นิราศสุรินทร์ (2)
12 ตุลาคม 2535
แล้วสางก็ผ่านตาฟ้าผ่องแผ้ว ต้องเร่งแล้วร่วมงานสมานฉันท์ ชายสู้หนัก หญิงแบ่งแต่งงานบรรณ ใครเสร็จพลันเอื้อช่วยด้วยไมตรี เรากับเพื่อนร่วมห้ามาขุดหลุม แต่งขอบมุมงามล้วนให้ถ้วนถี่ พี่เข้ามาบอกไว้ไม่พอดี เพราะไม่มีที่ว่างวางเสาดึง ต้องให้ลึกกว่านี้ กว่าที่เห็น ผูกเหล็กเส้นเรียงวางต้องกว้างถึง เสาสิบสองเมตรวางต้องตั้งตึง หลุมต้องลึกจริงจึงจะดึงพอ เพราะเหนื่อยล้าราแรงแห่งการขุด จึงขอหยุดพักผ่อนขอนอนต่อ เพื่อนอีกคนทนทานเห็นงานรอ แต่เราขอเปลี่ยนงานเป็นการนอน พี่แอบถ่ายรูปตอนเรานอนหลับ ไฟแฟลชวับจึงตื่นขึ้นมาก่อน อาจเสียท่าอยู่บ้างแค่บางตอน เป็นบทเรียนที่สอนให้ระวัง พอตกดึกดูดาวพริบพราวพร่าง จันทร์กระจ่างแจ่มเยือนเตือนความหลัง นึกถึงเพลงเพลงหนึ่งซึ่งเคยฟัง ดึกแล้ว รั้งหัวใจให้รัญจวน เธอคนร้องเพลงนี้อยู่ที่ไหน จะรู้ไหมใจฉันแสนปั่นป่วน แผ่วเพลงดังโผยมาน้าตาครวญ ใจจะรวนแหลกแล้วเจ้าแก้วตา หวังวันหนึ่งข้างหน้าจะมาพบ บุญประสบวันใดจะไปหา ถัดอาทิตย์ถึงวันที่สัญญา (18 ต.ต. 35) จะโทรมาวันเกิดประเสริฐพร นิจจาเอ๋ย หนาวกายห่มหายหนาว พอถึงคราวหนาวใจไร้ผ้าผ่อน ยามค่อนคืนดื่นดึกไม่นึกนอน อนาถย้อนชะตา น้ำตากระเซ็น กว่าจะข่มตานอนค่อนยามสาม ทบทวนความเป็นไปที่ได้เห็น เพ่งมองคืนจันทร์คล้ายวันเพ็ญ ลมเย็นเย็นโบยกล่อมอ้อมอกไพร ฝากข้ามฟ้าฝ่าระลอกบอกคนรัก ถึงไกลสักแสนฟ้าอย่าสงสัย อาจมีเผลอมีพลั้ง ใช่ตั้งใจ แต่หนึ่งจิตดวงใจให้เธอครอง