง ใ จ ทำ น ะ ลู ก - ตั้ ง ใ จ ทำ น ะ ลู ก
.
..
...
ขณะวินาทีนั้น-ลมในหูลั่นเปรี้ยะปร๊ะ เสมือนโลกจะหยุดหมุน ประหนึ่งภาพเบื้องหน้าเป็นดอกไม้ที่มิเคยเอื้อนเอ่ยอันใด แต่ทว่าสามารถส่งกลิ่นหอมอบอวลแก่มวลโลก
ณ ตอนนั้น ธนบัตรหรือสตางค์ จะก้าวออกจากกระเป๋าคุณหรือไม่นั้น มิใช่ปัจจัยสำคัญ เพราะสิ่งที่เราได้รับจากคุณนั่นคือ ใจศรัทธา สิ่งที่เราโหยหาและต้องการให้เติมเต็มต่อกระสายลมหายใจซึ่งกระหวัดเหนี่ยวรัดชีวิตแห่งวันพรุ่ง เพียงพอแล้วสำหรับการเป็นจิ๊กซอว์ของโลกกลมๆใบนี้ เสร็จภารกิจค่ำวันนั้น,ฉันหลับไปด้วยหัวใจอิ่มสุข แว่วทำนองเพลงคุ้นเคยลอยมาจากอีกฟากฝั่งฟ้าอันไกลโพ้น...
พายุฟ้า ครืน ข่มคุกคาม เดือนลับยามแผ่นดินมืดหม่น
ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน ปลุกหัวใจปลุกคนอยู่มิวาย
(แสงดาวแห่งศรัทธา)