นิราศสุรินทร์ (3)
13 ตุลาคม 2535
เรื่ออรุณอุ่นน้ำค้างกลางพงหญ้า ประกายพริบวิบมาท้องฟ้าผ่อง ปลุกชาวค่ายขึ้นสร้างทอทางทอง แล้วจัดของเร่งเตรียมยังเปี่ยมงาน พี่โอเป็นตากล้องของชาวค่าย คอยเดินถ่ายพบปะร่วมประสาน ส่วนพี่ตุ้ย นายกฯ ปรกองค์การฯ แจกแจงงานจัดระเบียบเรียบร้อยดี ที่เป็นห่วงพี่ปู ดูจะป่วย เราจะช่วยอย่างไรก็ใช่ที่ พี่จี๊ดฟันจอบชอบพาที พี่แหม่มมีหูกางออกขวางลม อีกพี่พจน์มือศิลป์ได้ยินชื่อ ใช้ฝีมือประสานงานประสม และพี่บูหุ่นเพรียวพุงเรียวกลม ยิ่งพี่แอ๊ดเพื่อนชมว่าเป็นควาย พี่ดุลเชื่อมเหล็กต่อก่อเป็นเสา เพื่อนเอ๋เอาทุกอย่างไม่ห่างหาย พี่เทืองทำงานเด่นสมเป็นชาย พี่โรจน์พี่อ๋องคล้ายพี่ชายเอง อีกพี่จิ๊บ พี่ศรีและพี่นัท สารพัดจัดสารเรียงงานเก่ง และพี่อ้อมชอบนั่งอยู่วังเวง น้องนาชอบบรรเลงบทเพลงพา ก้อยและขวัญจัดหาปรุงอาหาร ดุจแม่บ้านแม่เรือนมิเบือนหน้า ต๋อง ก๊อป เอ้ หนึ่งนั้น เพื่อนกันมา เอกภาษาไทยถ้วนล้วนเจ็ดคน เสร็จผู้ร่วมเดินทางมาต่างถิ่น รวมทั้งสิ้นยี่สิบห้ามาต่างหน จะขอเล่าความต่อข้อกังวล ถึงงานที่อดทนขึ้นลุกทำ วันที่สามถามพี่เรื่องที่หลุม พี่มารุมแล้วล้อเป็นข้อขำ ว่าไว้ฝังร่างเราเหล่าคนทำ บางคนย้ำว่าจำเพาะเหมาะกับเรา ต้องเร่งขุดหลุมไปให้ลึกอีก ตะวันหลีกหลบบ่ายแอบชายเขา ลมพาพัดผ่านไปมิใช่เบา แดดหยอกเย้าเล่นเงากับใบไม้ พอเย็นย่ำค่ำลงฟ้าปลงแดด ลับไฟแสดแผดรวงจากดวงใหญ่ ได้เวลานวลจันทร์อันอำไพ ออกอาบไออุ่นดาวสกาวดวง แล้วมาเร่งทาสีเสาที่เสร็จ มาสำเร็จเมื่อราตรีนี้ใกล้ล่วง ยามปัจฉิมราตรีสีเงินยวง ตะวันทวงสัญญามาย้อนรอย
14 ตุลาคม 2535 เช้าวันใหม่ไม่มีอะไรมาก ที่ลำบากทั้งคืนจึงยืนหงอย พอได้หลับพักเรียงเพียงเล็กน้อย อาสาคอยช่วยวัดจัดตู้ไป