นิราศสุรินทร์ (1)
ขออภัยด้วยที่ว่ามันเป็นงานที่ผมเขียนเมื่อยังไม่ถึง 20 ขวบ
เพียงแต่ได้พบจึงอยากส่งมาให้อ่านกันเล่นๆ
โดยไม่ยึดสาระหรือประเด็นใดๆ
เป็นเพียงขณะหนึ่งของช่วงวัยครับ
.......ขอบคุณครับ.......
นิราศสุรินทร์
11 ตุลาคม 2535
................................................
จึงขึ้นบทนิราศสมมาดหมาย
ประจงรับจับสำนวนกระบวบวนชาย
เพื่อสืบสายศิลป์กวีให้จีรัง
ประนมกรกราบครูผู้สร้างศิลป์
ช่วยเพิ่มจินต์ภาษาพลังขลัง
เพื่อเล่าตามความนัยโดยได้ฟัง
มาแต่งตั้งต่อคำเติมสำนวน
ล่วงเพลาเลยไปจึงได้เขียน
เพราะใจเจียนโหยไห้หทัยหวน
การเดินทางออกค่ายร่ายกระบวน
เพราะเพื่อนชวนร่วมทำคิดจำใจ
เช้าอาทิตย์ ตุลาฯ มหาสวัสดิ์
ต่างเร่งจัดข้าวของ-ฟ้าผ่องใส
เว้นแต่เรากลับนอนหลับก่อนไป
ตื่นขึ้นมาเมื่อใกล้ได้เวลา
ครั้นจรดฤกษ์ เก้าโมง จึงตรงออก
อาจารย์บอกศรีศักดิ์จงรักษา
จงไปทำหน้าที่พลีศรัทธา
พร้อมคำว่า อุดมการณ์ ประสานกัน
ถึงสระบุรีมีน้าอยู่
ด้วยไม่รู้แน่นอนจึงผ่อนผัน
เคยตกปากรับคำเป็นสำคัญ
ว่าสักวันผ่านมาจะมาเยือน
ผ่านมวกเหล็กจึงตรงแวะลงพัก
ยิ่งประจักษ์คลับคล้ายละม้ายเหมือน
เคยเที่ยวชมน้ำตกสะทกเตือน
จึงชวนเพื่อนท่องเดินให้เพลินใจ
บ้างซื้อเนื้อเพื่อกันอาการหิว
บางคนหิ้วเสบียงรอหลายห่อใหญ่
ว่าด้วยหนทางยังห่างไกล
ต้องเร่งสู่จุดหมายให้ก่อนเย็น
เข้าแผ่นดินถิ่นอามาอาศัย
เป็นเมืองใหญ่ยอดสตรีมีให้เห็น
ครั้งย่าโมตรากตรำฝ่าลำเค็ญ
ป้องกันเข่นฆ่าศรัตรูผู้รุกราน
โน่นธารน้ำลำตะคองกั้นสองฟาก
แบ่งอกพรากกั้นลำแม่น้ำผ่าน
ยิ่งวิตกอกหวั่นพรั่นดวงมาน
เกรงคนรักจักพาลพิมานพัง
เพราะจากเจ้ามานานกว่าการพบ
กลัวจะจบไปนานกว่าการหวัง
หากหัวใจประวิงไม่จริงจัง
ก็เหมือนดั่งธารเลี้ยวที่เคี้ยวคด
มาถึง ปักธงชัย ว่าใครปัก
หรือคนรักปักไว้ใครกำหนด
ในหัวใจไยธงยิ่งลงลด
ธงปราชัยปรากฏหมดผืนแล้ว
บุรีรัมย์ เรื่อยไปโดยไม่หยุด
ต้องเร่งรุดเวลาตื่นตาแป๋ว
บ้างตีกลองร้องเพลงบรรเลงแนว
ชื่นชมแววธรรมชาติสะอาดงาม
เราทิ้งเมืองอึกทึกความครึกครื้น
ชมเขาดื่นดาษทิวชวนหวิวหวาม
เขียวใบไม้ หอมลม ชมฟ้าคราม
วาวแดดวามวับวิบขลิบเงาไม้
พอพระลบลดแสงแห่งการสร้าง
เราล่วงสู่ปลายทางอย่างสดใส
ความรู้สึกยินดีมีภายใน
รอวันใหม่ต้อนรับขึ้นจับงาน
นามสถาน ห้วยจริง ไร้สิ่งหลอก
ครูใหญ่บอกมีเจ้าเฝ้าสถาน
เจ้าที่แรง คนแรง แฝงตำนาน
เป็นสุสานก่อนถางสร้างโรงเรียน
ครั้นยามสองมองดาวพริบพราวฟ้า
มองจันทรานวลสร้างมือพลางเขียน
เป็นบันทึกเส้นร่างต่างทางเกวียน
กับความรัก บทเรียน เขียนอย่างเคย
ล่วงเวลาผ่านไปได้สักพัก
ต้องรีบหักหัวใจให้วางเฉย
เสียงโหยหวนหอนมา...ไม่น่าเลย
ต่างคนเกยขาไกว่ไปใกล้กัน