ร ะ บำ อั ม พ ว า
ร ะ บำ อั ม พ ว า
หนึ่ง.
แดดชื้นหมาดสาดแรง
วังแสงฟุ้งฟ่องละอองฝน
ระยิบระยับทุกซอกซับความอับจน
หยาดหยดรดล้นยังหม่นโปรย
ชื้น ช้ำ ด่างดวง ร่วงลงซีเมนต์
กร่อนเซาะกะเทาะซ้ำเส้น หลีกเร้นความหิวโหย
แมลงวันกลุ้มรุม ชุมนุมตามกลิ่นโชย
ความร่วง ล้า รา โรย โดยสัจธรรม
คืบ คลาน เคลื่อนคล้อย ทยอยไปช้าช้า
ย่ำย่างทางข้างหน้า-ช้าถูกย่ำ
รอยเท้า แอ่งน้ำไหว ใครเหยียบซ้ำ!?
เคราะห์กรรมสาดกระเซ็นเป็นทางยาว
คลาคล่ำอึกทึกคึกคักหนัก
เพลงพร่ำคำรักนั่นเหมือนสั่นหนาว
เสียดสีเย้ยหยันฝันวามวาว
ชายผมขาวคนถือไมค์ คล้ายยั่วยิ้ม
หลากเรือหลากคนสับสน ถนน-ท่า
ส่ายหัวร้องว่า ไม่น่าอิ่ม!
หนึ่งชามไม่พอต้องขอชิม
ลิ้มอีกรสความคดโกง
ข้าวของฝากได้ ถ้าไม่มีค่า
หัวขโมยชักสีหน้าว่า ตายโหง!
ละล้าละลังนั่งลงก้งโค้ง
ข้างลำโพงของชายผมขาวนั้น
สอง
ชมหิ่งห้อยครับ! ชมหิ่งห้อย!
เด็กน้อยตกใจกลัวตัวสั่น
แม่จ๋า!นั่นอะไรกัน!
เขาขายหิ่งห้อยทอดมันในลำเรือ
หัวขโมยปาดน้ำลายป้ายมุมปาก
ก่อน ถุยขาก! ซากหิ่งห้อย อร่อยเหลือ
อยากได้อีกสักร้อยคอยจุนเจือ
เผื่อต่อชีวิตวันพรุ่งนี้...
ชูชีพครับ! ชูชีพ!
รีบใส่หน่อยอย่าถอยหนี
เสร็จแล้วลงเรือเชื่อฟังให้ดี
หิ่งห้อยมีพอสำหรับทุกคน
สาม.
กระจ่างกลางฟ้า...
จันทรายิ้มเศร้าเราหมองหม่น
ลิบวาวดาวใสไกลเสียจน
เอ่อท้นปวดร้าวเจ้าพระยา
อ้างว้างกว้างใหญ่
วอมแสงไหวหวั่นสั่นพร่า
ลำน้ำแม่กลองนองน้ำตา
ลำพูเพียงว่า ก็แค่นั้น...
วับวับแล้วลับหาย
เท่าเม็ดทรายละม้ายฝัน
เกรี้ยวกราดสาดกระเซ็นเป็นหมอกควัน
หันกลับไปไม่เหลือเงา
หิ่งห้อยมีพอสำหรับทุกคน
ถ้อยความสับสน โธ่! คนเขลา
แปดเปื้อนเกลื่อนไปใจของเรา
แสงเศร้าเท่าใดไม่เคยพอ...
สี่.
ชูชีพครับ! ชูชีพ!
รีบถอดคืนเร็วไวผมใคร่ขอ
ก้าวขึ้นบนท่าอย่ารีรอ
ลูกค้าคนต่อไปจะได้ลง
ห้า.
มืด เมา เขลาขลาดสาดแรง
วังแสงกลาดเกลื่อนเลื่อนหลง
หัวขโมยโดยชีวิตปลิดปลง
ดำดิ่งลึกตรงธรณีประตู
เพลงพรากจากกันยังสั่นไหว
ชายคนถือไมค์ ใครยืนอยู่
แขก เวียนเปลี่ยนหน้าคนมาดู
รอยยิ้มชั่วครู่ รู้...ชั่วคราว
สะพานแออัดสะพัดผู้คน
ความสุขจุกล้นเหลือจนจะกล่าว
ทึบเทาทึมทนถนนทางยาว
ยกกร่างย่างก้าวเหยียบเข้าเท้าใด
กว้างพอให้เดินไม่เกินหนึ่งสอง
เรื่องราวต่อรองแผดก้องร้านไหน
แว่วเสียงเปลี่ยวเหงาเศร้าลึกดึกไกล
หิ่งห้อยของใครพลัดในเวลา...
หก.
คงฝันควันฝุ่นกรุ่นฝ้า
ระอุคุฟ้า
คืบเคลื่อนเลื่อนมากว่าคืน
นั่นใครงันงกตระหนกตื่น
ชื้นหมาดหยาดชื้น
หมอกม่านน้ำตาพร่าพราย
เอ่อนองสะอื้น-ฝืนกาย
เหลียวเห็นเร้นหาย
หิ่งห้อยลอยลับวับไหว
เศษซากปีเดือนเกลื่อนไป
วอมแสงของใคร
หมายหมุดชำรุดทรุดพัง
แสนนานยังทานทนยัง-
รอฝันกลับฝั่ง
เลยล่วงรอนรานกาลยาว
ลำพูสะพรั่ง-ดั่งหนาว
สั่นใบไหวกราว
ซบราวนิ่งแน่แม่กลอง
เสียดลึกดึกไกลใครร้อง
ครวญคร่ำทำนอง
ซ้ำ นาน ปานใจสลาย
วังแสง ครืน คลั่ง พังทลาย
สะพานขาดสาย
ท่าเรือรกร้างทางหวัง
แสนนานยังทานทนยัง-
ไร้ฝันกลับฝั่ง
เลยล่วงรอนรานผ่านเลือน...
บันทึกการเดินทางไปอัมพวา พฤษภาคม2550